หยุดแจกเงินดิจิทัล!-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

เกาหัวแกรกๆ ครับ….

ยิ่งนานวันนโยบายแจกเงินผลาญชาติ จะดูวุ่นวายยิ่งกว่าจับปูใส่กระด้ง

ล่าสุดฟัง “ช่วยคลัง-จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” กับ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงินดิจิทัล ๑ หมื่นบาท เขาไปไกลแล้ว

ไกลที่ว่าไม่ใช่คืบหน้า

แต่ไกลความจริงเข้าไปทุกที

เลื่อนแจกไปเดือนเมษายน-พฤษภาคม ๒๕๖๗ โน้น

แต่นายกฯ เศรษฐา ไปบอกกับชาวบ้านที่ อุดรธานี วานนี้ (๒๙ ตุลาคม) ว่า…ขอให้อดใจรอ ได้แน่นอนเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

นายกฯ ใช้คำว่า “แน่นอน”

เอาไงล่ะครับ!

ถ้าเลื่อนเท่ากับหลอกชาวบ้านหรือเปล่า…ฝากให้คิด

นับแต่ปี ๒๔๗๕ ไม่น่าจะมีนโยบายของรัฐบาลไหนที่ดูยุ่งยากและซับซ้อนต่อการปฏิบัติมากกว่านโยบาย แจกเงินดิจิทัล อีกแล้ว

สมัยรัฐบาลหม่อมน้อง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ปี ๒๕๑๘ พรรคกิจสังคม มาเหนือเมฆด้วยนโยบายเงินผัน ในทางการเมืองวิจารณ์กันขรม ถือเป็นนโยบายประชานิยมต้นฉบับก็ว่าได้

แต่ผลของนโยบาย เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการผันเงินผ่านธนาคารเพื่อช่วยธนาคารพาณิชย์ในการระบายจำนวนเงินที่มีอยู่เป็นจำนวนมากและได้ผลประโยชน์ในการแก้ปัญหาเรื่องสินเชื่อของเกษตรกร

ยังเป็นการผันเงินเพื่อพัฒนาชนบท เป็นการใช้จ่ายของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ช่วยสร้างเสถียรภาพของสังคมในชนบท โดยใช้เงินผันเป็นเครื่องมือในการต่อต้านคอมมิวนิสต์

ก็ถือว่ามีประโยชน์อยู่บ้าง แต่ก็มีรูรั่วมหาศาล เงินที่อยู่ในมือกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจำนวนหนึ่ง แจกจ่ายไปยังรายชื่อที่ไม่ควรได้

นโยบายเงินผันในสมัยนั้นแม้จะมีความซับซ้อนน้อย แต่ประชาชนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึงรายละเอียด การโกงจึงเกิดขึ้นไม่น้อยทีเดียว

นับแต่นั้นเป็นต้นมา นโยบายลดแลกแจกแถม ไม่มีนโยบายไหนเข้าใจยาก หรือยากในทางปฏิบัติอีกเลย ผิดกับนโยบายแจกเงินดิจิทัล ที่คนรับผิดชอบเองก็ยังไม่เข้าใจทั้งหมด

ส่วนคนที่รอเงิน แทบไม่มีข้อมูลอะไรเลย เพราะรัฐบาลเองยังพูดไม่ตรงกัน

ก็คงต้องเตือนรัฐบาลเอาไว้ นโยบายนี้มีปัญหาทางกฎหมายมากกว่าที่คิด พลาดพลั้งมามีโอกาสติดคุกได้เหมือนกัน

คนในรัฐบาลเองก็ออกมาเตือนอยู่หลายคน หนึ่งในนั้่นคือ “ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ

เคยเตือนแล้วก็ออกมาเตือนอีกครั้งครับ…

“…ผมขอแนะนำท่านนายกเศรษฐา อาจจะต้องถึงขั้นยกเลิก โครงการแจกเงินดิจิทัล

ปัญหาลำหักลำโค่น คือในแง่มุมของกฎหมาย ซึ่งถ้าไม่เคลียร์ ท่านก็จะพารัฐมนตรีของพรรคร่วมลงเหวไปด้วย

