ผลงาน “รัฐบาลลูกเทวดา”- เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

เสียดาย….
ไม่ได้ฟัง “นายกเศรษฐา” แถลงผลงานในรอบ ๖๐ วัน เมื่อค่ำวาน (๙ พย.๖๖)
เพราะท่านแถลงตอนค่ำ
ครั้นจะ “ฟังก่อนคุย “ไทยโพสต์ก็จะตกรถ-ตกรา!
ไทยโพสต์มีรายได้ทางเดียวคือ “ขายหนังสือพิมพ์” ตัวก็ขาย แต่ไม่มีคนซื้อ ถ้าตกรถก็ “อดขาย” หมายถึง “อดข้าว” ไปด้วย

ฉะนั้น ขอคุยล่วงหน้าถึงผลงานรัฐบาลเศรษฐาในสายตาผมล่วงหน้าละกัน

พูดกันตรงๆ เลยนะ….
ผมว่า ท่านนายกฯ ยังไม่จำเป็นต้อง “แถลงผลงาน”

ไม่ใช่รัฐบาลท่าน “ไม่มีผลงาน”

หากแต่ ในความเป็นรัฐบาลที่เพิ่งเข้ามาบริหารราชการงานเมือง ผมคิดว่า ๒ เดือน งานที่จะงอกเห็นผล นำมาขายได้ มีอย่างเดียว คือ
“ผักชี”!

แต่งานบริหารประเทศ ไม่ใช่การทำไร่ผักชี ผมจึงไม่เข้าใจว่า ท่านจะเอาอะไรที่เป็นรูปธรรมมาคุยอวดเป็นผลงาน?

อยากออกโทรทัศน์ จะพูดอะไรก็พูดไป แต่ไม่ควรบอกว่า “แถลงผลงานในรอบ ๖๐ วัน”
“เข้าเนื้อ-เข้าตัว” เปล่าๆ

เพราะคนมีประสบการณ์ในการทำงานบริหาร เขารู้ดีว่า ระยะแรก ที่เข้าไปบริหาร
ไม่ใช่ตื่นเช้า คว้าไม่กวาด กวาดขยะใส่บุ้งกี๋ ไปเทลงถัง แล้วบอก…นี่คือผลงาน!?

ก็ใช่ …แต่เป็นงาน “คนกวาดขยะ”

จะทำยังไง จึงจะให้คนมีสำนึกไม่ทิ้งขยะลงถนน นี่ตะหาก คือ “ผลงาน” ผู้บริหาร!

การศึกษาปัญหาการจัดลำดับความสำคัญก่อน-หลังของงาน,การทำความรู้จักคุ้นเคยกับคนในแต่ละหน่วยงาน พูดตรงๆคือ

“แผนงานเป็นระบบ-ข้อมูล-บุคคลากร-เงื่อนไข-ปัญหา-อุปสรรค-ภารกิจต่อเนื่องที่ค้างคา”

เหล่านี้ ตะหาก คือ “งานบริหาร” ในขั้นแรกของมืออาชีพ
ที่คนเป็นผู้บริหาร จะต้องศึกษา ประมวล ทำความเข้าใจ จัดหมวดหมู่ จัดวางขั้นตอน ตามความจำเป็นและความสำคัญ

เมื่อ “รู้งาน” แล้ว….
ต้อง “รู้คน” ในงานนั้นๆ ก่อนให้มากกว่า ๖๐-๗๐%ด้วย

ผมให้เวลา ๓ เดือนด้วย..เอ้า!
ถ้าจัดลำดับความสำคัญของงาน ของปัญหาทั้งเฉพาะหน้าเร่งด่วนและทั้งปัญหาพื้นฐานงานตามระบบ ประมวลเข้าแผน จัดวางตามเทอมเวลาแล้ว

จากนั้น ค่อยหวานกล้า-หว่านเมล็ดลงดิน ทอดเวลาซัก ๖ เดือน ถึง ๑ ปี

ทีนี้แหละ….
ผมว่าทุกอย่างมันจะมีผลคืบหน้าให้เห็นเป็นระบบไปตามขั้นตอนเยี่ยงผู้บริหารมืออาชีพ

มากกว่าการเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้ว “กางนโยบายพรรค” ตามสัญญาว่าจะให้ “ตอนหาเสียง” เป็นสรณะ

การเอานโยบายที่ใช้หาเสียง มาเป็นนโยบายบริหารประเทศเป็น “วาระด่วน-วาระแรก”
แล้วตะบี้-ตะบัน ให้แต่ละกระทรวง แต่ละองค์กร ทำงาน โดยใช้เงินงบประมาณไปสนอง

“สัญญาว่าจะให้”
มันจะฉิบหาย”ทั้งรัฐ-ทั้งราษฏร์ ซึ่งผู้นำบริหารที่ดี ไม่มีใครเขาทำกัน!

