ข้อสอบ “โหวตนายกฯ” รั่ว – เปลว สีเงิน

ฟังบทความคลิก…⬇️

เปลว สีเงิน

“กลับหลอก” มาหลายที พรุ่งนี้ท่าจะ “กลับจริง”
จะใครซะอีกล่ะ….
ก็เด็จพี่ “ทักษิณ” เค้านั่นแหละ!
พรุ่งนี้ ๒๒ สิงหา.ถือฤกษ์รัฐสภาประชุมโหวตเลือกนายกฯ จะปิ๊กบ้าน-ปิ๊กเมือง แบบเท่ๆ บินมาลงที่ บน.๖ ดอนเมือง
เห็นว่าสาวกเสื้อแดง จะแห่แหนกันไปต้อนรับเรือนหมื่น
ก็ welcome home นะ

เป็นคนไทย ไม่ว่าหนีคดีหรือไม่หนี อยากกลับ ย่อมกลับได้ ถ้าใจไม่ขัดขืนคุก

แต่ผมมองว่า คนระดับทักษิณ ถ้าไม่มั่นใจ คงไม่กลับ ในเมื่อ “กลับ-เข้าคุก” มันไม่เท่

ที่กลับ ก็แสดงว่า การตัดสินใจครั้งนี้ มาจาก ๓ เหตุผล

๑.มั่นใจ โหวตพรุ่งนี้ เพื่อไทยจะได้ทั้งนายกฯ ทั้งรัฐบาล

๒.มั่นใจ คุกนี้…ไม่นาน ก็นิรโทษ และ

๓.มีโรค “ป่วยเรื้อรัง” ต้องการหมอ-ต้องการโรงพยาบาลที่สั่งได้ มีครอบครัวคอยดูแล และกั้นม่านสั่งการให้ถนัด

ถึงตอนนี้ ทักษิณคงซึ้งสัจจธรรมแล้วว่า

เงินแสนล้าน ก็แค่วัตถุไร้จิตใจ ใช้ซื้อทุกสิ่งได้ก็จริง ไวน์ขวดละแสนก็ซื้อล้างตีนได้วันละลัง

แต่สุขอยู่ที่ใจ เงินซื้อไม่ได้ ทั้งยากไร้ความอบอุ่น
ถึงกายสุข เมื่อใจทุกข์ สุขนั้นมันก็กลัดหนอง หน้าหมอง สุขภาพทรุด!

เพราะผมดูสีหน้า-แววตาทักษิณแล้ว แม้ทำศัลยกรรมมาก็ตาม แต่ไฟในดวงตาที่เคยโชนฉานทะยานกล้าด้วยทรนงตะก่อน

วันนี้ หรี่มอด มีแต่ความอ่อนล้า โรยรา เหนื่อยอ่อน ฉายชัดผ่านแววตาโรย

อาหารกายอุดมสมบูรณ์ ไขมันพอกพูนปานคนท้อง ๙ เดือน แต่อาหารใจ ยากไร้-แร้นแค้น แค่แค่นว่ามี

นั่นหมายถึงว่า กายคือเรือ ใจคือเครื่องยนต์

เรือทาสีใหม่
แต่เครื่องยนต์คือใจ มันขื่นขม-ตรมทรวง กระทั่งยิ้มก็ฝืนจนแห้งระโหย “ตาดูดาว-เท้าติดดิน” ที่เคยเป็นน้ำมันหล่อเลี้ยงให้ไฟทะยาน ตอนนี้แห้งขอด

เพราะอย่างนั้น…..
จึงประหนึ่งทอดอาลัย ไม่อินังกับการออกกำลังกาย ทั้งที่คนวัย ๗๔-๗๕ ปีอย่างทักษิณ

วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ทุกวันนี้ จะฟื้นฟูให้เหมือนคนวัย ๖๐ ทำได้ สบายมาก

แต่มันไม่มีกะใจ ซ้ำ “โทรมใน” ดังนั้น แค่ ๗๔-๗๕ จึงยังกะว่า วัยชรา ๘๐-๙๐!

กลับมาก็ดีแล้ว จะ “ในคุก-นอกคุก” ก็เมืองไทย ต้องการอะไร “เงิน” ยังเนรมิตให้ได้อยู่หรอก

เมื่อสุขทั้งกาย-สบายทั้งใจ เมื่อได้กลับบ้าน ต่อจากนั้น จะหวังนิพพานหรือหวังอเวจี ก็อยู่ที่ “ใจ” ท่านโดยตรง

ห่วงแต่ว่า พี่กลับมา แล้ว “ยิ่งลักษณ์” สาวสองพันปีล่ะ จะอยู่กับใคร หรือพี่นำหน้ามาก่อน แล้วน้องค่อยตามมา?