ผมให้ข้อสังเกตไว้ ดังนี้

หนึ่ง ทำไมต้องแจกเป็นเงินดิจิทัล

พรรคเพื่อไทยหาเสียง โดยชูโรงโครงการแจกเงินดิจิทัล เป็นเรือธงนำ flag ship

ถ้าหากแจกเป็นเงินธรรมดา สังคมก็จะประณาม ว่าเป็นการใช้เงินหลวงเพื่อสร้างความนิยม

จึงต้อง promote ว่า การเป็นเงินดิจิทัล จะทำให้ต่างชาติตะลึงงัน ในความสามารถของพรรคเพื่อไทย

อ้างว่า เงินดิจิทัลจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่ทางการเงิน ทั้งที่ไม่จริง

คนที่รู้เรื่องดิจิทัลผิวเผิน ก็ช่วย promote ว่า จะเป็นเรื่องมหัศจรรย์

ทั้งที่ เครื่องมือที่จะสามารถพัฒนาประเทศเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ไม่ใช่เงินดิจิทัลตามที่พรรคเพื่อไทยออกแบบไว้

ดังนั้น ถ้าไม่แจกเป็นเงินดิจิทัล ก็บ่มิไก๊ เครดิตทางการเมืองก็จะหมดไป

นอกจากนี้ ยังมีประเด็น อาจมีผลประโยชน์ส่วนตนแก่พรรคพวก

และข้อมูลของคนเกือบทั้งประเทศ จะตกไปอยู่ในมือของไม่กี่คน ที่เอาไปใช้ประโยชน์ได้…

ทั้งในการหาเสียงทางการเมือง และในทางการตลาด

สอง ถ้าแจกเงินดิจิทัล ก็เป็นเงินตรา

ตามที่ สนง.กฤษฎีกาวินิจฉัยเงินดิจิทัลว่า

‘พระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. ๒๕๐๑

จากการตีความการดำเนินนโยบายตามข้อกฎหมายฉบับนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่า สามารถดำเนินนโยบายได้ ถ้าสามารถเก็บเงินหรือให้ร้านค้าที่รับเงินเป็นคนสุดท้ายเบิกเป็นเงินสดออกมาได้ภายใน ๖ เดือนตามระยะเวลาโครงการไม่ขัดกับกฎหมาย แต่ถ้าไม่เก็บกลับภายในระยะเวลาโครงการและยังปล่อยให้มีการนำเงินดิจิทัลไปใช้จ่ายต่อจะถือว่าขัดต่อกฎหมาย เพราะถือว่าเป็นสกุลเงินใหม่’

ผมขอเรียนว่า เป็นการพิจารณาเฉพาะในแง่มุม ‘การคงอยู่’ (time value) ซึ่งเป็นพฤติกรรมเฉพาะเพียงภายนอกระบบ

สนง.จึงแนะนำให้ยุติ เก็บเงินดิจิทัลกลับภายในหกเดือน

แต่ในแง่มุม ‘วัตถุประสงค์ของการใช้งาน’ (medium value) ซึ่งเป็นพฤติกรรมภายในระบบ นั้น เงินดิจิทัลที่แจกจะเข้าข่ายเป็นเงินตราอย่างแน่นอน

ผมมีความเห็นตรงกับอดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาท่านหนึ่ง ว่า

กรณีคูปองที่บริษัทห้างร้านแจกให้ลูกค้าเพื่อส่งเสริมการขายนั้น มีข้อจำกัดว่า ใช้ได้เฉพาะการซื้อสินค้าจากห้างที่แจกคูปองหรือห้างในเครือเท่านั้น

ไม่อาจนำไปใช้ชำระหนี้ตามกฎหมายได้ทั่วไปเหมือนเงินตรา

แต่เงินดิจิทัลที่รัฐบาลจะแจกนั้น สามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้อื่น ซึ่งมิใช่ผู้ออกได้ เป็นการทั่วไป

โดยเนื้อหาทางเศรษฐกิจ เงินดิจิทัลจึงเป็นเงินที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย จึงมีสภาพเป็นเงินตรา

และเงินตราหมายถึง ‘วัตถุหรือเครื่องหมายใดๆ’ จึงย่อมรวมไปถึงวัตถุไม่มีรูปร่างด้วย

อธิบายแบบชาวบ้าน พรรคเพื่อไทยอ้างว่าเงินดิจิทัลดังกล่าว เป็นเพียงคูปองในศูนย์อาหาร

