สันต์ สะตอแมน
โง่สิ โง่สิ เพราะฉันโง่สิ!
ใครที่เป็นคอเพลงลูกทุ่ง เป็นแฟนพี่เป้า-สายัณห์ สัญญา คงจะให้นึกถึงเสียงร้อง(แหบเสน่ห์)เพลงนี้ขึ้นมาบ้างแหละ หลังจากที่ได้อ่านข่าว..
” ขอโทษ ผมกราบขอโทษทุกคน ประชาชนทุกคน แฟนๆ รวมถึงคนทุกคนที่ผมรู้จัก ที่มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดจากการที่ ผมโง่เอง
ผมไม่รู้ ผมไม่มีประสบการณ์ ผมเชื่อใจคนง่าย แล้วผมก็คิดว่าทุกอย่างมันคือเรื่องจริง ทั้งๆที่ท้ายที่สุดแล้ว ผมก็เป็น แค่เด็กคนหนึ่งที่ถูกหลอกใช้ …
ส่วนจะดำเนินคดีหรือไม่นั้น ขอปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน ตนเหมือนเป็นแพะรับบาป”
ซึ่งก็เป็นการให้สัมภาษณ์ของพระเอกคนดัง “บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ บุตรพรม” ที่เคยโพสต์ว่าตนนั้นโชคดีถูกรางวัลที่ 1 จากการซื้อล็อตเตอรี่ของหงส์ทอง
และที่ออกมาให้สัมภาษณ์นี้ ก็ด้วยคุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล ออกมาแฉขบวนการจ้างหน้าม้าจัดฉากถูกหวย โดยบิ๊กเอ็มก็เป็นหนึ่ง “หน้าม้า” ที่ยอมรับ..
“ตอนที่ตนโพสต์ว่าถูกหวย 24 ล้าน เพราะเขาส่งให้โพสต์ และตอนหลังมาเปลี่ยนให้เป็น 6 ล้าน ที่ให้โพสต์เพราะต้องการให้เป็นกระแสเฉยๆ เพิ่งเริ่มรู้สึกมาไม่กี่วันนี่เอง
พอเริ่มมาลำดับเหตุการณ์ มีหลายอย่างผิดปกติ เลยรู้สึกว่าถูกหลอกแล้ว เพราะตั้งแต่นั้นมา ยังไม่ได้เงิน”
นี่..เห็นต้องขอบคุณคุณณวัฒน์เอาไว้ณตรงนี้ ไม่ว่าจะทำไปด้วยความโกรธส่วนตัวหรือจะด้วยเหตุผลอื่นใด แต่การออกมาแฉในเรื่อง “หวยทิพย์” ครั้งนี้
อย่างน้อยนอกจากจะช่วยทำให้สังคมได้ฉุกคิด-ตื่นรู้กับแผนตลาดการขายหวยออนไลน์แล้ว ด้านหนึ่งดารา นักแสดง นักร้องก็น่าจะเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้วว่า..
การได้ผลประโยชน์กับวิธีการที่ทำอยู่ มันเป็นการหลอกลวงประชาชน!
ผมจะไม่เจาะจงหรอกว่ามีใคร-หน้าไหนบ้าง ซึ่งก็เห็นๆ และรู้ตัวเองกันดีอยู่แล้ว เลิกได้-หยุดได้ก็พอแค่นี้ ที่ผ่านมาถือเสียว่า เป็นความโง่ เป็นแพะ..
ต่อไปข้างหน้าก็อย่าให้ถึงกับมีคนชี้หน้าเป็น “คนตอแหล-หลอกลวง” เลย..พอที!
ส่วนคุณณวัฒน์ ก็อยากให้ลุยต่อ ขุดคุ้ยเอาหลักฐาน-ความจริงออกมาเปิดเผยให้ถึงที่สุด และที่เจ้าตัวโพสต์..
“คนที่ถูกหวยของหงส์ทองที่มิสแกรนด์ไปมอบรางวัลติดต่อด่วน ถ้าไม่ถูกจะกันเป็นพยาน แต่ถ้าไม่ติดต่อจะกลายเป็นผู้ต้องหา ติดต่อที่@nawat”
ก็หวังว่าดารา-คนดังจะได้ถือโอกาสแสดงความกล้าหาญ เผยตัว-เปิดความจริง เพื่อเป็นการ “ล้างบาป” ให้แก่ตัวเองกันนะ!
ครับ..พูดถึงความกล้าหาญ ตอนนี้เห็นจะไม่มีใครเทียบได้กับคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อีกแล้ว ถ้าเปรียบพระเอกหนังก็ระดับ “เจมส์บอนด์” ปานนั้น
ตอนนี้สู้ทั้งโจร-ทั้งตำรวจ จนคนดูกองเชียร์ต่างพากันหวั่นวิตก ลำพังโจร-ผู้ร้ายยังไม่เท่าไหร่ แต่กับตำรวจนี่สิ คนเขาห่วง-เขากลัว
แต่เมื่อคุณชูวิทย์ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านหรือกริ่งเกรงภัยอันตรายใดๆ ตามแบบฉบับเจมส์บอนด์ ในฐานะกองเชียร์ก็ขอเป็นกำลังใจ-แรงใจกันต่อไป..
จนกว่าหนัง “ตู้ห่าว” จะอวสานนู้นแหละ!
เอ้า..แต่นี่จบแล้ว ส่วนจะแฮปปี้เอนดิ้งหรือไม่ ฟัง (อ่าน) จากปากพระเอก คุณน้ำ-รพีภัทร เอกพันธ์กุล เอาก็แล้วกัน..
“สัญญากับช่อง (7) หมดแล้วครับ หมดเมื่อปี 65 ที่ผ่านมาครับ ตอนนี้ถือว่าเป็นนักแสดงอิสระแล้วครับ..ผมอยู่ในสัญญามา 20 ปีแล้วนะ
ตอนนี้พอหมดสัญญาแล้วเรียนรู้ ได้ทำงาน ได้ศึกษาอะไรใหม่ๆ ด้วย ส่วนใหญ่นักแสดงที่หมดสัญญา พอออกมาปุ๊บจะถูกมองว่าเนรคุณ
อันนี้ต้องให้เขาดูจากงานที่ผ่านมามากกว่า เพราะว่าตลอดระยะสัญญาที่ผ่านมา เราก็ทำหน้าที่ของเราแบบเต็มความสามารถ แล้วก็รับผิดชอบทุกอย่างเต็มที่อยู่แล้ว”
20 ปี..สมควรแก่เวลา!