ที่เลือกกลับวันโหวตนายกฯ….
จะเป็นการเสริมดวงเศรษฐาให้ผ่านฉลุย หรือฉุดลงมาเป็น “นายกฯตกสวรรค์” ตามพิธา ผมก็ไม่แน่ใจนะ?

ว่าแต่ว่า พรุ่งนี้ ๒๒ สิงหา…..
เพื่อไทยส่งเศรษฐาแน่นะ ไม่ใช่สับขาหลอก เอาเข้าจริงเป็นชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” เสนอให้รัฐสภาโหวตล่ะ?

ไม่ใช่อะไร เห็นเศรษฐาตอนนี้ “อาการน่าเป็นห่วง”!

ที่ชูวิทย์ลากออกมากระซวกแต่ละดอกเรื่องซื้อขายที่ดินนั้น ไม่แฉมือเปล่า กลับหนีบเอกสารหลักฐานมาแฉด้วย

แทนที่เศรษฐาจะนำข้อเท็จจริงพร้อมหลักฐานมายันให้ชูวิทย์หน้าหงาย

แต่เศรษฐากลับเลือกวิธี “เอ็งแฉข้า-ข้าก็แฉเอ็งกลับ” เข้าทำนอง “ถ้าข้าเลว เอ็งก็ชั่วด้วย” ทำนองนั้น

ซึ่งมันไม่ใช่ มันคนละประเด็นกันเลย

ชูวิทย์คือใคร?
คือชาวบ้านคนหนึ่ง ที่ออกมากล่าวหานายเศรษฐา

แล้วเศรษฐาคือใคร?
คือนักการเมือง เป็นบุคคลสาธารณะ เมื่อเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี การถูกตรวจสอบด้วยการกล่าวหาต่างๆ เป็นเรื่องปกติ

เศรษฐามีหน้าที่นำข้อเท็จจริง, เอกสารหลักฐานมาแสดงเพื่อหักล้างชูวิทย์ให้สาธารณชนได้รับรู้เป็นที่เข้าใจ หายข้องใจในด้านความโปร่งใสของคนที่จะเข้ามาเป็นผู้นำบริหารประเทศ

แต่นี่กลับตรงกันข้าม
เศรษฐาไม่กล้าเผชิญข้อกล่าวหาตรงๆ กลับเลือกวิธีกั้นม่าน “แถลงการณ์” ไม่ยอมให้คนซักถาม

ซ้ำแถลงการณ์ แทนที่จะแจงประเด็นที่เขากล่าวหา กลับยกเรื่องไปกล่าวหานายชูวิทย์ซะนี่!?

แล้วแทนที่จะยื่นความจำนงกับพรรค ให้ทำหนังสือถึงประธานรัฐสภา ขอเข้าไปในที่ประชุม ในฐานะ “ผู้ชี้แจง”

สส.-สว.เขาข้องใจ อยากซักถามตรงไหน ก็จะได้อธิบายให้เขาหายข้องใจ ก่อนโหวต

แต่เศรษฐาและเพื่อไทย “ไม่ทำ” กลับบอก “มั่นใจ ๓๗๕ ขึ้นไป ชัวร์!”

เมื่อชัวร์ ก็ขอให้โชคดี
แต่ “สว.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม” ให้สัมภาษณ์ (๒๐ สค.) ว่าตามหลักการ เมื่อพรรครวมเสียงได้มากเสนอชื่อ
สว.ก็พร้อมโหวตอยู่แล้ว

แต่เมื่อตัวบุคคลที่เสนอเข้ามา มีประเด็นด้านความโปร่งใส สว.ก็จำเป็นต้องลงรายละเอียดใน ๒ ส่วนสำคัญ คือ

๑.ตัวบุคคลที่จะมาเป็นนายกฯ รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ชัดเจน จะต้องเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ

นี่เป็นหลักพื้นฐาน คือหากไม่ใช่คนที่ถูกกล่าวหา หรือมีเรื่องคาศาล เช่น กรณีนายพิธา ก็ไม่มีปัญหาอะไร

๒.เมื่อบุคคลนั้น ไม่มีปัญหาตามข้อ ๑
จากนั้น สว.จะดูเรื่อง “คุณธรรม,จริยธรรม,ความซื่อสัตย์สุจริต”

“เพราะการเป็นผู้นำประเทศ ต้องเป็นผู้นำพาองคาพยพของประเทศ เรื่องจริยธรรม ความซื่อสัตย์ จึงเป็นเรื่องสำคัญ