อะไรคืองานสนองโจทย์ “ชาติ-บ้านเมือง” ของคนปัจจุบันและลูกหลานสู่ทางอนาคตที่ยั่งยืน มีปัญหาที่ต้องฟันฝ่าไปสู่

ตรงไหน ก็ “ปักธง” มุ่งตรงไปทางนั้น
นั่นคือ ผู้บริหารที่ “สังคมชาติ” ต้องการ!

รถไฟฟ้ามีเป็นสิบสาย ลดค่าโดยสารเหลือ ๒๐ บาท แค่ ๒ สาย สามเดือน หรือ ลดค่าไฟ-ค่าน้ำมัน ๒-๓ เดือน
แบบนี้ เขาไม่เรียกผลงาน เขาเรียกว่า “แก้บน”!

แจกคนละ ๑ หมื่นกับคน ๕๖ ล้าน นั่นเหมือนกัน โม้แหลก-แจกแน่ แต่เอาเข้าจริง กำลังหามุม “สลบ-หลบตีน”

ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ปรับค่าแรงขั้นต่ำ ก็ไม่ต่างกัน มัน “งานแก้บน” ทั้งนั้น พูดก่อน ค่อยไปกะล่อนทีหลัง

อย่างนี้ ถ้านับเป็น “ผลงานรัฐบาล” ในรอบ ๖๐ วัน ผมเป็นเศรษฐา มีใครเขียนให้แถลง จะบอกเขาว่า
“หน้าผมยังไม่ด้านพอ”!

พูดกันตรงๆ ในพรรคเพื่อไทย รัฐมนตรีที่ส่อแววมีผลงานเป็นสาระเพื่อชาติบ้านเมืองต่อไปในอนาคตมากที่สุด
ผมยกให้ “นายสุทิน คลังแสง” รัฐมนตรีกลาโหม!

ไม่เชื่อ แล้วดูกันไป ถ้ารัฐบาลเพื่อไทย “ยังอยู่”

๖๐ วันที่ผ่านมา “เศรษฐา” นอกจากปล้ำจะแจกเงิน ๕.๖ แสนล้านบาท ให้คน ๕๖ ล้านคนๆ ละ ๑ หมื่นบาท กับปากไวเป็น “ผลงาน” แล้ว
อย่างอื่น “มองไม่เห็น”!

กระทั่งแววคนทำงานบริหารเป็น เอาเข้าจริง “สิ่งที่คุย-สิ่งที่เห็น ใช่สิ่งที่เป็นก็หาไม่”

-งบประมาณแผ่นดิน
-อนาคตประเทศชาติและประชาชนในทางยั่งยืน
-ปัจจุบันปัญหากับปัจจุบันชีวิตของประชาชน

ทั้ง ๓ อย่างนี้ นายกฯ เศรษฐาจัดวาง “อัตราส่วน” บนฐาน “ความสมดุล” สู่ทางรอด,ทางยั่งยืนที่มั่นคงอย่างไร?

เห็นแต่นำทั้ง ๓ อย่างนั้น …….
วางบนฐาน “สัญญาว่าจะให้” ตอนหาสียง แถมดูท่ามุ่งเน้นภาคและจังหวัด “ที่เลือกพรรคเรา” อีกตะหาก!

ไม่ผิดหรอก “ความต้องการประชาชน” คือสิ่งที่ “รัฐบาลต้องรับฟัง”
แต่ผิด…ถ้าจะ “ตอบสนอง” ทุกเรื่อง!

รัฐบาลเหมือนพ่อแม่ ชาวบ้านเหมือนลูก ถ้าพ่อแม่ตามใจลูกทุกอย่าง โดยไม่คำนึงถึงเหตุผล
อนาคต “ลูกเทวดา” จะมี ๓ ทาง

๑.ไม่ตายดี ๒.ขี้ยา และ ๓.หาแผ่นดินอยู่ไม่ได้
ทางที่ ๔.คือทางสู่ “เก้าอี้นายกฯ” ก็อาจจะได้ แต่ลงท้าย อาจไปจบในทางที่ ๕.
คือ”ทางหมาลอด”!

ความจริง รัฐบาล “เศรษฐา-เพื่อไทย” เป็นรัฐบาลมีบุญมาก อยู่สบายกว่า “รัฐบาลพลเอกประยุทธ์” เป็นล้านๆ เท่า

ขั้นแรก ขบวนการปั่น Hate Speech ติด Hashtag ก็ไม่มี เฟกนิวส์ ก็ไม่มี เพราะพวกทำ ได้เข้าสู่กระบวนการอำนาจกันแล้ว

ขั้นที่สอง การปลุกม็อบลงถนน ก่อจลาจล มุ่งล้มรัฐบาล รวมทั้ง นักวิชาการ/จาน’มหาลัย และสื่อ “รุมกระซวก” รายวัน ก็ไม่มี

ขั้นที่สาม เป็นรัฐบาลระบบรัฐสภา ที่มีฝ่ายค้านเท่ากับไม่มี เพราะรัฐสภายุคนี้ เหมือนบ้านที่เลี้ยงแมว แต่ไม่จับหนู เลี้ยงหมาเต็มใต้ถุนบ้าน แต่เปลืองน้ำข้าวเปล่า เพราะไม่เห่าซักตัว

“ขะโมย-ขะโจร” มันจึงขึ้นบ้าน ปล้นได้สบายใจ!

เนี่ย…….
รัฐบาลไหนจะโชคดีเท่ารัฐบาลเศรษฐาเป็นไม่มีแล้ว

ดังนั้น จะดี-จะเลว รัฐบาลจะอยู่ยาว-อยู่สั้น ไม่มีมารขวางตีนเลย ทั้งหมด อยู่ที่ “ตัวทำ-นำบริหาร” เองโดยตรง

ถ้าจำไม่ผิด สมัยลุงตู่เป็นนายกฯ รัฐบาลเลือกตั้ง เดือนกรกฏา.ปี ๒๕๖๒ เข้าบริหารปุ๊บ
“เพื่อไทย-ฝ่ายค้าน” เตรียมยื่นซักฟอก “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” ปั๊บ!

เห็นมั้ย “ลุงตู่” ทำบุญมาน้อย “เทวดา” เลยไม่คุ้ม ขนาดขมิบตูดตด ยังแทบถึงโทษประหาร

แต่ “เศรษฐา-เพื่อไทย” เขาทำบุญมามาก “เทวดาตั้งแต่แต่ชั้น ๑ ยันชั้น ๑๔” คุ้ม เลยสบาย

ขนาด “ก้าวไกล” ที่เคยประสานเขี้ยวฟัดลูงตู่มาด้วยกัน แต่กับ “รัฐบาลเพื่อไทย”
“ก้าวไกล” เป็น “ดอกรักสัตว์แสนรู้” ไปซะงั้น!?

ก็รู้…. “๑ นาย ๒ สายปลอกคอ”
แยกกันรอ ถึงวันที่ร่วม เพื่อ “ล้มได้สำเร็จ”!

รัฐบาลเศรษฐา โอกาสได้แถลงผลงาน…มี
แต่…ไม่มีผลงานไหนที่ประชาชนส่วนใหญ่ จะยอมรับได้ว่า “เป็นผลงาน”

เพราะ “ทักษิณ-นักโทษเด็ดขาด” คนเดียว นายกฯ เศรษฐา ยังปล่อยให้เป็น “พ่อทูนหัว” ของรัฐบาล
และทูนให้เป็น “นักโทษเทวดา”
อยู่เหนืออำนาจ ๓ สถาบันหลักของประเทศ ทำให้ “นิติรัฐ-นิติธรรม” หมดความศักดิ์สิทธิ์

ต่อจากนี้ ทักษิณจะเป็น “เนติแบบแผนใหม่” ให้คนติดคุกอ้างสิทธิ์เหมือนทักษิณบ้าง
รัฐบาล “เพื่อไทย” ที่เคยร่วมตะโกน “รัฐบาลประยุทธ์บริหาร ๒ มาตรฐาน สร้างความเหลื่อมล้ำ”

วันนี้ เศรษฐา ในฐานะนายกฯ จงพิสูจน์ “ด้วยการกระทำ” นำ “นักโทษทักษิณ” กลับเข้าคุกให้ได้

ได้วันไหน วันนั้น คุณคือ “นายกฯ เหนือนายกฯ” เหนือกระทั่งพลเอกประยุทธ์ ตอนเป็นนายกฯ

เพราะคุณคือ……
นายกฯ ผู้กอบกู้ “อำนาจอธิปไตย” คือ “อำนาจบริหาร-อำนาจนิติบัญญัติ-อำนาจตุลาการ” กลับคืนมาให้ปวงชน

ครอบครัว “ชินวัตร” ไม่ใช่ปวงชน
หรือ “เศรษฐา” ว่าใช่?

เปลว สีเงิน

๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

Written By
More from plew
“ก่อนประเทศถึง ๑๕ มิถุนา.”
พอไทย “เปิดเมือง” (๑๕ มิย.๖๓) จีนก็ “ปิดเมือง” รอบใหม่ คราวนี้ “ปักกิ่ง” ศูนย์กลางระบาด! รอบแรก “โควิด”...
Read More
0 replies on “ผลงาน “รัฐบาลลูกเทวดา”- เปลว สีเงิน”