สันต์ สะตอแมน
“แมนยู มีแต่ใจอย่างเดียว ฝีมือไม่ค่อยมี”
ยังดีนะ..ผมเป็นสาวกแมนซิฯ ไม่งั้นก็จะบอกกับคนพูด ว่าก็เหมือนกับ “คุณเศรษฐา ทวีสิน” นายกฯนั่นแหละ เพราะได้ยินคนเขานินทากันทั้งบ้าน-ทั้งเมือง..
“เศรษฐามีแต่ใจ (เดินทาง) อย่างเดียว ฝีมือไม่ค่อยมี”!
ยิ่งไปกว่ายังถูกมองไม่ใช่นายกฯเล่นจริง-เจ็บจริง แต่เป็นแค่ “สแตนด์อิน” อีกต่างหาก ก็ขนาดผู้สื่อข่าวทำเนียบฯ ยังรวมหัวกันมอบฉายา“เซลส์แมนสแตนด์ชิน”ให้เลย!
เอาล่ะ..ฝีมือ (บริหารประเทศ) ไม่มีก็จริง แต่กับ “คำขวัญวันเด็ก” ที่คุณเศรษฐาคิด-กลั่นออกมา เพื่อมอบให้กับเด็กๆเนื่องในโอกาส “วันเด็กแห่งชาติ” ปี 2567..
“มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย” นั้น
ผมเห็นต้องขอปรบมือ-ชื่นชมด้วยความจริงใจ เพราะอ่านแล้วให้รู้สึกตรงจริต ดูเข้าท่า-เข้าทาง ทั้งไพเราะ สัมผัสคล้องจอง มีพลัง!
ว่าแต่ท่านนายกฯเถอะ..3-4 เดือนผ่านมา ได้คิด-ทำอะไรที่สร้างสรรค์เป็นรูปธรรมให้เห็นบ้าง นอกจากเดินทางๆๆ และที่แวบไปดูน้ำท่วมที่ จ.นราธิวาสวานซืน..
ได้ข้อมูลอะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้างล่ะ อย่างเช่นว่าดินจากภูเขาเมาะแต ที่ถล่มลงมา ณ บ้านบระเอ็ง ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ
ทำให้มีคุณครูสามี ภรรยา 2 ราย ถูกน้ำป่าจากดินโคลนถล่ม พัดพาร่างจนเสียชีวิตทั้ง 2 ท่านไปอย่างน่าเศร้าสะเทือนใจ
ใช่..เหตุจากภัยธรรมชาติ แต่คุณเศรษฐาต้องสืบรู้ให้ถึงยอดเขา ว่าตลอดมาได้มีการแอบลักลอบตัดไม้ทำลายป่ากันบ้างหรือไม่?
ชาวบ้านน่ะตอบได้แน่ แต่ถ้าไปถามข้าราชการ-เจ้าหน้าที่ก็เห็นจะอีแบบเดียวกับคำถาม..นักโทษเด็ดขาดชั้น 14 เมื่อไหร่จะถูกนำกลับเข้าเรือนจำนั่นแหละ..โยนกันไปโยนกันมา !
อ้อ..และนายกฯ ก็จงรู้ด้วยว่า หลังจากขึ้นกลับมาทำเนียบแล้วนั้น ที่โน่นชาวบ้านต่างคนต่างเครียดกับสถานการณ์ภัยพิบัติที่ไม่เคยปรากฎในรอบ 50-60 ปี
และสถานการณ์ตอนนี้ชาวยะลา-ปัตตานี ก็กำลังกังวล-ทุกข์ใจกับมวลน้ำจาก “เขื่อนบางลาง” ที่ไม่รู้ว่าจะรับน้ำได้ไหวหรือไม่ และจะระบายน้ำออกมาเมื่อไหร่ หรือค่อยๆ ระบายอยู่?
เพราะถ้าเขื่อนบางลางรับน้ำไม่ไหวและระบายพรวดออกมา ให้ลองหลับตานึกภาพก็แล้วกัน..คุณเศรษฐากลับมากทม.แล้วก็อย่าลืม..สั่งๆๆ กำชับขันเกรียวทุกหน่วยงาน..
เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ทั่วถึง และเร่งกอบกู้สถานการณ์น้ำให้แห้งหาย เพื่อชาวบ้านจะได้กลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติในเร็วไว!
ก็..ขอให้พี่น้อง 3 จังหวัดปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส จงปลอดภัย ผมเห็นนักการเมือง สส. รัฐมนตรียกโขยงกันลงไปซับน้ำตาแล้วให้รู้สึกปลื้มปิติ-ชื้นใจเป็นนักหนา..
แต่..เสียดายว่า ที่เห็นเป็นเพียงในฝัน ก็ขนาดสส.ในพื้นที่ มีคนนินทางไกลให้ได้ยิน..แทบไม่เห็นหน้าเลย!
ครับ..วันนี้คงจะเป็นวันสุดท้ายของปี 2566 กับคอลัมน์ “วิสามัญบันเทิง” จะกลับมาพบมาคุยกันอีกที ก็วันพุธที่ 3 มกราคม ปีหน้า-2567 นู้น!
จึงใคร่ขอถือโอกาสได้กล่าวร่ำลาส่งท้ายปีกันเสียตรงนี้ พร้อมคำอำนวยพรที่คุ้นชินถึงท่านผู้อ่านทุกเพศทุกวัยทุกท่าน..
“เนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2567 ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านและครอบครัวของท่านนับถือ..
ช่วยดลบันดาลให้ชีวิตพบเจอแต่ความสุข ความเจริญ มั่งคั่งยิ่งๆ ขึ้นไป
ขอให้ห่างไกลจากความทุกข์ตลอดทั้งปี และตลอดไป..
สุขสันต์วันปีใหม่ครับ!