แต่ในศูนย์อาหารปกติ ย่อมไม่มีขนาดใหญ่ครอบคลุมทั่วราชอาณาจักร

ร้านค้าที่ได้รับคูปอง จะไม่เอาคูปองไปชำระหนี้ร้านค้าอื่น หรือเอาคูปองไปชำระหนี้แก่ซัพพลายเออร์ ซึ่งอยู่นอกศูนย์อาหาร

นอกจากนี้ ลูกค้าจะไม่ให้ความเชื่อถือ ถึงขั้นที่จะใช้คูปองเป็นเครื่องมือในการกู้ยืมระหว่างกัน

สรุปแล้ว ถ้าท่านนายกเดินตามข้อแนะนำ ที่พิจารณาเฉพาะในแง่มุม ‘การคงอยู่’ …

ท่านอาจจะทำให้ทั้งคณะรัฐมนตรีฝ่าฝืนกฎหมาย

สาม ถ้าเป็นเงินตรา ก็ต้องตรากฎหมายใหม่

อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลจะแจกเงินดิจิทัล ที่มีสภาพเป็นเงินตรา แบบตรงไปตรงมา

ก็ยังสามารถทำได้ โดยรัฐมนตรีคลังอนุญาตเอกชน ตามมาตรา ๙ ของ พรบ.เงินตรา พ.ศ. ๒๕๐๑

แต่คุณรสนา โตสิตระกูล กล่าวถึงความเห็นของอดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาท่านนี้ว่า

เมื่อเงินดิจิทัลเป็นเงินตรา แต่ไม่ใช่เงินตราที่เป็นธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์

จะแจกได้หรือไม่ จึงต้องนำมาตรา ๙ ของ พรบ.เงินตรา พ.ศ. ๒๕๐๑ มาประกอบการพิจารณา

ประเด็นสำคัญก็คือ ในปี ๒๕๐๑ ที่มีการร่างและตรามาตรา ๙ นั้น ยังไม่มีการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยี ซึ่งเป็นวัตถุไม่มีรูปร่าง

ดังนั้น ถ้าจะนำเอาดิจิทัลเทคโนโลยี เข้ามาประกอบในเรื่องของเงินตรา

ก็จะต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๙ ให้หมายความรวมถึงวัตถุไม่มีรูปร่างด้วย

อธิบายแบบชาวบ้าน

เงินดิจิทัลมีสภาพทางเศรษฐกิจ เป็นเงินตราอย่างหนึ่ง ถ้ารัฐมนตรีคลังจะอนุญาต เอกชนก็ต้องยื่นผ่านธนาคารชาติ

ซึ่งเดาได้ว่า ธนาคารชาติคงไม่เห็นชอบ

และกรณีพิจารณาว่า พรบ.เงินตรา ปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมถึงดิจิทัลเทคโนโลยี …

ถ้าจะเกิดขึ้นได้ ต้องตราพระราชบัญญัติใหม่ผ่านรัฐสภา เพื่อแก้ไข พรบ.เงินตรา เสียก่อน

การพัฒนาสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ต้องทำเต็มรูปแบบ ไม่ใช่ตะแบง ทำเฉพาะส่วน

ตรงนี้แหละครับ ที่เป็นอุปสรรคขนาดใหญ่ และดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้คำนึงไว้ ในชั้นการหาเสียง

วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๖…”

คิดเล่นๆ ถ้าเดินต่อ “เศรษฐา” อาจพารัฐบาลลงเหว

ดีไม่ดีคุกทั้ง ครม.

Written By
More from pp
แรงงานอิสระ เฮ ! “พิพัฒน์” เผยให้ลงทะเบียน เงินกู้ ประกอบอาชีพ วงเงิน 50,000-300,000 ดอกเบี้ย 0% ภายใน 30 เม.ย.นี้ ผ่านกรมการจัดหางาน
27 มีนาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกิจกรรมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ตามโครงการกระทรวงแรงงานพบประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ในงานประเพณีแห่ผ้าห่มธาตุน้อย บูชาพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ ประจำปี 2567...
Read More
0 replies on “หยุดแจกเงินดิจิทัล!-ผักกาดหอม”