ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
ทอนครับ..
ผมมีเรื่องจะปรึกษา ตอนนี้พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไปแล้ว ทอนก็ถูกตัดสิทธิ์ ห้ามยุ่งเกี่ยวการเมืองเป็นเวลา 10 ปี!
นั่น..เท่ากับทอนจะได้กลับมาสู่ถนนการเมืองใหม่อีกครั้งตอนอายุ 53 ปี ซึ่งก็ไม่ถือว่าแก่เกินแกงกับการที่จะ “สานต่อ” ภารกิจคณะราษฎร 2475
เวลา 10 ปี จะว่านานก็ใช่ จะว่าประเดี๋ยวเดียวก็ใช่ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ทอนก็จะได้รับ “อิสรภาพ” กลับมาเป็นนักการเมืองอยู่ดี
ที่ผมจะปรึกษาก็คือ..เวลานี้บ้านเมืองกำลังประสบกับปัญหารอบด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ธรรมชาติ โรคร้าย..
ประชาชนเครียด สับสน กังวล จิตตกไปทั่วทุกหย่อมหญ้า!
อย่างไรก็ตาม ก็ยังพอมีช่องทางที่จะแก้ไขให้ทุเลาเบาบางลงได้ จะช้าบ้าง-เร็วบ้าง คงไม่ถึงกับทำให้ชาติบ้านเมืองหายนะ หรือล่มสลาย!
แต่..ที่เริ่มเห็นเค้าลางชาติบ้านเมืองจะพินาศย่อยยับ ก็จาก “ไฟ” ที่ทอนได้พยายามจุดขึ้นในใจของคนรุ่นใหม่ ซึ่งตอนนี้มันได้ลุกติดขึ้นแล้วสมความปรารถนาของทอน
ฟ้ารักพ่อ..ทอนคงคิด-เข้าใจเอาอย่างนั้น ซึ่งก็ถูกและจริง เหมือนกับที่คุณทักษิณเชื่อว่าคนไทยรัก-เทิดทูนเขา จึงได้พยายามที่จะคิดทำการใหญ่เกินตัว จนที่สุดก็ไม่แผ่นดินอยู่!
เวลานี้แทบทุกมหาวิทยาลัย จึงได้เกิดปรากฏการณ์ “แฟลซม็อบ” ขึ้นอย่างพร้อมเพรียง และทอนก็คงจะนั่งกระหยิ่มยิ้มย่องกับความสำเร็จของอุดมการณ์ที่คิด-ที่ตั้งใจ และ “ความรัก” ที่น้องฟ้ามีให้
ทอนครับ..ยิ้มเถอะ ยิ้มให้มาก แต่ผมไม่อยากให้ลำพองไป เพราะในขณะที่มีคนรักนั้น คนเกลียดก็ย่อมจะมีอยู่คู่กัน ไม่งั้นคงไม่มีสำนวนที่ว่า..
คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ!
และเพราะมี “คนชัง” นี้แหละ บรรดาน้องฟ้าในมหาวิทยาลัยจึงได้แสดงปฏิกิริยากับผู้ที่เห็นต่าง หรือวางตัวอยู่กลางๆ ไม่ร่วมกลุ่มม็อบ..
เป็นสลิ่มบ้าง ไม่มีสมองบ้าง รับใช้เผด็จการบ้าง..สุดแท้แต่จะคิดคำถากถาง เสียดสีกันขึ้นมาชี้หน้าประณาม!
ผมไม่ได้จะกล่าวหาหรือโทษ ว่าทอนกำลังสร้างความแตกแยกในหมู่เยาวชน-นักศึกษา แค่เพียงอยากให้ทอนได้รู้และจำใส่กะโหลกไว้..
หากมีเหตุการณ์ปะทะกันของเยาวชน-นักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย ทอนจะได้ไม่ต้องชี้หน้าเป็นเพราะ “เผด็จการ”!
ทอนจะจุดไฟขึ้นในนาคร หรือจะเป็นผู้ดับไฟในมหาวิทยาลัย ต้องคิดใคร่ครวญให้รอบคอบด้วยสติสัมปชัญญะนะ ผมไม่อยากให้ประวัติศาสตร์บันทึกว่า..
ประชาชน-คนไทยแตกแยกเพราะทักษิณ นักศึกษาเข่นฆ่ากัน..เพราะทอน!