13 สิงหาคม 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้บรรจุให้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับเป็นสิทธิประโยชน์บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. 2565 โดยได้ดำเนินการภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) ที่ สปสช.ร่วมดำเนินการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดด้านกฎหมาย ทำให้ที่ผ่านมาโครงการได้ดำเนินการเฉพาะกลุ่มผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขและ สปสช. ได้มีความพยายามแก้ไขข้อจำกัดดังกล่าว เพื่อให้โครงการนี้ครอบคลุมผู้ป่วยติดเตียงและผู้มีปัญหาการกลั้นขับถ่ายทุกสิทธิ กระทั่งได้มีมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 66 ที่ยืนยันว่า สปสช. สามารถดำเนินบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับคนไทยทุกคน จึงมีผลให้ปัจจุบันโครงการผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับครอบคลุมคนไทยทุกสิทธิแล้ว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทางด้านหลักเกณฑ์ต่างๆ ก็ได้มีออกมารองรับเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ ประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566
ทั้งนี้ ภายหลังมีความชัดเจนทางกฎหมาย จะทำให้เจ้าหน้าที่ของ อปท. ซึ่งดำเนินการกองทุน กปท. เกิดความมั่นใจว่าการจัดทำโครงการผ้าอ้อมและแผ่นรองซับสามารถให้การดูแลให้ผู้ป่วยทุกสิทธิไม่เฉพาะผู้มีสิทธิบัตรทองเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ สปสช. อยู่ระหว่างการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ อปท. ทั่วประเทศที่มีการจัดตั้งกองทุน กปท. ที่ปัจจุบันมีอยู่ 7,753 แห่ง ร่วมจัดทำโครงการนี้เพื่อให้ดูแลผู้ป่วยได้ครอบคลุมมากขึ้น จากปัจจุบันที่มี อปท. จัดทำโครงการแล้ว 1,876 แห่ง รวม 2,295 โครงการ ดูแลผู้ป่วยทั่วประเทศอยู่ 44,667 คน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับคุณสมบัติผู้ที่จะได้สิทธิตามโครงการนั้นจะต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียง หรือ ผู้มีปัญหากลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้ ไม่จำกัดอายุ โดยจะได้รับไม่เกิน 3 ชิ้นต่อคนต่อวัน ซึ่งปัจจุบัน สปสช. มีฐานข้อมูลผู้ป่วยติดเตียงและผู้มีปัญหาการกลั้นการขับถ่ายอยู่ประมาณ 50,000 คน ซึ่งในบางพื้นที่จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อไปยังครอบครัวและว่าผู้ป่วยได้รับสิทธิผ้าอ้อมผู้ใหญ่
แต่หากครอบครัวใดมีผู้ป่วยอยู่และยังไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อไป ขอให้ดำเนินการแจ้งขอรับสิทธิโดยการโทรสายด่วน สปสช. 1330 เพื่อเจ้าหน้าที่รับเรื่องและส่งให้พื้นที่ดำเนินการตามขั้นตอน หรือติดต่อลงทะเบียนได้ ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) หรือศูนย์บริการสารธารณสุขใกล้บ้าน (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่อยู่ตามบัตรประชาชน) หรือที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือเทศบาล