สันต์ สะตอแมน
ไม่ได้จะขัดคอให้ขัดใจ!
แต่ที่คุณสามารถ เจนชัยจิตรวนิช พูดถึงกรณีที่คุณรังสิมันต์ โรม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ
ได้แสดงความคิดเห็น ควรที่จะยุบหลักสูตร มินิ วปอ…“ฟังแล้วรู้สึกว่ามันขึ้น เพราะตนเห็นหลักสูตรไหนที่พรรคก้าวไกลไปเรียน หลายคนด้วย ทำไมท่านไม่ไปยุบ
ท่านบอกว่าต้องตัดตอนหลักสูตรคอนเน็กชั่น เอาผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ ออกให้ห่างๆ นักธุรกิจ ท่านคิดว่าทุกคนจะเป็นคนชั่วหมด ตัวเองเป็นคนดีอยู่คนเดียวหรือ…” แล้ว
ก็..อดไม่ได้ เพราะรู้สึกว่า “มันขึ้น” เหมือนกัน ยิ่งช่วงท้ายที่คุณสามารถหยิบยกเอาพระราชดำรัสและพระบรมราโชวาทของรัชการที่ 9 ที่ได้ตรัสไว้..
“ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี
หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้” ด้วยแล้ว
อยากถาม..มันเกี่ยวอะไรกับการยุบ มินิ วปอ.ด้วย..หือ?
คุณโรมแค่เสนอแนวความคิดที่ไม่อยากเห็นผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ ทหารมีคอนเน็กชั่น-ใกล้ชิดกับนักธุรกิจ ก็เท่านั้น!
และไม่เฉพาะคุณโรมที่รู้สึกและต้องการ คนทั่วไปอีกมากมายเขาก็คิด..ที่คิดก็ด้วยเห็นว่าบ้านนี้-เมืองนี้ มี “หลักสูตร” ประเภทพรรค์อย่างนี้กันมากเหลือเกินแล้ว
คือถ้า..คนดีคบค้าสมาคมกับคนดีก็โชคดีประเทศไป แต่หากคนดีหลงไปคบกับคนไม่ดี หรือคนไม่ดีไปผูกเสี่ยวกับคนไม่ดี คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ก็..บรรลัย!
คุณโรมคงไม่ได้จะยกตนว่าเป็น “คนดี” และก็คงไม่ได้หมายว่าหลักสูตรมินิวปอ.จะมากไปด้วยคนไม่ดี และ (อีกที) คงไม่ได้เกี่ยวกับคุณอุ๊งอิ๊งหรือคุณสามารถเรียนหลักสูตรนี้ด้วยเป็นแน่
แต่น่าจะเป็นการเสนอแนวคิดไปตามกระแส เสียงวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งก็ตรงกับความต้องการของสังคมส่วนหนึ่ง ที่มองว่า สารพัดหลักสูตรที่เปิดเรียนเปิดสอนกันนั้น..
เบื้องหลัง เจตนาลึก ก็เพื่อจะสร้าง “คอนเน็กชั่น” ทั้งเพ!
เอ้า..ส่วนนั่นอ่านปุ๊บก็รู้สึก “มันขึ้น” ปั๊บ ก็เจ้าเก่าคุณวันชัย สอนศิริ ศิษย์วัดไก่เตี้ยนั่นแหละ วานซืนโพสต์เท่ (ขออนุญาตตัดทอน)..
“..คุณทักษิณป่วยอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจปาเข้าไปเกือบ 5 เดือน จะกว้างหรือแคบแค่ไหนไม่รู้ เป็นผมก็คงจะบ้าตายไปแล้ว…
เป็นแบบนี้ผมขอเป็นมนุษย์เดินดินดีกว่าเป็นเทวดาชั้น14 นะ… ที่พูดๆ กันนั่นก็ลองกักตัวเองสักเดือนดูสิ คงอึดอัดแทบบ้ากันทั้งนั้น…
ถ้าเราทำใจนิ่งๆ ลด ละ เลิก ความโกรธความเกลียดลงไปได้ อาการคลุ้มคลั่งที่จะไปลุยโน่นลุยนี่คงลดน้อยถอยลง จิตใจคงจะปรองดองสมานฉันท์ขึ้น
ถ้ามีความรักต่อกันก็จะเข้าใจกัน นึกถึงประโยชน์ของส่วนรวมและประเทศสำคัญกว่า เราจมอยู่กับความโกรธความเกลียด ความขัดแย้งความอาฆาตมาเป็นสิบๆปี ฝังหุ่น
จนประเทศเดินไปไม่ได้ มาถึงขนาดนี้แล้ววางใจให้เป็นกลาง เอาประเทศเป็นที่ตั้งจะไม่ดีกว่าหรือ…
ลองคิดดู…ตอนเผด็จการครองเมืองมีเทวดาอยู่ตั้งหลายชั้น ทำอะไรใหญ่โตอยู่ตั้งเยอะแยะ ยิ่งกว่านี้เสียอีก ไม่เห็นมีใครพูดว่าทำลายกระบวนการยุติธรรม… ตรวจสอบก็ไม่ได้
ไม่เห็นมีใครว่าอะไรนี่ เงียบฉี่กันไปหมดกลัวหรือว่ารักเผด็จการเลยพูดไม่ออก แต่พอตอนเป็นประชาธิปไตย เรื่องแค่เนี้ยจะเอาเป็นเอาตาย สารพัดกล่าวหาถาโถมกันเข้ามา
ตกลงว่าเกลียดทักษิณหรือตั้งตนเป็นเจ้าหลักการแห่งความถูกต้องกันแน่…”
ประทานโทษ คุณวันชัยไก่เตี้ยเสียเองกระมังที่กำลังตั้งตนเป็นเจ้าหลักการแห่งความถูกต้อง เพราะเห็นคนอื่นที่เขาเรียกหาความยุติธรรมเป็นพวกจมอยู่กับความโกรธ-เกลียด
คุณวันชัยเชื่อรึว่านายทักษิณป่วยอาการปางตายถึงต้องนอนอยู่รพ.นานเกือบ 5 เดือน และที่ว่าตอนเผด็จการครองเมืองมีเทวดาอยู่ตั้งหลายชั้น ทำไมไม่พูด-ไม่แฉให้ได้รู้เสียตอนนั้น
หรือว่าได้ประโยชน์โพดผลจากเผด็จการอยู่ ปากเลยไม่ว่างเหมือนตอนนี้?
อ้อ..และที่ว่า “เรื่องแค่เนี้ยจะเอาเป็นเอาตาย” ถ้าคุณวันชัยมองเรื่องนักโทษทักษิณแบบชิลๆสบายๆ ก็ลาออกจากตำแหน่งสว.เสียเถอะ..
เปลืองเงินภาษีประชาชนน่ะ!