3 มกราคม 2567 นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระแรก ในวันแรก ว่า ก่อนอื่นตนต้องขอชื่นชมการทำงานอย่างรวดเร็ว ของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีกหลาย ๆ ท่าน อย่าง การเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 เป็น “โฉนดเพื่อการเกษตร” โดยวันที่ 15 ม.ค.นี้ นายกรัฐมนตรีจะคิกออฟแจกโฉนดเพื่อการเกษตร ตนต้องขอขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ แทนเกษตรทั่วประเทศ
นายวรโชติ กล่าวต่อว่า อีกเรื่องหนึ่งที่ตนขอดีใจล่วงหน้า โดย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนให้กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลิตแพทย์ให้ได้ 3 คนต่อ รพ.สต. 1 แห่ง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สร้างประโยชน์ให้ประชาชนอย่างมาก เพราะในพื้นที่ทุรกันดาร รพ.สต.ถือเป็นความหวังของชาวบ้านในการรักษาพยาบาล
“แต่ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากให้เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ ก็คือ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ซึ่งวันนี้ค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้น แต่เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุยังเท่าเดิมอยู่ มันไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ผมขอเสนอให้เพิ่มเป็น 1,000 บาทต่อเดือน ทุกช่วงอายุ ตกแค่วันละ 30 บาท“นายวรโชติ กล่าว
นายวรโชติ ยังกล่าวต่อถึง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นอีกหนึ่งนโยบายหลักของพรรคพลังประชารัฐ จำนวน 300 บาท ตนคิดว่าไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงต้องการให้เพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน สอดรับกับราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคที่สูงขึ้น
“ผมให้ความเห็นชอบกับงบประมาณปี 67 จากที่ผมดูรายละเอียดในเล่มงบประมาณ ผมไม่เห็นงบในส่วนของการพัฒนาโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็น อาคารเรียน โต๊ะ เก้าอี้ เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ขอให้รัฐบาลเพิ่มงบประมาณในส่วนนี้เพื่อมาดูแลนักเรียนด้วย โดยเฉพาะโรงเรียนที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ในจังหวัดเพชรบูรณ์ เช่น รร อนุบาลวังโป่ง ที่ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วม ทำให้อาคารเรียนทรุด และคุรุภัณฑ์เสียหาย อยากให้รัฐบาลเร่งจัดสรรงบประมาณในการช่วยเหลือ กับโรงเรียนที่ประสบปัญหาภัยน้ำท่วมโดยเร็ว เพื่อให้นักเรียนสามารถกลับมาเรียนหนังสือได้ตามปกติ”