ผักกาดหอม
ก็…ไม่มีอะไรในกอไผ่
ทุกอย่างเรียบร้อยดี และเป็นไปตามที่คาดหมายไว้
“ทักษิณ ชินวัตร” กลับมาเข้าคุก
“เศรษฐา ทวีสิน” ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๐
วานนี้ (๒๒ สิงหาคม) ที่ประชุมรัฐสภาขานชื่อกันยังไม่ถึงครึ่ง แต่ สว.เห็นชอบให้ “เศรษฐา” เป็นนายกฯ ไปแล้วกว่า ๖๐ คน ก็มีอันต้องเลิกลุ้นกันไป
แต่ในความเรียบร้อยมีร่องรอยให้ตามต่อ เพราะอาจมีบางสิ่งไม่เป็นไปตามร่องตามรอย
เรื่อง “ทักษิณ” ก็ชัดเจนนะครับ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
เดินเข้าเรือนจำ ทำประวัติอาชญากร ใส่เสื้อสีขาว กางเกงสีกรมท่าเข้ม
เป็น “น.ช.ทักษิณ ชินวัตร” เต็มตัว
โทษตามที่ปรากฏคือ ติดคุก ๘ ปี จาก ๓ คดี
๑.คดีทุจริตปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ ตัดสินเป็นคดีแรกเมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๒ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม. ๔/๒๕๕๑ ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก ๓ ปี
๒.คดีหวยบนดิน ตัดสินเป็นคดีที่ ๒ เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๒ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม. ๑๐/๒๕๕๒ ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก ๒ ปี
๓.คดีแก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป ตัดสินเป็นคดีที่ ๓ เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม. ๕/๒๕๕๑ ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก ๕ ปี
การนับโทษต่อคดีหมายเลขแดงที่ อม. ๔/๒๕๕๑ และคดีหมายเลขแดงที่ อม. ๑๐/๒๕๕๒ ศาลฎีกานักการเมืองไม่ได้ให้นับโทษต่อ
คดีที่ ๑ เท่ากับ ๓ ปี คดีที่ ๒ เท่ากับ ๒ ปี นับโทษซ้อนกัน
แต่ให้นับโทษต่อคดีหมายเลขดำที่ อม. ๙/๒๕๕๑ รวมแล้ว จำคุก ๓ คดี เป็นระยะเวลา ๘ ปี
และตามธรรมเนียม นักโทษสูงวัย มักจะมีปัญหาด้านสุขภาพ
“ทักษิณ” ก็มี!
หมอใหญ่โรงพยาบาลราชทัณฑ์บอกว่ามี ๔ โรค
๑.โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ต้องทานยาละลายลิ่มเลือด
๒.โรคปอด ซึ่งพบว่าเคยเป็นโรคปอดอักเสบรุนแรง จากการเคยเป็นโรคโควิด-๑๙ แม้รักษาหายแล้วแต่เป็นพังผืด
๓.ความดันโลหิตสูง ต้องรักษาโดยการรับประทานยา
๔.ภาวะเสื่อมตามอายุ ซึ่งปัจจุบันนายทักษิณมีอายุ ๗๔ ปี มีภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม และมีการกดทับเส้นประสาท ทำให้การเดินทรงตัวผิดปกติแต่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
จึงเข้าข่ายเป็นกลุ่มเปราะบางจำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่เฝ้าระวัง
แสดงว่าโรคหูดับ บ้านหมุน รักษาหายไปแล้ว
แต่ปอดอักเสบจากโควิดนี่สิครับ เชื่อได้หรือเปล่า
เพราะเดือนมกราคม ๒๕๖๕ “ทักษิณ” ติดโควิดรอบสอง วันนั้นโม้ไฟแลบ!
“…สรุปให้เห็นว่าโอมิครอนอาการเป็นแบบนี้ ผมระคายคอพออีกวันหนึ่งตอนกลางคืนจะนอน มีความรู้สึกเหมือนจะมีไข้ ผมรักษาตามอาการ ซัดยาแก้ไข้ ๒ เม็ด วันรุ่งขึ้นไม่มีไข้ แต่ระคายคอก็กินยาคอ
อีกวันหนึ่งมีไข้เลยไปเช็กปรากฏว่าเป็นโอมิครอน ผมก็เบาใจเพราะเหมือนเป็นหวัดอ่อนๆ วันนี้โอมิครอนไม่ลงปอด ลงแค่คอ รัฐบาลก็อย่าปอดแหกแทนซะ…”
ไม่ลงปอดลงคอแล้ว ปอดอักเสบรุนแรง ได้ไง
งงมั้ยครับ
ก็เอาเป็นว่าหลังจากนี้ “ทักษิณ” อาจได้สิทธิ์ย้ายไปรับการรักษาโรงพยาบาลนอกเรือนจำ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
มีประเด็นน่ากังวลอย่างมากสำหรับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ หลัง “ทักษิณ” กลับมาเหยียบแผ่นดินไทยอีกครั้ง ที่บอกว่าคนเท่ากันนั้น ความจริงคือ มันไม่มี
“ทักษิณ” กลับมาในฐานะนักโทษคดีคอร์รัปชัน แต่กลับได้สิทธิ์เฉกเช่นบุคคลวีไอพี
นั่งในห้องพักรับรองถ่ายรูปกับลูกหลาน มีนักการเมืองตบเท้าแสดงความเคารพ ราวกับวีรบุรุษของชาติที่กลับจากชนะสงคราม
ไม่รู้เพราะให้เกียรติ เกรงใจ หรือเป็นไปตามดีลการเมือง
มีกฎเกณฑ์ที่ทุกฝ่ายต้องรับรู้ไว้ นั่นคือการขอพระราชทานอภัยโทษ “ทักษิณ” สามารถยื่นคำร้องได้ทันที
เส้นทางของคำร้องจะเริ่มที่เรือนจำ ไปกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม
จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ลงนาม เพื่อส่งต่อไปยังสำนักองคมนตรี
ขั้นตอนสุดท้ายคือนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย
ทั้งหมดนี้จะใช้เวลาประมาณ ๑-๒ เดือน
ที่เหลือก็ขึ้นกับ “พระราชอำนาจ”
การขอพระราชทานอภัยโทษมี ๒ ประเภท
การขอเฉพาะบุคคล
และการขอเป็นการทั่วไป
หากพลาดไปต้องรออีก ๒ ปี
หลังจากนี้ไม่ทราบว่าใครจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และยังไม่ทราบว่าพรรคการเมืองไหนจะได้ดูแลกระทรวงนี้
แต่ที่แน่ๆ “เศรษฐา” ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นผู้ลงนาม เพื่อส่งคำร้อง ขอพระราชทานอภัยโทษ ของ “ทักษิณ” ไปยังสำนักองคมนตรี
การเป็นนายกฯ ของ “เศรษฐา” อาจซ้ำรอย “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ในแง่ของการครอบงำ
จริงอยู่ครับหลายฝ่ายทำใจรับกับรัฐบาลชุดนี้ อย่างน้อยๆ ก็คิดเสียว่าสามารถสร้างความปรองดองได้โดยไม่ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาค้นหาความจริงเหมือนที่ทำในอดีต ที่ตั้งแล้วก็ไม่ยอมรับกัน
แต่ “ทักษิณ” จะยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ต้องจับตามอง
หากได้รับพระราชทานอภัยโทษมาเร็วกว่าที่คาดคิดกันไว้ แล้ว “ทักษิณ” ลุกจากเตียง สลัด ๔ โรคทิ้งในทันที เข้ามาแทรกแซงการทำงานของรัฐบาล ปัญหาใหญ่จะเกิดขึ้นทันที
คนแบบ “ทักษิณ” ไม่ได้มีวัตถุประสงค์กลับไทยเพื่อเลี้ยงหลาน
“ทักษิณ” เป็นพ่อค้านักการเมือง มักคิดถึงต้นทุน และผลกำไรเสมอ
แม้จะเป็นเศรษฐีแสนล้าน แต่ “ทักษิณ” ไม่ใช่คนที่จะยอมบริจาคเงินเพื่อสังคมหลัก ๑๐๐ ล้านบาท กลับกัน “ทักษิณ” เอาจากรัฐเกินร้อยล้าน ก็จากคดีที่ศาลสั่งให้ติดคุกนั่นแหละครับ
จากนี้ไป เงาทะมึนที่อยู่เบื้องหลัง “เศรษฐา” ก็คือ “ทักษิณ”
เพราะการกลับมาของ “ทักษิณ” ในวันที่เลือกนายกฯ วงในต่างรู้ดีว่า “ทักษิณ” แสดงให้เห็นถึงอำนาจบารมีที่ยังหลงเหลืออยู่
แทบทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุมของ “ทักษิณ”
เห็นใจก็แต่พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคครับ
ถึงเวลาต้องถอย หากถอยไม่ทัน ติดหล่ม “ทักษิณ” แน่นอน
