11 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงการประชุมใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ จะมีการนัดประชุมคณะกรรมการบริหารในวันพรุ่งนี้เวลา 15.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์นั้น
เป็นการประชุมเพื่อขอยกเว้นข้อบังคับให้สามารถทำการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ได้หลัง 60 วัน ส่วนการกำหนดวันเลือกหัวหน้าพรรคจะมีขึ้นเมื่อใดนั้นยังไม่สามารถตอบได้
ส่วนปัญหาการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคของ 2 ฝ่าย จะมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการพูดคุยกันในระหว่างนี้ก่อนที่จะมีการโหวตเลือกเพื่อให้ได้ข้อยุติอย่างไรนั้น นายจุรินทร์ ยอมรับว่า เป็นไปได้ทั้งหมด ทุกอย่างจะยุติในที่ประชุมใหญ่เมื่อถึงเวลา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะทำให้พรรคแตกหัก จนไม่สามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่นั้น นายจุรินทร์ มองว่าเรื่องนี้เป็นวิถีประชาธิปไตยในพรรค เมื่อมีผู้สมัครมากกว่า 1 คน ก็จะต้องมีการแข่งขันกัน และเป็นมาตลอดหลายยุคหลายสมัย เพราะพรรคไม่ได้มีใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของที่จะชี้ได้ว่าให้ใครมีตำแหน่งอะไร ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับมติพรรค
สำหรับการพิจารณาการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น พรรคก็จะมีการประชุมกันในวันพรุ่งนี้ว่าในที่ประชุม ส.ส. จะมีความเห็นอย่างไรในเรื่องนี้ แต่ทั้งหมดยังคงต้องยึดตามรัฐธรรมนูญ และยังต้องเป็นเอกสิทธิ์ของผู้ลงคะแนน พรรคก็อาจจะมีความเห็นทางใดทางหนึ่งแต่ว่ายังต้องถือเป็นเอกสิทธิ์ของผู้ลงมติ และเชื่อว่าจะเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ขณะนี้ยังไม่ได้มีการหารือ เพราะยังไม่ได้เป็นที่ยุติว่าจะมีใครเสนอชื่อเพื่อไปแข่งขันหรือไม่สำหรับการเลือกนายกรัฐมนตรี
ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ ปฏิเสธแสดงความเห็นเรื่องการโหวตชื่อนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีกี่รอบ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริงเท่าที่ฟัง พรรคก้าวไกลก็มีความมั่นใจว่าโหวตรอบเดียวก็จะผ่าน
ในส่วนข้อบังคับการประชุมสภา ระบุว่าหากมีการเสนอญัตติแล้วตกไป ไม่สามารถนำขึ้นมาพิจารณาใหม่ได้นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ เดี๋ยวจะไปพันกับการเมืองโดยไม่จำเป็น ขอให้ประธานสภาเป็นผู้วินิจฉัยว่าจะเป็นอย่างไร
นายจุรินทร์ ยังบอกด้วยว่า ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ยังไม่มีการพูดคุยว่าจะมีการส่งรายชื่อชิงตำแหน่งนายกฯ ส่วนจะมีการส่งหรือไม่ ตนไม่ทราบ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้คุยเพราะถือว่าเมื่อถึงขั้นตอนนี้ 8 พรรคร่วมเสียงกันได้ 312 เสียง ก็ให้เป็นหน้าที่ของ 8 พรรคในการจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนการประชุมสภาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 ก.ค. จะมีผู้ชุมนุมถึง 14 กลุ่ม มาที่หน้ารัฐสภานั้น นายจุรินทร์ บอกว่า อยากให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย การแสดงความเห็นทางการเมืองสามารถทำได้ แต่ต้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ทราบว่าสุดท้ายจะมาโดยวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะให้ดำเนินการอะไร อย่างไรแต่ว่าทั้งหมดก็เป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาที่จะต้องลงมติและฝ่ายรักษาความปลอดภัยก็คงดูแลอยู่แล้วให้ทุกอย่างเรียบร้อย