“ลุงป้อม” ที่ไม่มีวันตาย – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

ไม่รู้จักตัวท่านหรอก
แต่ในฐานะ FC ขอบอกว่า “คิดถึงท่านนะ” และ “สวัสดีปีใหม่” ท่านด้วย
ก็ “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” หรือ “ลุงป้อม” นั่นแหละ
ถ้านับตามอายุ ท่าน “น้องผม”
แต่ยกให้เป็น “ลุง” เพราะผมยังหนุ่มกว่าเยอะ

ถ้าพูดถึงความหล่อ ตรงนี้ พอฟัด-พอเหวี่ยง และขึ้นอยู่กับสเปกใคร-สเปกมัน!

แต่วันนี้ ต้องขอถอนคำพูดที่ว่า “ผมหนุ่มกว่า” เพราะเมื่อวาน (๗ มค.๖๖) ลุงป้อมในฐานะผู้นำ “พรรคพลังประชารัฐ” ไปเพชรบูรณ์

เห็นหุ่นท่านแล้ว ต้องร้อง..ว้าวววว!
หลังเลือกตั้ง หายหน้าไป ๓-๔ เดือน นึกว่าลุงถอดใจ ที่ไหนได้ แอบไปฟิตซ้อม เข้าคอร์ส “เสริมหนุ่ม” มาแหงๆ

เพราะจากที่ตุ้มต๊ะ ตุ้มตุ้ย….
ตอนนี้พุงสเลนเดอร์ หน้าอิ่มเอิบ มีสง่าราศี ยังกะโชกุน ตายิ้มได้ แถมมีประกายสดใส

เห็นแล้วก็ดีใจนะ ไม่บอกหรอกว่า “ลุงป้อม สู้..สู้”
เพราะพูดอย่างนั้น เหมือนหมิ่นชายชาติทหารที่ผ่านมาแล้วทุกสมรภูมิชีวิต

แค่ไม่ได้เป็นนายกฯ วันนี้ ก็ใช่ว่าวันหน้าก็จะไม่มี จริงมั้ย..ลุง?

ขอเพียงลุงป้อมไม่สลัดนวมทิ้งแล้วลงจากเวทีเท่านั้น โอกาสเป็น “แชมป์” ยังมีเสมอ
ลุงป้อม ไม่ใช่พันธุ์ทหาร “แมลงป่อง” ที่ดีแต่ชูหางอวดอ้า
แต่เป็นพันธุ์ “ทหารเสือ”!

เสือย่อมมีลาย มีศักดิ์ศรีที่จะไม่กินเนื้อเก่า ไม่มั่นใจ จะไม่สยายกรงเล็บ และเมื่อออกล่า
เพียงสาบเสือโชย สัตว์ทั้งป่า ก็ผวาตื่นว่า “เจ้าป่า” มาแล้ว!

เห็นลุงประกาศ ต่อจากนี้ ในฐานะเจ้าสำนัก “พลังประชารัฐ” จะเดินสายไปพบปะประชาชนในแต่ละจังหวัด
เพื่อแจกแจงให้ทราบว่า….

๔ เดือนที่ผ่านมา รัฐมนตรี “พลังประชารัฐ” ทำอะไรให้ชาวบ้านเป็นผลงานสำเร็จแล้วตามสัญญาบ้าง
ผมเชียร์ครับ..ลุง

ไม่ใช่เลือกตั้งที ก็ลงไปที มันต้องแบบนี้ คนไทยทุกจังหวัด เลือก-หรือไม่เลือก ไปว่าเขาไม่ได้

แต่ควรพิจารณา “ตัวเรา-พรรคเรา” ว่ารักเขา จริงใจกับเขา ลงไปพบปะเยี่ยมเยียน ไต่ถามสารทุกข์สุขดิบเขาสม่ำเสมอหรือไม่?

ช่วย “ได้มาก-ได้น้อย” เป็นอีกเรื่อง

ที่สำคัญ อย่าได้หายหน้า-หายตา “เป็นคน..ต้องมีหัวใจ” ส่วนเรื่องตำแหน่ง “มี-ไม่มี” นั่นแค่หัวโขน

แค่เอาใจไปผูกใจ กินข้าวด้วยกันซักคำ ดื่มน้ำจากขันดำๆ ใบเดียวกันซักอึก นั่นมันดื่มด่ำยิ่งกว่า “ดื่มน้ำสาบาน” กันซะอีก!

ภาพลุงป้อม เหมือน “พระสังกัจจายน์”
มีเสน่ห์ในตัว ใครเห็นก็รัก เป็น “ลุงป้อมใจดี” ของลูกๆ หลานๆ ของพี่ๆ น้องๆ

ไม่ต้องเอาอะไรไปให้เขาหรอก
แค่ลุงป้อมไปเยี่ยม ไปนั่งให้เขาลูบพุง พกปีโป้ไปแจกเด็กๆ คนละอัน แค่นั้น ชาวบ้านก็แทบจะหอบผ้า-หอบหมอน หนีตามมาอยู่กับลุงแล้ว!

ลุงป้อมเนี่ย เป็นคนมีกรรมอย่างหนึ่ง
อดีตชาติ “คงอิจฉา-ริษยา” คนอื่นไว้มาก มาถึงชาตินี้ ด้วยวัฏฏะแห่งกรงกรรม ลุงป้อมจึง “ถูกกระทำ” ในเชิงริษยาเป็นการชดใช้

ดูซี…พอเข้าการเมือง ในฐานะ “พี่ใหญ่ ๓ ป.”
ก็เป็น “ป้อมปราการ” ที่ตกเป็นเป้าทำลายจากฝ่ายตรงข้าม เรื่องจริง-เรื่องไม่จริง ถูกสาดใส่-ระบายสี จนเป็น “ลุงป้อมจอมโกง” ไปทุกเรื่อง

อย่างเรื่อง “แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน”

จริงๆ แล้ว เรื่องนาฬิกา มันขี้หมาแท้ๆ พวกเล่นนาฬิกาเรือนละเป็นสิบล้าน-ร้อยล้าน เขามีกลุ่มเขาอยู่

คนในกลุ่ม ชอบเรือนไหน ใครจะเวียนกันเอาไปใส่ เป็นเรื่องธรรมดา ผมก็เคยเห็น ยิ่งกลุ่ม “เซนต์คาเบรียล” ของลุงป้อมด้วยแล้ว

ขอโทษ…ถ้าสังคมโลกนิยมนาฬิกาตีน กลุ่มบ้านาฬิกาของลุงป้อม ก็คงมีนาฬิกาตีนฝังเพชรให้ลุงป้อมยืมมาใส่

ถามว่า ลุงป้อมยากจน ไม่มีเงินแค่ซื้อนาฬิกาแพงๆ เองซักเรือนหรือ ถึงต้องเอาของคนโน้น-นี้มาใส่?
ซื้อซักกระสอบก็ได้

แต่คนมีสมองคิดจึงเป็นเศรษฐี ดังนั้น คนพวกนี้ เขารู้ว่านาฬิกาแพง ผลิตออกมาเพื่อเป็น “ของเล่นเศรษฐี”

เมื่อเป็นของเล่น จะบ้าซื้อกันทุกคนทำไม มึงซื้อโน่น-กูซื้อนี่ ใครพอใจใส่เรือนไหน ก็เอาไปใส่ เวียนกันไปในหมู่พวกเขา

เพราะคนส่วนหนึ่ง ไม่รู้วัฒนธรรมเศรษฐี แต่อีกส่วนรู้ จึงอาศัยช่องจากคนไม่รู้ หยิบตรงนั้น เป็นช่องทำลายผ่านตัวลุงป้อม ซึ่งเป็น “จุดสลบ” ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์

การใส่ร้าย-ป้ายสี เพื่อทำลายคนน่ะ มันง่าย
เพราะพื้นฐานจริตมนุษย์…….
ไม่ชอบเห็น “ใครดี-ใครเด่น” กว่าตัวเอง จะอิจฉา และมองในมุมร้ายไว้ก่อน

ฉะนั้น แค่ลุงป้อมใส่นาฬิกาแพง….
ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งมีเป้าหมาย “ทำให้ลุงป้อมฉิบหาย เท่ากับได้ทำลายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์” มันก็แค่นั้น

แล้วเห็นมั้ย…..
วันต่อมา มีนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ขับรถเบนซ์และเบนท์ลีย์ ไปสภาหรือทำเนียบนี่แหละ

นักข่าวไปถาม “แจ้งไว้ในบัญชีทรพย์สินหรือเปล่า?”
คำตอบจากนักการเมืองนั้น คนหนึ่งบอก “เพื่อนเอามาให้ใช้” อีกคนบอก “ของลูก ยืมมาขับ”

เงียบฉี่ ไม่มีนักสืบโซเชียล ไม่มีสำนักข่าวไหนไปคุ้ยแคะว่าจริงมั้ย เหมือนกรณีนาฬิกาลุงป้อม!?

ไม่ต้องดูอื่นไกล อย่างตอนเศรษฐาเป็นนายกฯใหม่ๆ ขับรถป้ายแดงยี่ห้ออะไรก็ลืมไปแล้ว แต่เป็นยี่ห้อหรู-ราคาแพงไปทำเนียบ

นายกฯ บอกว่า “ของลูก เอามาขับ”
ก็จบ…ทุกคนเชื่อหมดว่า “เอารถลูกมาขับ”

มี “ลุงป้อม” คนเดียวในโลกเท่านั้น ที่ประโคมข่าวกันจนไม่มีใครเชื่อว่า เอานาฬิกาเพื่อนมาใส่?

เพราะอะไร….?
เพราะลุงป้อมเป็น “พี่ใหญ่” ของอีก ๒ ป.ที่คว่ำชามข้าวเพื่อไทยทิ้ง ในยุคยิ่งลักษณ์!

