นายกฯ ต้อนรับคณะเยาวชนจากโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ 2566 ขอให้เรียนรู้ความเป็นไทย และนำประสบการณ์ในการเยือนไทยไปเผยแพร่ความเป็นไทยไปสู่สายตาประชาคมโลก

นายกฯ ต้อนรับคณะเยาวชนจากโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ 2566 ขอให้เรียนรู้ความเป็นไทย
และนำประสบการณ์ในการเยือนไทยไปเผยแพร่ความเป็นไทยไปสู่สายตาประชาคมโลก สร้างประโยชน์ให้กับแผ่นดินแม่ในอนาคตต่อไป

4 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส พร้อมนายดำฤทธิ์ วิริยะกุล เลขานุการโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่

นำคณะเยาวชนจากโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ 2566 และผู้ปกครอง เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อรับฟังโอวาท โดยนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับคณะเยาวชนและผู้ปกครอง จากโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ 2566 และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับในการเดินทางมาเยือนประเทศไทยในรอบ 4 ปี หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

จึงเป็นโอกาสดีที่จะเรียนรู้และสัมผัสความเป็นไทยในแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนของบรรพบุรุษ รวมถึงจะได้เรียนรู้รากเหง้าและแก่นแท้ของความเป็นไทย สัมผัสสิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับประเทศไทยและวัฒนธรรมไทย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำถึงเสถียรภาพของประเทศไทย แม้จะอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ซึ่งในปัจจุบันรัฐบาลได้พัฒนาประเทศ ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้เข้มแข็ง รวมถึงดำเนินความสัมพันธ์กับพันธมิตรทุกประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญของไทยมายาวนาน จึงขอให้เยาวชนร่วมกันเสริมสร้างไทยให้มีที่ยืนในเวทีโลกได้อย่างเหมาะสม

นายกรัฐมนตรีมองเห็นถึงความสำคัญของเยาวชน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างประโยชน์และพัฒนาประเทศไทยได้ พร้อมให้คำแนะนำในการเรียนรู้ภาษาไทย ซึ่งความสามารถด้านภาษา จะช่วยสร้างโอกาสทางอาชีพการงานที่ดี และเป็นสิ่งที่จำเป็นในการใช้ชีวิตในโลกทุกวันนี้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังขอให้เยาวชนเรียนรู้วัฒนธรรมไทย และพร้อมที่จะเปิดรับวัฒนธรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ ซึ่งการเปิดรับความหลากหลายจะเป็นรากฐานของสังคมที่สงบสุขและเข้มแข็ง ช่วยให้เป็นคนที่เปิดกว้าง และพร้อมที่จะเข้าใจความแตกต่างทางความคิดของผู้อื่น

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีหวังว่า เยาวชนทุกคนจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์และความรู้จากการเยือนครั้งนี้ และเชิญชวนให้มาเยี่ยมเมืองไทยเป็นประจำทุกปี และช่วยกันแบ่งปันประสบการณ์ในประเทศไทยและความเป็นไทยกับเพื่อน ๆ ต่อไป

พร้อมขอให้เยาวชนทุกคนภูมิใจในความเป็นไทย ยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ และช่วยกันเป็นทูตวัฒนธรรมเผยแพร่ความเป็นไทยไปสู่สายตาประชาคมโลก และสร้างประโยชน์ให้กับแผ่นดินแม่ในโอกาสที่เอื้ออำนวยในอนาคต

ภายหลังนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับจบ ตัวแทนเยาวชนในโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี โดยรู้สึกยินดีและภาคภูมิใจที่ได้เดินทางมาประเทศไทย และได้มาเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีที่สถานที่สำคัญ ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้

โดยการมาเยือนไทยทำให้ได้เรียนรู้วัฒนธรรมความเป็นไทย พร้อมขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้ให้โอวาทในวันนี้ ทั้งนี้ ในตอนท้าย คณะเยาวชนได้ถ่ายภาพร่วมกับนายกรัฐมนตรี

อนึ่ง โครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ จัดขึ้นเป็นประจำทุก 2 ปี โดยนำเยาวชนไทยที่เกิดและเติบโตในสหรัฐอเมริกาเยือนประเทศไทย เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย ทัศนศึกษาสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ตลอดจนความเจริญก้าวหน้าในประเทศไทยและนำกลับไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ที่สหรัฐฯ

ทั้งนี้ โครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ 2566 จัดเป็นครั้งที่ 13 เป็นวาระครบรอบ 40 ปีของการดำเนินโครงการฯ มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย เยาวชนไทยและผู้ปกครองที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ จำนวน 6 รัฐ ได้แก่ แอริโซนา แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย แคนซัส เนวาดา และเท็กซัส และสื่อมวลชนไทยในสหรัฐฯ รวมทั้งสิ้นประมาณ 200 คน

Written By
More from pp
นายกฯ ให้สัมภาษณ์ภารกิจเยือนอิตาลีอย่างเป็นทางการวันแรก หารือภาคเอกชนด้านแฟชั่นที่สำคัญของอิตาลี นำเสนอผ้าย้อมคราม จ. สกลนคร
นายกฯ ให้สัมภาษณ์ภารกิจเยือนอิตาลีอย่างเป็นทางการวันแรก หารือภาคเอกชนด้านแฟชั่นที่สำคัญของอิตาลี นำเสนอผ้าย้อมคราม จ. สกลนคร พร้อมหารือผู้ว่าแคว้นลอมบาร์เดีย ดึงดูดการลงทุนในสาขาที่มีศักยภาพร่วมกัน
Read More
0 replies on “นายกฯ ต้อนรับคณะเยาวชนจากโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ 2566 ขอให้เรียนรู้ความเป็นไทย และนำประสบการณ์ในการเยือนไทยไปเผยแพร่ความเป็นไทยไปสู่สายตาประชาคมโลก”