มหัศจรรย์แห่งพระสยาม – เปลว สีเงิน

คลิกฟังบทความ…⬇️

เปลว สีเงิน

คนแก่นี่….
เจริญอย่างเดียวคือ “อายุ” นอกนั้น ทั้งเนื้อ-ทั้งตัว “เสื่อมหมด”

หนีไปเที่ยว ๒ วัน กลับมา กรอบเป็นข้าวเกรียบ!
ถามว่า “เข็ดหรือยัง?”
ตอบได้เลย “เข็ดชั่วคราว” แล้วจ้า

แต่พอกระดูกกระเดี้ยวที่ถูกรถเขย่าจนเคลื่อนเข้าที่ ก็คงต้องหนีท่านไปเที่ยวอีก (หลาย) รอบ ขออนุญาตล่วงหน้าเลย

ก่อน “วันแม่แห่งชาติ”๑๒ สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”

“รัฐบาลใหม่” น่าจะลงตัวเป็นรูป-เป็นร่างให้เห็นนะ ผมคิดว่างั้น

และมั่นใจด้วยว่า เมื่อรัฐบาลใหม่เข้าบริหารงานสืบต่อจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์แล้ว

จากเดือนตุลา….
ซึ่งเป็น “ปีใหม่” ทางราชการ ประชาชาติที่แบ่งแยก-แตกฝ่าย มานานร่วม ๒ ทศวรรษ

ด้วยโฉมหน้า “รัฐบาลสามัคคี” จะเป็นตัวสลายความขัดแย้ง-แบ่งฝ่าย กลับมารวมใจเป็นไทยหนึ่งเดียว เหนียวแน่นใน “ชาติ-ศาสน์-พระมหากษัตริย์”

การหันหลังให้อดีต แล้วไทยทั้งประเทศ มุ่งหน้าสู่อนาคตด้วยกัน
นั่นจะทำให้ ชาติไทยฟูเฟื่อง ในภาวะ “โลกสับสน-ผู้คนอลหม่าน” จากความขัดแย้ง-แข่งอำนาจ ที่ส่งผลถึงชีวิตความเป็นอยู่พลโลกขณะนี้

ประเทศไทยมีอะไร “เหนือมนุษย์คิด” อย่างนี้มาตลอด ไทยถึงได้รอดจนเป็นเอกลักษณ์ไทยชาติเดียวในอุษาคเนย์ยังไงล่ะ

คิดสูตรสมานฉันท์กันจนกบาลแทบแตก

คิดได้ แต่ทำไม่ได้

ครั้นพอไม่คิด “สมานฉันท์” คนในชาติ มันกลับเกิดเองได้ ไม่ตั้งใจ ก็เหมือนตั้งใจ

นั่นคือ “ธรรมชาติการเมือง” ที่มันเป็นตัวสร้างแตกแยก

เมื่อถึงเวลา “การเมือง” นั่นแหละ
ชักพาให้ สีเหลือง, สีแดง, สีน้ำเงิน หันหน้ามาสามัคคีกันได้เอง!

ยกเว้นพวก “หลงทาง”
ที่ทรยศคดคิดในทางชั่วต่อชาติบ้านเมืองตัวเองชนิดฝังหัวเท่านั้น

นี่เป็นความคิดคำนึงคร่าวๆ จากที่ผมติดตามข่าวคราว หลังจาก “พิธา-ก้าวไกล” หลุดวงจร ที่จะได้เข้ามาเป็นแกนนำรัฐบาลและได้เป็นนายกฯ

เมื่อ “เพื่อไทย” พรรคอันดับ ๒ ทำหน้าที่ฟอร์มรัฐบาลต่อ ผมเห็น “แนวปฎิบัติ” จะมาจากแนวคิดใครก็ช่างเถอะ แต่เมื่อแนวคิดนั้น เป็น “แนวสร้างสรรค์”

คือสลายแค้น-สลายอาฆาต เอาชาติบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง ไปเชิญแต่ละพรรคที่ครั้งหนึ่ง “เราจะอยู่ร่วมชาติกันไม่ได้” เช่น …

รวมไทยสร้างชาติ ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนากล้า เป็นต้น

มาร่วมปรึกษาหารือในทางออกให้ชาติบ้านเมือง เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลด้วยกัน