ตอนนี้ เมื่อพูดถึง “ลุงป้อม” ลืมหมดแล้วเรื่อง “นาฬิกาเพื่อน” เพราะลุงป้อม หมดความจำเป็นที่ต้องใช้เป็นสายชนวน “จุดระเบิด” ใส่รัฐบาลประยุทธ์แล้ว

ทั้งเชื่อกันว่าลุงป้อม “หมดบุญ-หมดบารมี” ที่จะมาแข่งเก้าอี้นายกฯ กับใครแล้ว

ฉะนั้น ถ้าได้ยินใครยกเรื่อง “นาฬิกาลุงป้อม” มาพูดอีก ก็ขอให้เข้าใจว่า นั่น…รัศมีลุงป้อมกำลังทาบขึ้นมาแข่งอีกแล้ว

การเมืองน่ะ ตัวเองไม่ต้องเป็นนายกฯ ก็ใหญ่ได้

ดูอย่างทักษิณซิ
เป็นนายกฯ ซะที่ไหน นักโทษแท้ๆ แต่ทุกคนก็ให้เครดิตว่าใหญ่กว่าเศรษฐา ส่วนเศรษฐา แค่ “ม้าทรง” ทักษิณ!

เนี่ย…พูดด้าน “วิบากกรรม” ลุงป้อม
ก็ให้ถือซะว่า “กรรมเก่าชดใช้-กรรมใหม่ไม่ก่อ” อย่าไปผูกพยาบาท-ฆาตพญาเวร กับใคร

ลุงป้อม แค่ ๗๘-๗๙ หนุ่มใหญ่ “เดอะ ยัง วัน” ยังไม่ถึงขั้น “ใกล้ปลิดขั้ว” เหมือนผม

ท่านไม่ใช่ “คนขี่หลังเสือ”
แต่ท่าน “เป็นเสือ” ฉะนั้น ทิ้งลายไม่ได้

ประธานาธิบดี “โจ ไบเดน”อายุ ๘๒ ปี
“โดนัลด์ ทรัมป์” อายุ ๗๘ ปี

เห็นประกาศ จะลงสู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯกันอีก

ลุงป้อมแค่ ๗๙ ถ้าถอดใจ ก็ไปบวชเป็นฤาษี ไกลๆ แม่ชีสาวๆ กินเผือก-กินกลอย อยู่ “บ้านป่ารอยต่อ ๕ จังหวัด” โน่นซะ!

“ญี่ปุ่น” น่ะ ก้าวหน้าวิทยาการระดับโลก แต่ก็ยังไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่า “แผ่นจะไหวตรงไหน เมื่อไหร่ในญี่ปุ่น?”
“การเมืองไทย” ช่วงนี้ ก็ประมาณนั้น

ญี่ปุ่น ในภาพรวม ก็รู้ทั้งโลกแหละว่า อยู่ในแนวเลื่อนเปลือกโลก ไหวกันจนไม่ไหวจะใส่ใจแล้ว

การเมืองไทย ก็รู้กันทั้งโลกแหละว่า ……..
อยู่ในแนวเลื่อน “ประชาธิปไตยโจร-เผด็จการทหารปราบโจร” จะไหวหรือไม่ไหวเมื่อไหร่-ตอนไหน ค่าเท่ากัน ป่วยการจะใส่ใจแล้ว

เพราะ “แผ่นดินไหว” เป็นเรื่องธรรมชาติเมืองญี่ปุ่น
“ประชาธิปไตย-เผด็จการทหาร” ก็เป็นธรรมชาติเมืองไทย!

วันนี้ คุยอะไรไม่เป็นเนื้อ-เป็นหนัง
ที่ “เป็นเนื้อ-เป็นหนัง” เห็นจะเป็นเรื่อง “ดิจิทัลวอลเลต” ๕ แสนล้านของรัฐบาลส่งคำถามไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาว่าทำได้-ไม่ได้แค่ไหนนั้น

นายกฯ เศรษฐาบอกว่า ทางกฤษฎีกาส่งคำตอบมาแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ ๖ มกรา.!
ลองนายกฯเศรษฐาตอบสั้นๆ ก็ไม่ต้องสงสัยว่ากฤษฎีตอบว่าไง?

ถ้า Yes ละก็นะ
เศรษฐา “น้ำท่วมทุ่งไปแล้ว!”

เปลว สีเงิน
๘ มกราคม ๒๕๖๗

Written By
More from plew
“การเมืองหน้ากาก” ไทย-สหรัฐ
เนี่ย………. ด้วยตำแหน่ง “โฆษกรัฐบาล”! ถ้าจะตำหนิ “นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ก็ต้องตำหนิกันในเรื่องนี้แหละ คือเรื่องการใช้มาตรการควบคุมโควิดกับบุคคลต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศช่วงนี้
Read More
0 replies on ““ลุงป้อม” ที่ไม่มีวันตาย – เปลว สีเงิน”