นี่…ต่อจากนี้ เศรษฐาต้องฟัง
ถือเป็น “ข้อสอบรั่ว” กรายๆ และเศรษฐาโชคดี รู้ก่อน จะได้เตรียมทำข้อสอบล่วงหน้า

สำคัญมากนะ ถ้าอยากสอบผ่านเป็นนายกฯ พรุ่งนี้ ต้องฟัง

ท่าน “สว.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม” แย้มข้อสอบให้ดังนี้

“เมื่อมีประเด็นที่ประชาชนร้องเรียน นำข้อมูลมาเปิดเผยต่อสาธารณะ เช่นที่นายชูวิทย์ ชี้ประเด็นไว้หลายเรื่อง

หรือเรื่องสมัยที่เป็นผู้บริหารบริษัทมหาชน แล้วมีกรณี ทำสะพานในที่สาธารณะ แล้วมีการเรียกเก็บเงินค่าผ่านทาง เรื่องเหล่านี้ ต้องมีความชัดเจน

ต้องอธิบายได้ว่า ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือไม่ได้เป็นบุคคลที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน หรือไม่มีความซื่อสัตย์ตามประเด็นที่ถูกกล่าวหา ต้องชี้แจงให้ได้

นอกจากนี้ เรื่องนโยบายสำคัญต่างๆ ที่บอกว่าจะเข้ามาดำเนินการหากเป็นรัฐบาล ก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องทำความชัดเจนให้กับคนที่ลงคะแนนโหวตให้

อย่างกรณีคุณเศรษฐา ที่มีการบอกว่า วันแรกในการประชุมครม.จะให้มีการทำประชามติ เพื่อให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่จะทำให้รัฐธรรมนูญปัจจุบันหายไป

เรื่องนี้ เป็นประเด็นใหญ่ที่คนทั้งประเทศ และสว.-สส.ต้องมาขบคิดเหมือนกัน เพราะเป็นเรื่องสำคัญ

คำว่าให้มี สสร.มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า

-รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่ดีอย่างไร ถึงจะมายกเลิก?

-เรื่องที่จะมาแก้ไขเป็นประโยชน์กับประชาชนมีอะไรบ้าง?

-ประเด็นดังกล่าว มันสำคัญมาก จนไม่สามารถใช้วิธีการแก้เป็นรายมาตราอย่างไร จนต้องไปยกร่างมาใหม่ทั้งฉบับ?

-ตอนนี้ เมื่อมีสภาฯ ที่ส.ส.มาจากการเลือกตั้ง แล้วทำไมไม่ใช้วิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านสมาชิกรัฐสภา?

-ทำไมต้องไปแก้ไข แล้วร่างใหม่ ผ่านการเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่กระบวนการต่างๆ ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก?

การที่คนซึ่งจะมาเป็นนายกฯ แล้วประกาศแบบนี้ โดยอาจจะยังไม่มีวิธีคิดที่ชัดเจนออกมาก่อน

ก็เป็นข้อสงสัย ข้อกังวล ที่อาจจะไม่ได้รับความเห็นชอบ หากไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน”

เป็นไง….เศรษฐา?
เสียวสันหลังมั้ย หรือหัวโล่งเมื่อรู้ข้อสอบ พร้อมไปยืดอกในห้องประชุมให้สมาชิกรัฐสภาจับขึ้นขาหยั่งเอกซเรย์ได้ทุกซอก-ทุกมุม

ด้วยมั่นใจ ทุกข้อกล่าวหานายชูวิทย์ “ตีตก” ได้แน่?

รวมทั้งเรื่องทำสะพานในที่สาธารณะเก็บเงินค่าผ่านและเรื่องการตั้งสสร.ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แทนฉบับ “ปราบโกง” ปัจจุบัน?

เห็นท่าต้อง “เชือดหมาดำ” ไปเซ่นอสุรกาย “กายแก้ว” ซะแล้วละมั้ง แบบนี้?

เปลว สีเงิน

๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๖

Written By
More from plew
ประชาธิปัตย์ “ก่อนศตวรรษ”?
อืมมม….. จะใช้คำว่า “ดิสรัปท์” หรือ “ก้าวใหม่” ก็น่าจะได้ ในหนทางแก้ปัญหา ๓ จังหวัดใต้ ผมคิดอย่างนั้น เมื่อเห็นภาพและข่าว ผบ.ทบ.อินโดนีเซีย...
Read More
0 replies on “ข้อสอบ “โหวตนายกฯ” รั่ว – เปลว สีเงิน”