นั่นจะนำไปสู่การเป็นรัฐบาลร่วมหรือไม่ ผมไม่สนใจ

ที่สนใจและอบอุ่นใจมากที่สุดคือ

เพื่อไทย เปลี่ยนอาฆาต พยาบาท ล้างแค้น เป็นคิดอย่างผู้ใหญ่ตกผลึก มีความรับผิดชอบ

ยื่นไมตรีไปหาพรรคที่เป็นปฎิปักษ์คิดกันมาตลอด เชิญมาดื่มชอล์คมิลค์ เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะ หาแนวทางเพื่อชาติบ้านเมืองร่วมกัน

และพรรค “ต่างขั้ว-ต่างแค้น” ก็ไม่ถือแง่-ถืองอน ยื่นมือรับไมตรี มานั่งคุยกัน แบบสมานฉันท์ เปี่ยมมิตรไมตรี

ผมว่าภาพเหล่านี้…….
ที่เพื่อไทยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคภูมิใจไทย เป็นต้น ยิ้มแย้มดื่มกินแถลงข่าวร่วมกัน

แค่นี้ “ค่ามหาศาล” ต่อชาติบ้านเมือง ที่ไทยทุกคนอยากเห็นและรอคอยมานานร่วม ๒๐ ปี
ส่วนจะร่วมรัฐบาลกันหรือไม่ร่วม นั่นแค่ปลีกย่อย!

เนี่ย….
“สมานฉันท์คนในชาติ” มันเกิดขึ้นแล้ว จาก DNA ไทยด้วยกัน มันน่าปลื้ม น่ายินดี และมีค่าทางจิตใจไทยทั้งชาติยิ่งนัก

ขนาดทะเลาะ-แบ่งแยกกันมาเป็นทศวรรษ ประเทศชาติเรายังพัฒนา ติดอันดับโลกเกือบทุกด้าน

แล้วถ้า ทุกคน-ทุกพรรค เปลี่ยนจากแยกเขี้ยวเป็นยิ้มเข้าหากัน ทำงานในฐานะนิติบัญญัติ ในฐานะบริหาร แบบมีชาติเป็นแกนด้วยกัน

คิดดูซิ…ไทยเราจะก้าวโรจน์ ชนิดก้าวกระโดดไปได้ขนาดไหน?

ถ้านักการเมือง ละอาฆาต ละพยาบาท ละตัวตน แต่ละพรรค-แต่ละคน เอา “ชาติ ศาสน์ พระมหากษัตริย์” เป็นที่ตั้ง แล้วหันหน้าเข้าหากัน

แบบนี้ “ทุกปัญหามีทางออก” ทั้งนั้น ไม่มีเรื่องไหน ที่จะเป็นไปไม่ได้เลย ผมรับประกัน!

ทั้งหมดนี้ เป็นความรู้สึกดีๆ สะท้อนจากภาพ แต่ละพรรคแสดงออกซึ่งวุฒิภาวะและความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง โดยมีเพื่อไทยเป็นแกน ช่วง ๓-๔ วันมานี้

ต่อจากนี้ เป็นมุมมองของผม ก่อนจะโหวตเลือกนายกฯรอบที่ ๓ ในวันพฤหัสที่ ๒๗ กค.

ผมว่า เที่ยวนี้ เพื่อไทยมาในบทบาทที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน คือ เป็นผู้ใหญ่ มีความคิดตกผลึก ไม่คิดแบ่งแยก-แตกฝ่าย

และแนวทางการตั้งรัฐบาลของเขา ละเมียด สุขุม ใจเย็น อดทน และทำเป็นขั้น-เป็นตอน แบบ “ผู้ใหญ่รักษาคำพูด”

จะเห็นว่า การแถลงร่วมกับพรรคฝ่ายรัฐบาลปัจจุบัน เพื่อไทยจะเน้น…เพียงเชิญมาพูดคุยศึกษาแนวทางเท่านั้น
“ไม่ได้เชิญมาร่วมตั้งรัฐบาล”

ณ ขณะนี้ เพื่อไทย ยังยึดมั่นใน ๘ พรรค ๓๑๒ เสียง ที่มีเพื่อไทยเป็นแกนต่อจากก้าวไกล

แบบนี้ หมายความว่าไง?
ก็ถอดรหัสออกมาได้ประมาณว่า ถ้า ๒๗ กค.ไม่มีการเลื่อนโหวตนายกฯ การโหวตครั้งที่ ๓ ของรัฐบาล ๘ พรรค

ไม่ว่าเพื่อไทย จะเสนออุ๊งอิ๊ง เศรษฐา หรือ ชัยเกษม เป็นนายกฯ
ไม่ผ่านเป็นรอบที่ ๓ ล้านเปอร์เซ็นต์!

เหตุผลเดียวที่ได้เสียงโหวตไม่ถึง ๓๗๖ ขึ้นไป เพราะยังมีก้าวไกลร่วมเป็นรัฐบาล
เมื่อรู้ว่าไม่ผ่าน แล้วเพื่อไทยจะดันทุรังไปทำไม?

ก็เพื่อไม่ให้ก้าวไกลพูดได้ว่า เพื่อไทยหักหลัง ไม่ทำตาม MOU พรรค
เมื่อเสนอนายกฯรอบที่ ๓ ในนาม ๘ พรรคแล้ว “ไม่ผ่าน” ก็ถือว่า ทุกอย่างจบตาม MOU แล้ว

ต่อจากนั้น หมดพันธะตามสัญญา เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ เพื่อไทยในฐานะพรรคอันดับ ๒ มีสิทธิ์เต็มที่ ที่จะเชิญพรรคไหนก็ได้ มาร่วมตั้งรัฐบาล

แต่ในเมื่อพรรคต่างๆ ที่เชิญมาคุย เขามีเงื่อนไขเดียว คือ “ต้องไม่มีพรรคล้มเจ้า” ร่วมด้วย เขาถึงจะเข้าร่วม

ดังนั้น การที่เพื่อไทยจะไม่เอาก้าวไกลร่วมรัฐบาล ก็ชอบด้วยเหตุผลทุกประการ!

ส่วนจะเชิญ ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนากล้า มาร่วมทั้งหมดหรือบางพรรคนั้น
พรรคเหล่านั้น เขาไม่ติดใจอะไร

แถมยินดีโหวตสนับสนุน คนที่เพื่อไทยเสนอเป็นนายกฯคนต่อไปด้วยซ้ำ เพียงไม่มีก้าวไกลร่วมเป็นรัฐบาลเท่านั้น!

นี่ การเมืองเรื่องตั้งรัฐบาลมาถึงจุดนี้แล้ว

หมายความว่า ในวันที่ ๒๗ กค.ถ้าโหวตนายกฯ ก็ได้เสียงไม่ถึง ๓๗๖ เพราะยังมีก้าวไกล

ฉะนั้น ผมจึงมองว่า น่าจะต้องโหวตรอบที่ ๔ ในเดือนสิงหา. เพื่อไทยเป็นแกนจัดตั้ง ไม่มีก้าวไกลร่วม ไม่ว่าจะเสนอใครเป็นนายกฯ จะเป็นป.ปลา หรืออ.อ่าง ก็ชั่งเถอะ

ได้เกิน ๓๗๖ เสียง สองล้านเปอร์เซ็นต์!

มองๆ ดูก็ มหัศจรรย์พันลึก กับการเมืองไทยฟ้าดินจัดสรร

ฝ่ายค้าน เป็นรองประธานสภา อันดับ ๑

ฝ่ายรัฐบาล เป็นรองประธานสภา อันดับ ๒

เผลอๆ กระทั่งตัว “ประธานรัฐสภา” ก็อาจเป็นฝ่ายค้านอยู่ในซีกก้าวไกล

ที่จะขำจนหัวเราะไม่ออก ถ้าประชาธิปัตย์ต้องไปเป็นฝ่ายร่วมกับก้าวไกล!?

ถ้าเป็นอย่างนี้จริง ต้องขอบคุณ เพราะนี่คือ “ฟ้าดินจัดสรร” แท้จริง

การ “สลับขั้ว-สลับข้าง-สลับคนต่างความคิด” ให้ไปอยู่ด้วยกัน มันคือการ “สลายขั้ว-สลายคิด” คืนสู่ความเป็นหนึ่งเดียวที่ถูกต้องได้ในที่สุด

แล้ว “พิธา-ก้าวไกล” ของผมหายไปไหนล่ะเนี่ย?

เห็นเขาว่า กำลังเดินสายปลุกระดมทั่วประเทศ

ตั้ง “รัฐบาลพลัดทำเนียบ” ในพญาอินทรีอุปถัมภ์ เสร็จเมื่อไหร่ บอกด้วยนะพิธา

จะส่ง “ช็อกมินต์” สูตรใบบัวบกไปร่วมฉลอง!

เปลว สีเงิน
๒๔ กรกฏาคม  ๒๕๖๖

 

Written By
More from plew
ไทย : เอกลักษณ์โลก – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน ชื่อเสียง “ประเทศไทย” ตอนนี้ “ปังไม่สุด-หยุดไม่อยู่” จริงๆ “ปัง” จนโลกอิจฉา! อะไรมันจะ The Best...
Read More
0 replies on “มหัศจรรย์แห่งพระสยาม – เปลว สีเงิน”