นายกฯ เปิดการใช้งานระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล และระบบเปรียบเทียบภาพใบหน้า โดยใช้งานผ่านแอปฯ ไทยดี (ThaID) อย่างเป็นทางการ

นายกฯ เปิดการใช้งานระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล และระบบเปรียบเทียบภาพใบหน้า โดยใช้งานผ่านแอปฯ ไทยดี (ThaID) อย่างเป็นทางการ ย้ำรัฐบาลมุ่งมั่นนำพาประเทศสู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (30 มิถุนายน 2566) เวลา 11.00 น. ณ ลาน Promotion ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเซ็ลทรัล ปิ่นเกล้า กรุงเทพฯ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการใช้งานระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (Digital ID) และระบบเปรียบเทียบภาพใบหน้า (Face Verification System) โดยใช้งานผ่านแอปพลิเคชันไทยดี (ThaID) อย่างเป็นทางการ เพื่อยืนยันตัวตน โดยไม่ต้องกรอกข้อมูลให้เสียเวลา ถือเป็นการสร้างมิติใหม่ของการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลที่มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการดำเนินโครงการระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล และระบบเปรียบเทียบภาพใบหน้า โดยการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันไทยดี ว่า วันนี้ถือเป็นการเปิดตัวในการใช้งานอย่างเป็นทางการ พร้อมย้ำว่าปัจจุบันเทคโนโลยีถือเป็นสิ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ รัฐบาลมุ่งมั่นนำพาประเทศไปสู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี

โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นองค์ประกอบหลักในการเพิ่มศักยภาพการให้บริการประชาชนของหน่วยงานภาครัฐ ให้มีความเป็นเลิศ ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างทั่ว ถึงด้วยเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย ทำให้ผู้รับบริการทุกคนสามารถเข้าถึงงานบริการภาครัฐได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัย

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความสำเร็จในการพัฒนาระบบดิจิทัลของภาครัฐเพื่อประชาชน โดยขอชื่นชมกระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ผนึกกำลังร่วมกันดำเนินโครงการระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล และระบบเปรียบเทียบภาพใบหน้าโดยการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันไทยดี จนสำเร็จและสามารถเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการได้ในครั้งนี้

ถือเป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รวมถึงพัฒนาและบูรณาการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของภาครัฐให้มีความเท่าเทียมกับระดับมาตรฐานสากล และหวังว่าหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน จะได้นำแอปพลิเคชันไทยดีไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการให้บริการประชาชนอย่างแท้จริง

นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจขับเคลื่อนโครงการนี้ และต่อยอดไปสู่การพัฒนาระบบการให้บริการภาครัฐที่ครอบคลุมในทุกหน่วยงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ระบบราชการไทย รวมถึงช่วยอำนวยความสะดวกในการให้บริการ และสนองต่อความต้องการให้กับประชาชนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น

โดยประชาชนสามารถยืนยันตัวตนทำธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย สามารถลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องเดินทางไปลงทะเบียนที่สำนักทะเบียนแต่อย่างใด พร้อมขออวยพรให้การดำเนินการดังกล่าว สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในปัจจุบันว่าต้องใช้อย่างรู้เท่าทัน ให้เกิดความปลอดภัย และเกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการรับรู้ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ต้องมีการพิจารณาคิดวิเคราะห์และตรวจสอบความถูกต้องให้ชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนเชื่อหรือเผยแพร่ข้อมูลออกไป เพื่อร่วมกันป้องกันในการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือไม่ถูกต้องที่จะส่งผลกระทบต่อสังคมทำให้เกิดความเสียหายต่อตนเองและบุคคลอื่นด้วย

Written By
More from pp
“ศุภชัย” งัด หมวด ๑๐ พ.ร.บ. กัญชา โชว์สังคม เผย ห้ามขายเด็กอายุต่ำกว่า ๒๐ ขอประชาชน ใช้อย่างเข้าใจ เตือน กฎหมายยังอยู่ชั้นพิจารณา หากใช้ผิดทาง กัญชาอาจกลับไปติดล็อกเดิม
๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๕-นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊ก Suphachai Jaismut ระบุว่า เราไม่ปล่อยปละ ไม่ละเลย...
Read More
0 replies on “นายกฯ เปิดการใช้งานระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล และระบบเปรียบเทียบภาพใบหน้า โดยใช้งานผ่านแอปฯ ไทยดี (ThaID) อย่างเป็นทางการ”