การเมืองซ่อนมีด – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

เหมือนจะดี…

ฝั่งหนึ่งกำลังเข็นกฎหมายนิรโทษกรรม

อีกฝ่ายตั้งหน้าตั้งตา เดินไปสู่จุดหมาย จะพาประเทศสู่ความเป็นประชาธิปไตยแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในไทย แต่ก็สร้างความหวาดหวั่นว่าจะกลายเป็นความขัดแย้งรุนแรง ของคนในชาติอีกครั้ง

แนวคิดทางการเมือง เป็นเรื่องที่เถียงกันไม่มีวันจบ

ต่อให้มีแนวคิดเหมือนกัน ก็ใช่ว่าจะเห็นด้วยไปเสียทุกเรื่อง

ดูฝ่าย ๓ นิ้วเป็นตัวอย่าง

พรรคก้าวไกล กับคณะก้าวหน้า ปีนเกลียวกันก็มีให้เห็นบ่อยๆ

ฝ่ายสามนิ้วเองใช่ว่าทุกคนจะเป็นสาวกพรรคก้าวไกลไปเสียทุกคน

แม้กระทั่งคนเสื้อแดง มีจำนวนไม่น้อยที่เลิกสนับสนุนพรรคเพื่อไทย

หรือแม้แต่ฝ่ายที่ถูกเรียกว่าอนุรักษนิยม ก็ใช่ว่าจะเป็นแฟนคลับ “ลุงตู่” ซะทุกคน

การเมืองวันนี้เหมือนรู้หน้าไม่รู้ใจ

เพราะการแยกแยะว่าใครเป็นใคร มีแนวคิดอย่างไร ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อีกต่อไป

ต้องคุยกันให้ตกผลึกพอสมควร

พรรคเพื่อไทยมีแนวคิดที่จะเข็นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่แตกต่างไปจากพรรคก้าวไกล อาจรวมไปถึงพรรครวมไทยสร้างชาติที่เป็นรัฐบาลด้วยกัน

นับเป็นเรื่องแปลก ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทยกระเหี้ยนกระหือรือออกกฎหมายนิรโทษโกงแบบสุดซอย บนความแตกต่างทางความคิดสุดขั้ว

สุดท้ายรัฐบาลพัง!

มาคราวนี้กระแสนิรโทษกรรมความคิดจากการชุมนุมทางการเมือง ไม่รวมคดี ม.๑๑๒ และคดีคอร์รัปชัน กำลังมาแรง แกนนำเหลือง แดง ต่างประสานเสียงเห็นด้วย

พรรคร่วมรัฐบาลโอเค

หรือแม้กระทั่งพรรคฝ่ายค้านอย่างประชาธิปัตย์ก็ไฟเขียว

แต่…พรรคเพื่อไทย กลับเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาเพื่อศึกษารายละเอียดก่อน โดยอ้างว่าขณะนี้ยังไม่มีการยกร่างกฎหมายแม้แต่มาตราเดียว

จะบอกว่าเข็ดจากคราวที่แล้วก็พอฟังได้ แต่สถานการณ์ในครั้งนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ฉะนั้นเป้าหมายของพรรคเพื่อไทยคืออะไรกันแน่ระหว่าง “รอบคอบ” กับ “ซื้อเวลา”

ในเมื่อรัฐบาลบอกว่าการสร้างความปรองดองคือนโยบายหลักของรัฐบาล เหตุใดไม่เร่งดำเนินการให้ลุล่วง

หรือว่า “นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร” มีทางรอดอื่นแล้ว

ฝั่งซ้ายจัด ๓ นิ้ว เองก็มีความสับสนอลหม่านอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

เป็นอีกครั้งที่ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” อบรมพรรคก้าวไกล ขายความคิดเดิมซ้ำๆ ได้รับการตอบสนองบ้าง ไม่ได้บ้าง

ล่าสุดสั่งสอนผ่านทางสื่อโซเชียลอีกครั้ง

—————————-

“…. พลังฝ่ายอนุรักษ์และชนชั้นปกครองที่สนธิกำลังกันทำ Passive Revolution (ปฏิวัติจากเบื้องบน ปฏิวัติที่ไม่ปฏิวัติ ปฏิวัติเพื่อหยุดการเปลี่ยนแปลง หยุดไม่ให้ชนชั้นผู้ถูกปกครองขึ้นครองอำนาจได้) ได้ใช้การทำสงครามทางความคิด หรือ War of Position เพื่อแย่งชิงความคิดและฐานมวลชน

เช่น

การเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่พรรคก้าวไกลเสนอ เป็นไปไม่ได้ภายในระยะเวลาอันสั้นนี้

สิ่งที่พรรคก้าวไกลเสนอ เป็นเรื่องเพ้อฝัน เสนอเอามัน เสนอเอาแต้ม และไม่รับผิดชอบกับสังคม ถึงเวลาตัวเองมาเป็นรัฐบาล ก็ทำไม่ได้

แต่การเปลี่ยนแปลงก็ต้องเกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลตัวแทนพลังอนุรักษ์และชนชั้นปกครอง จะทำให้ดู โดยไม่ต้องทำแบบก้าวไกล

ไม่ต้องเปลี่ยนใหญ่ ไม่ต้องรื้อ

เปลี่ยนได้ ถ้ารู้จักประนอมอำนาจ ถ้าใช้กลไกแบบที่เป็นอยู่ให้เป็น เราก็สามารถทำประโยชน์ให้ประชาชนได้แล้ว ดีกว่าฝันไปวันๆ แต่ไม่มีโอกาสใช้อำนาจเปลี่ยนแปลง

ยกเลิกเกณฑ์ทหารรึ ไม่ต้องแก้กฎหมายหรอก ใช้การบริหารจัดการจำนวน ก็เลิกโดยปริยายได้

ยกเลิก กอ.รมน.หรือ ไม่ต้อง แต่เปลี่ยนบทบาทแทน

ทำรัฐธรรมนูญใหม่หรือ ทำสิ แต่ทำทั้งฉบับ สุดท้ายจะไม่ได้ทำ

เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ คนหาเช้ากินค่ำ ได้เติบโต ขยายเค้ก พื้นที่ให้กว้างกว่าเดิม แต่ยังไงก็ไม่มีทางท้าทายทุนผูกขาดขนาดใหญ่ได้

ฯลฯ

พรรคก้าวไกล นักการเมืองของพรรคก้าวไกล จะสู้กับสงครามทางความคิดรอบใหม่นี้ได้อย่างไร ในห้วงเวลาที่เขามีอำนาจรัฐและงบประมาณ และจะทำให้ดูให้ได้ด้วย

ผมเห็นว่า ถ้า ส.ส.พรรคก้าวไกล (บางคน หลายๆคน) ยังคงใช้วิธีแบบเดิม เช่น

ตามจับว่ารัฐบาลไม่ทำตามที่หาเสียงไว้

ทำไมรัฐบาลไม่ทำตามที่พรรคก้าวไกลเสนอ

พร้อมเติมสีสันด้วยการแซะผ่านคำคม ภาพ ล้อเลียน ตามโลกโซเชียล

ทำแค่นี้ ไม่เพียงพอต่อการเอาชนะสงครามทางความคิดรอบนี้ได้

พวกเขากำลังสร้างชุดอธิบายว่า แบบก้าวไกลเป็นไปไม่ได้ แบบเขาเป็นไปได้

แบบก้าวไกล เสี่ยง ไปเจออะไรไม่รู้ แบบเขาอาจมาทีละนิด มาช้า แต่ชัวร์ และได้อะไรบ้าง

ถ้า ส.ส.บางคนหรือหลายคน ยังคงสู้ด้วยการอธิบายแค่ว่า ตระบัดสัตย์ ไม่ทำตามที่หาเสียง ทำเท่านี้ ก็ได้แค่ทำลายความชอบธรรม แต่มันไม่ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ไม่ได้สร้างความหวังให้ผู้คนว่า สังคมใหม่ที่ก้าวไกลกำลังสร้าง คืออะไร หน้าตาแบบไหน

นอกจากนี้ ยังไม่ได้ชี้นำความคิดมวลชนด้วย

พรรคและ ส.ส. มีหน้าที่ ทำให้คนมหาศาลเชื่อได้ว่า สิ่งที่ กก เสนอ เป็นไปได้ในวันพรุ่ง ทำให้คนมีความหวัง วาดภาพให้เห็นเป็นรูปธรรม

ถ้า ๔ ปีนี้ ยังทำไม่ได้ หรือไม่มากพอ แล้วจะหาคะแนนเสียงเพิ่มอีก ๖-๗ ล้านจากไหน? “

————————

มีความแตกต่างระหว่างพรรคก้าวไกลกับคณะก้าวหน้าที่แทบมองไม่เห็น

เราเห็นพรรคก้าวไกล ติดหล่ม ม.๑๑๒ จนสูญเสียโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล

แต่ “ปิยบุตร” กลับมองว่า พรรคก้าวไกลยังทำไม่มากพอ

หลายเดือนมานี้พรรคก้าวไกลถูกเขย่าด้วยประเด็นละเมิดทางศีลธรรม จนอาจกล่าวได้ว่า พรรคการเมืองพรรคนี้ได้ผ่านจุดสูงสุดจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาไปแล้ว แต่ “ปิยบุตร” พูดถึงเป้าหมายหาคะแนนเสียงเพิ่มอีก ๗ ล้านเสียง

จากเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาได้ ๑๔.๔ ล้านเสียง

นั่นหมายความว่าต้องการเกิน ๒๐ ล้านเสียง ซึ่งยังไม่เคยมีพรรคการเมืองพรรคไหนทำได้

๒๐ ล้านเสียงเพื่อตั้งรัฐบาลพรรคเดียวเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

แน่นอนว่าหนึ่งในเป้าหมายคือการแก้ ม.๑๑๒ โดยไม่ต้องง้อเสียงจากพรรคการเมืองอื่น

การเมืองบางทีก็น่ากลัว เพราะการมุ่งสู่ประชาธิปไตยมีความเป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จซ่อนอยู่ในตัว

อย่างที่ “ปิยบุตร” และพรรคเพื่อไทยกำลังดำเนินอยู่

Written By
More from pp
ดีอีเอส เตือนอย่าเชื่อข่าวปลอมอ้างชื่อ ก.ล.ต. ชวนลงทุน
โฆษกดีอีเอสฝ่ายการเมือง สรุปสถานการณ์ข่าวปลอมรายสัปดาห์ พบมีการอ้างชื่อ ก.ล.ต. รับรองโฆษณาชวนลงทุนบนเฟซบุ๊ก และแบงก์ชาติ เปิดบริการสินเชื่อเงินด่วน จูงใจให้คนสนใจจำนวนมาก เตือนประชาชนเสพข่าวอย่างรอบคอบ ควรเช็คให้ชัวร์ ก่อนเชื่อและแชร์
Read More
0 replies on “การเมืองซ่อนมีด – ผักกาดหอม”