ใครว่าหวานเจี๊ยบ-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

เอาไงหละทีนี้….

เป็นตำรวจเมืองไทยใครบอกว่าง่าย

ไม่หวานเจี๊ยบอย่างที่เห็นหรอกครับ

แมวเก้าชีวิตที่ว่าแน่ยังชิดซ้าย

ดู “บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” เป็นตัวอย่าง ชีวิตราชการกำลังขึ้นสู่จุดสูงสุด จากรองผู้บัญชาการแห่งชาติ กำลังจ่อขึ้น ผบ.ตร.

แต่แล้วชีวิตมันก็เหมือนกับงูกับเชือกกล้วย “บิ๊กโจ๊ก” จะสะดุดอีกรอบหรือเปล่า?

ถ้าได้ไปต่อ ก็แน่นอนเก้าอี้ผบ.ตร.รออยู่ เพราะอายุราชการยังเหลืออีก ๗ ปี กว่าจะเกษียณก็โน้น…ปี ๒๕๗๔

หากไม่ได้ไปต่อ ชีวิตราชการน่าจะหยุดอยู่แค่นี้ อาจไม่มีอะไรเหลือในมือ หนำซ้ำยังต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นว่าเล่น

ครับ…คงรับทราบข่าวสารกันไปแล้ว วานนี้ (๒๕ กันยายน) ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ที่เรียกว่า ตำรวจไซเบอร์ นั่นแหละครับ พร้อมกำลังตำรวจหน่วยคอมมานโด อาวุธครบมือ นำหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านพัก ซอยวิภาวดี ๖๐ หลังสโมสรตำรวจ

เป็นบ้านพักของ “บิ๊กโจ๊ก”

ค้นทำไม?

เรื่องคือว่า บ้านหลังนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์!

ระหว่างเข้าค้นมันก็มีฉากดรามาขึ้น “บิ๊กโจ๊ก” อยู่ในบ้านและออกมาในชุดนอนดูน่ารักเชียว

กระบวนการเข้าค้นก็ว่ากันไปครับ

แต่สุดท้ายไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

แล้วเอาไงต่อ?

ก็น่าเวียนหัวพอควร

เพราะ “พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา” ผบช.สอท. บอกกับนักข่าวว่า มีการสืบสวนขยายผลเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ จึงได้มีการทำหนังสือมาขอกำลังจากตำรวจไซเบอร์เพื่อมาสนับสนุนการทำงาน โดยมีการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายทั่วประเทศ

และที่ตัวเองเดินทางมานั้นก็เพราะทาง “บิ๊กโจ๊ก” อยากให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่อยู่ใกล้เคียงเข้ามาพบเท่านั้น

ส่วนสาเหตุที่ต้องเข้าตรวจค้น ทำเอางงเข้าไปใหญ่ พล.ต.ท.วรวัฒน์ บอกว่า ไม่ทราบรายละเอียด แต่เบื้องต้นทราบว่า บ้านที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นนั้นไม่ใช่ที่พักอาศัยของ “บิ๊กโจ๊ก”

มันอิหวังว่ะ!

ก็เห็น “บิ๊กโจ๊ก” ออกมาในชุดนอน แล้วยังบอกว่าไม่ใช่บ้าน “บิ๊กโจ๊ก”

แล้วมันเป็นบ้านใคร?

มาดูกันต่อว่า พล.ต.ท.วรวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ว่าไง

“…จุดที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นนั้น มีผู้ต้องหาบางรายพักอาศัยอยู่เท่านั้น และจากการที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นำตรวจค้นเองนั้นทราบว่า อาคารที่ตรวจค้นเป็นอาคาร ที่ รอง ผบ.ตร.ถือครองทั้งหมด และไม่พบความผิดปกติอะไร ส่วนในคดีนี้จะมีผู้ต้องหาตามหมายจับกี่ราย หรือเกี่ยวข้องกับคดีใดหรือไม่นั้นผมไม่สามารถระบุได้…”

สรุปต้องแปลไทยเป็นไทยหรือเปล่า?

มีคนร้ายแอบเข้าไปอยู่ในบ้านรองผบ.ตร.อย่างนั้นหรือ

นี่แหละครับการทำงานของตำรวจ

ไม่ชัด ไม่รู้ ประธาน กริยา กรรม อยู่ตรงไหน

พฤติกรรมดูเหมือนปกปิดความจริง

ชาวบ้านถึงไม่ไว้ใจ

จะบอกไม่รู้ค้นบ้านใครไม่ได้ เพราะตามหมายมันต้องมีบ้านเลขที่ มีชื่อผู้ครอบครอง ถ้าค้นโดยไม่รู้บ้านใครมันก็พังซิครับ

การขอหมายค้นมันต้องชัดเจนในระดับหนึ่งว่า สถานที่จะไปค้นนั้นมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย

หมายค้น คืออะไร?

หมายค้น เป็นหนังสือในการดำเนินคดีอาญา ที่ต้องขออนุมัติจากศาล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายในที่รโหฐาน

ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าทำการตรวจค้น ต้องแสดงหมายค้น และตรวจค้นต่อหน้าเจ้าของสถานที่ รวมทั้งเวลาที่เข้าทำการตรวจค้นต้องเป็นเวลากลางวัน

ที่รโหฐาน ในทางกฎหมายจะหมายความถึงที่ต่างๆ ที่ไม่ใช่ที่สาธารณะ เป็นพื้นที่ส่วนตัว ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าไปได้ เช่น บ้าน สำนักงาน อสังหาริมทรัพย์ในความครอบครอง ที่ได้มีการแสดงออกให้เห็นว่ามีการหวงกันการเข้าไปของบุคคลอื่นๆ เช่น การล้อมรั้ว การติดป้ายพื้นที่ส่วนบุคคล

เหตุที่สามารถออกหมายค้นได้

ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๖๙ เหตุที่จะออกหมายค้นได้มีดังต่อไปนี้

๑. เพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งจะเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณา

๒. เพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิด หรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าได้ใช้หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำความผิด

๓. เพื่อพบและช่วยบุคคลซึ่งได้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

๔. เพื่อพบบุคคลซึ่งมีหมายให้จับ

๕. เพื่อพบและยึดสิ่งของตามคำพิพากษาหรือตามคำสั่งศาล ในกรณีที่จะพบหรือจะยึดโดยวิธีอื่นไม่ได้แล้ว

จะเห็นว่าการขอและออกหมายค้น จะทำสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ มันต้องชัดเจนในข้อมูลหลักฐานเสียก่อน ไม่งั้นเสียความน่าเชื่อถือทั้งกระบวนการ

เอาเถอะครับเมื่อบอกว่าค้นแล้วไม่พบอะไร ก็ถือว่าไม่พบ

แต่ที่พบคือ อนาคตของ “บิ๊กโจ๊ก” มันไม่แน่ไม่นอนเสียแล้ว

นี่คือสัญญาณเตือนที่ไม่สู้ดีสำหรับ “บิ๊กโจ๊ก”

เมื่อปี ๒๕๖๒ “บิ๊กแป๊ะ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา” ผบ.ตร. ขณะนั้น สั่งเก็บกรุ “บิ๊กโจ๊ก” แบบงงกันทั้งบาง

ก็ไม่มีใครคิดว่า “บิ๊กโจ๊ก” จะกลับมาได้อีก เพราะคำสั่งย้ายมันไปไกลเหลือเกิน ขาดจากตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิม ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โอนไปเป็นที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (พิเศษ) สบ.๙

เป็นข้าราชการพลเรือนเทียบเท่าผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ก็เป็นที่รู้กัน โยกไปนั่งตบยุง เพราะไม่มีงานให้ทำมากนัก

แล้วใครจะไปเชื่อ “บิ๊กโจ๊ก” ยังสามารถกลับมาเป็นรองผบ.ตร.ได้อีก

แถมยังจ่อนั่งผบ.ตร.

แต่ภาพใส่ชุดนอนออกมาเซ็นเอกสารของ “บิ๊กโจ๊ก” วานนี้ คือการนับหนึ่ง สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า

ยุทธจักรนี้อยู่ยากจริงๆ

Written By
More from pp
มูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา ร่วมกับบริษัทในเครือสหพัฒน์ มอบเงิน 500,000 บาทช่วยเหลือเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ตุรกี
นางศิรินา ปวโรฬารวิทยา ประธานมูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา มอบเงินจำนวน 500,000 บาท ผ่านทางสถานทูตตุรกีประจำประเทศไทย โดยมี นางแซรัป แอร์ซอย...
Read More
0 replies on “ใครว่าหวานเจี๊ยบ-ผักกาดหอม”