7 กันยายน 2566 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำกระทรวง ในเวลา 9.45 น. โดยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ให้การต้อนรับ
โดยได้ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทางตอนใต้ของเกาะสีชัง จ.ชลบุรี ว่า ตนได้ มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการแพร่กระจายของคาบน้ำมัน ที่ต้องเน้นการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมเพื่อตรวจสอบการขยายวงกว้างของคาบน้ำมันที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อลดผลกระทบด้านส่ิงแวดล้อม และระบบนิเวศทางทะเลที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพประมงชายฝั่ง
ขณะเดียวกันให้มีการจัดทำแผนแม่บท โดยการถอดบทเรียน กรณีการรั่วไหลของน้ำมัน ในครั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซาก เพราะคาบน้ำมัน จะมีผลต่อส่ิงแวดล้อม และระบบนิเวศ ทางทะเลและชายฝั่ง นอกจากนี้ยังมีความเป็นห่วงปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ประเทศไทย กำลังเผชิญปัญหาและสร้างผลบกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ในฤดูหนาวของทุกปี ซึ่งได้ให้มีการเตรียมแผนป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้น
โดยตั้งเป้าให้มีการแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา รวมถึงเรื่องการจัดสรรที่ทำกิน นับเป็นเรื่องสำคัญ ที่พรรค พปชร. ผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในภาพรวมการทำงาน จะเน้นให้เกิดการบูรณาการของทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการช่วยเหลือประชาชน และการดูแลส่ิงแวดล้อมควบคู่กันไป เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีย่ิงขึ้น และเกิดความยั่งยืน
ในฐานะที่ต้องมารับผิดชอบงานบริหารราชการต่อ จากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้มีข้อสั่งการเป็นพิเศษกับเรื่องนี้ แต่ให้เป็นความรับผิดชอบในการดูแลตามหน้าที่ให้ดีที่สุด และไม่มีความกังวลในการมาบริหารงานที่นี้ เพราะกระทรวงไม่ได้มีปัญหาอะไร เนื่องจากข้าราชการกระทรวงนี้ มีความรู้ความสามารถในการดูแล รับผิดชอบในหน้าที่ดีอยู่แล้ว พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว