เพื่อไทย ใหม่แต่เก่า – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ตามคาด…..

เรียบร้อยโรงเรียนแม้ว “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร” นั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นที่เรียบร้อย

แล้วไงต่อ?

นั่นสิครับ…จะมีการเปลี่ยนแปลงในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ อย่างไร เห็นบอกว่า การเลือกคณะผู้บริหารพรรคชุดใหม่ครั้งนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพรรคครั้งใหญ่

คนรุ่นใหม่มารับไม้ต่อ

ก็คงจะจริงครับ เพราะดูหน้าตาผู้บริหารพรรคเพื่อไทยชุดนี้แล้ว อายุน้อย กว่าชุดที่แล้วเยอะ

ประมาณว่าชุดเก่ารุ่นพ่อ ชุดใหม่รุ่นลูก

รองหัวหน้าพรรคถือว่าอายุน้อยทีเดียว ถ้าไม่นับ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” ที่ตอนนี้ ๗๕ ขวบแล้ว

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์

พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ
จิราพร สินธุไพร

โอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย

เผ่าภูมิ โรจนสกุล

จะเห็นว่าชื่อใหม่แต่นามสกุลเดิมแทบทั้งนั้น

ส่วนเลขาธิการพรรคก็คนรุ่นใหม่เช่นกัน

สรวงศ์ เทียนทอง

ศรัณย์ ทิมสุวรรณ

ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์

ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์

นี่ก็เช่นกันส่วนใหญ่ ชื่อใหม่นามสกุลเดิม

มาดูกรรมการบริหารพรรคกันบ้าง

ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์

ทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์

ณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช

ดนุพร ปุณณกันต์

ก็คละกันไป มีทั้งชื่อใหม่สนามสกุลเก่า ชื่อเก่านามสกุลเดิม แต่โดยภาพรวมแล้ว กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดนี้ ดูเด็กลงไปเยอะ

เปลี่ยนแบบนี้มีเป้าหมายอะไร?

ฟัง “แพทองธาร ชินวัตร” แสดงวิทัศน์หลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็พอมองเห็นภาพอยู่บ้าง

“…เราผ่านอะไรมามาก เป็นพรรคที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และเป็นพรรคที่ถูกกระทำมากที่สุดเช่นกัน ดิฉันเติบโตมาในแวดวงการเมือง ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ขอบคุณคุณพ่อ ที่ทำให้ได้เห็นถึงความตั้งใจ และอุดมการณ์ของท่าน ได้เรียนรู้ใกล้ชิดและเป็นแรงบันดาลใจของดิฉันในการดำรงชีวิต

ดิฉันรู้ดีว่าภารกิจนี้ยิ่งใหญ่และสำคัญ โดยเฉพาะบริบททางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทุกวันนี้ดิฉันมั่นใจเรามีบุคลากรที่มีความสามารถ มีประสบการณ์มาตั้งแต่ไทยรักไทยจนถึงปัจจุบัน เราจะพัฒนาพรรคอย่างไม่หยุดยั้ง

จากการเลือกตั้งที่ผ่านมาเราต้องเปลี่ยนวิธีคิด กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ต้องถอดบทเรียนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาทำให้ดีขึ้น เพื่อนำพรรคเพื่อไทยกลับไปยืนในใจพี่น้องประชาชนในฐานะพรรคการเมืองอันดับหนึ่งอีกครั้งอย่างยั่งยืน…”

ไม่ทราบว่าเห็นอะไรกันบ้างครับ

ประการแรก อิทธิพลของ “นักโทษชายทักษิณ” ในพรรคเพื่อไทย ยังเต็มเพดาน

ประการที่สอง ความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มีการถอดบทเรียนแล้ว และนำมาสู่การก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารพรรคของคนรุ่นใหม่แบบยกแผง

ก็น่าจะสรุปได้เบื้องต้นว่า นี่คือการวางยุทธศาสตร์ใหม่เพื่อสู้กับพรรคก้าวไกลโดยเฉพาะ

เพราะสิ่งที่เพื่อไทยเสียให้กับพรรคก้าวไกลไปเกือบหมดสิ้นในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาคือ ฐานเสียงคนรุ่นใหม่

หากไม่สามารถดึงฐานเสียงกลุ่มนี้กลับมาได้ ก็จะพบแต่ความพ่ายแพ้

เปลี่ยนโครงสร้างพรรคแล้ว แนวทางเปลี่ยนด้วยหรือไม่

ประเด็นนี้ “อุ๊งอิ๊ง” โชว์วิสัยทัศน์ไว้เช่นกัน

“….จากนี้อยากให้พรรคเพื่อไทยเป็นมากกว่าพรรคที่ให้โอกาส แต่สามารถขจัดความเสี่ยงในชีวิตของประชาชน เพื่อให้ประชาชนปลดล็อกศักยภาพเพื่อพัฒนาประเทศไปด้วยกัน

เราจะไม่ทิ้งดีเอ็นเอ เราจะไม่ทิ้งนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชนให้เป็นจริงให้ได้ เราจะทำความฝันให้เป็นความจริงที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เราจะลบทุกคำสบประมาทด้วยผลงานที่ปฏิเสธไม่ได้

ดีเอ็นเอนี้จะอยู่กับพรรคเพื่อไทยต่อไปและพัฒนาตามยุค มี ๔ ข้อสำคัญที่ กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต้องทำคือ

๑.การเปลี่ยนผ่านข้อมูลทั้งหมดไปสู่ระบบดิจิทัลเพื่อให้พรรคมีฐานข้อมูลในการพัฒนา

๒.สร้างองค์กรแนวราบ เพิ่มการมีส่วนร่วมของบุคลากร

๓.เราจะทำให้องค์กรพรรคเพื่อไทย เป็นองค์กรแห่งความเรียนรู้ มีศูนย์ข้อมูลศูนย์วิจัย เพื่อพัฒนานโยบายให้ได้ทันท่วงที ฝึกอบรมสมาชิกทุกระดับ ทั้งยุวสมาชิก และสมาชิกทั่วไปเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนในทุกมิติ

และ ๔.เป็นข้อที่สำคัญเราต้องสร้างเครือข่ายครอบครัวเพื่อไทยให้แข็งแรง ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อรับฟังเสียงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สุดท้ายนี้จะเป็นสิ่งที่ดิฉันอยากจะบอกกับตัวเองและทุกๆ คนว่า เราตายังคงดูดาว เท้ายังคงติดดิน ยืนหยัดอยู่ข้างประชาชนอย่างเข้มแข็งมั่นคง เพราะพรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน…”

ฟังแล้วหนักใจแทนอยู่บ้าง เพราะดีเอ็นเอระบอบทักษิณถูกตั้งคำถามมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยเฉพาะประเด็นคอร์รัปชัน

ก็ที่ “นักโทษชายทักษิณ” ติดอยู่ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจอยู่ในขณะนี้นั่นแหละครับ ยังไปไหนไม่ได้ก็เพราะโกง

“ยิ่งลักษณ์” ก็ยังหนีอยู่ต่างประเทศ

หากนี่คือดีเอ็นเอของพรรคเพื่อไทย ตาไม่ได้ดูดาวครับ แต่เป็นเพดานห้องวีไอพีแทน ส่วนเท้าก็เป็นเท้าติดเตียง

สรุปแล้วที่เปลี่ยนมาทั้งหมด ความใหม่คือ อายุน้อยลง

แต่มีมุมการเมืองอยู่มุมหนึ่งที่น่าสนใจ

“อุ๊งอิ๊ง” คือ “ชินวัตร” คนที่ ๒ ที่เป็นหัวหน้าพรรคระบอบทักษิณอย่างเป็นทางการ

คนแรกคือ “นักโทษชายทักษิณ” เป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย

แต่หลังไทยรักไทยถูกยุบแปลงร่างมาเป็นพลังประชาชน และเพื่อไทย มีนายกฯ นอมินีมาโดยตลอด สมัคร สุนทรเวช, สมชาย วงศ์สวัสดิ์, สุชาติ ธาดาธำรงเวช, ยงยุทธ วิชัยดิษฐ, วิโรจน์ เปาอินทร์, จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ, สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และชลน่าน ศรีแก้ว

สาเหตุที่ใช้นอมินีมีประการเดียวคือ กลัวพรรคถูกยุบ กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิทางการเมือง ๕ ปี ๑๐ ปี

แต่คราวนี้ ใช้ตัวจริง “แพทองธาร ชินวัตร”

ไม่กลัวถูกยุบพรรคแล้วหรือ?

“นักโทษชายทักษิณ” เอาความมั่นใจมาจากไหน

น่าติดตามจริงๆ

Written By
More from pp
ข่าวดี ! “ไทย” เปิด “ศูนย์อาเซียน รับมือวิกฤตสาธารณสุข” “อนุทิน” มั่นใจ เสริมแกร่งด้านสุขภาพทั้งภูมิภาค
26 สิงหาคม 2565 ที่อาคารศูนย์การแพทย์บางรัก กรมควบคุมโรค ถนนสาทร กรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดสำนักงานเลขาธิการศูนย์อาเซียน ด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ ( ASEAN Centre...
Read More
0 replies on “เพื่อไทย ใหม่แต่เก่า – ผักกาดหอม”