สันต์ สะตอแมน
“พวกที่ผูกขาดความจงรักภักดี”
จะหมายถึงพวกไหนไม่รู้ แต่ได้ยิน-ได้ฟังหรือได้อ่านทีไรให้รู้สึกอยากย้อนถามคนประดิดประดอยถ้อยคำนี้..ความจงรักภักดีมัน “ผูกขาด” ได้ด้วยหรือ?
อย่างผมตั้งแต่เล็กจนโตมาถึงปูนนี้ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มาตลอดทั้งการแสดงออก ทั้งที่อยู่ในใจ..
อย่างงี้..จะอยู่ในกลุ่ม “พวกผูกขาดความจงรักภักดี” ไหม?
และคนอื่นๆ ที่เขาได้แสดงความจงรักภักดี ด้วยการตอบโต้-ขัดขวางพวกที่คิดจะล้มล้างสถาบัน..นั่น คือการผูกขาดเหรอ?
จากที่เปิดดูพจนานุกรมแปลไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน ความหมาย “ผูกขาด” ก. ถือสิทธิหาประโยชน์หรือครอบครองไว้แต่ผู้เดียว. กับ ยึดตัวเองเป็นใหญ่
ก็ยิ่งให้สงสัย คำว่า “ผูกขาด” สามารถนำมาผูก-มาใช้กับ “ความจงรักภักดี” ได้ด้วยหรือ คนพูดจะไม่เป็นการพูดพล่อยๆ กล่าวหาใส่ความผู้มีความจงรักภักดีไปไหม?
เพราะแท้จริงแล้ว ไม่มีใครที่จะยึดตัวเองเป็นใหญ่ หรือครอบครองความจงรักภักดีไว้แต่เพียงผู้เดียวได้ กลับกันที่เห็น..
คนที่มีความจงรักภักดี มีแต่จะเตือน-จะบอกและพยายามให้ผู้อื่นมีความจงรักภักดีไปด้วยกัน และคนที่ไม่มีความจงรักภักดีนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่ไม่มีใครไปก้าวล่วงได้ ยกเว้น..
ไม่ภักดี แต่เสือกจะมาทำร้าย-ทำลายหรือโค่นล้ม ทำให้คนที่จงรักภักดีเขาไม่ยอม และได้ต่อสู้-ขัดขวางทุกวิถีทาง เท่าที่กำลังสมอง สติปัญญาจะทำได้!
ผมเชื่อโดยสนิทใจ.. “ความจงรักภักดี” ไม่มีใคร-พวกไหนที่จะ “ผูกขาด” เป็นของตัวเองได้ คนที่พูดก็น่าเพื่อจะแซะ-แดกดันคนที่เขามีความจงรักภักดีด้วยหมั่นไส้เท่านั้นแหละ!
หรืออย่าง “กูรู” ก็เช่นกัน ใครก็อย่าได้ทึกทัก “ผูกขาด” ความเป็นกูรูเชียวล่ะ..อายเค้า!
เอ้า..ส่วนนั่น “คงละอายแก่ใจ” จริงๆ ด้วยล่ะ ก็ที่นักข่าวรุมถามคุณอุ๊งอิ๊ง ถึงอาการป่วยของนักโทษทักษิณ แต่เธอปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
ซึ่งคุณเทพไท เสนพงศ์ ก็ได้โพสต์ ว่าอาจจะเป็นด้วยเหตุผล 3 ข้อที่ทำให้คุณอุ๊งอิ๊งถึงกับปิดปากไม่ยอมตอบ คือ..
1.ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามเกี่ยวกับอาการป่วยของคุณทักษิณอย่างไร เพราะป่วยจริงหรือป่วยปลอม กลัวจะสื่อสารต่อสังคมคลาดเคลื่อน ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
2.เกรงว่าถ้าตอบคำถามอะไรไป อาจจะพลาดท่า เปิดช่องให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ เหมือนกับครั้งที่แล้ว จึงขอปิดปากเงียบ ไม่ตอบดีกว่า ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เสียเลย
3.คงละอายแก่ใจ ที่จะตอบคำถามที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริง เมื่อคุณทักษิณไม่ได้ป่วย แต่ลูกสาวกลับมาให้ข่าวว่าป่วย แบบนี้เหมือนกับแช่งพ่อของตัวเอง จึงไม่อยากตอบ
คุณเทพไทยังร่ายต่อด้วยว่า..“ผมในฐานะที่เคยถูกจองจำในเรือนจำมาก่อน จึงขอเรียกร้องความเป็นธรรม ความเท่าเทียมกัน และความเสมอภาคของนักโทษทุกคน
เพื่อให้กรมราชทัณฑ์ มีมาตรการเด็ดขาด ต่อการพักรักษาตัวของคุณทักษิณ ที่โรงพยาบาลตำรวจในขณะนี้ ผู้รับผิดชอบจะต้องตอบคำถามกับสังคมให้ได้
ว่า คุณทักษิณได้รับการผ่าตัดผ่านมาเป็นเวลานานพอสมควร และเป็นการผ่าตัดเล็ก น่าจะหายป่วยแล้ว ทำไมไม่นำตัวกลับเรือนจำ
หรือยังมีโรคอื่นๆ ให้นำขึ้นมาแอบอ้าง เพื่อใช้สิทธิ์รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีกหรือไม่
ครับ..ลูกไม่ตอบ แพทย์ไม่ให้ความกระจ่าง กรมราชทัณฑ์นั่งอม..(สาก) เราผู้ไม่ใช่ญาติโกโหติกาจะนั่งบ้ากังวล-เป็นห่วงไปทำไม..
เป็นตายร้ายดี..let it be!