รมต.อนุชา นำคณะดูงานฟาร์มโคญี่ปุ่น เตรียมนำองค์ความรู้เสริมทัพงานกองทุนหมู่บ้านฯ ดันโคต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ พันธุ์ไทย สู่การส่งออก สร้างรายได้ให้ท้องถิ่น

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นำคณะกรรมการดำเนินโครงการพัฒนาเมืองที่ค้างอยู่ โดยมี นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ นายสืบศิษฏ์ ศานติศาสน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) นายฮิเดอากิ อิชิ ผู้จัดการสาขามิโตะ ธนาคาร MUFG และนายนาโอโตะ ลิมูระ รองประธานที่ปรึกษาด้านการเงินและกลยุทธ์องค์กร ธนาคาร MUFG

ร่วมเดินทางไปยังเมืองฮิตาชิโอมิยะ จังหวัดอิบาระกิ เยี่ยมชมการดำเนินงานของ Mizuho Farm (มิซุโฮะ ฟาร์ม) ซึ่งเป็นฟาร์มโคเนื้อขนาดใหญ่ อันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น โดยมี นายอิจิโระ ชิโมยามะ เจ้าของฟาร์มให้การต้อนรับและบรรยายความเป็นมาและความสำคัญของฟาร์มให้แก่คณะผู้เยี่ยมชม

นายอนุชา กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำให้รัฐบาลส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน มุ่งสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้การสนับสุนนเงินทุนให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านผ่านโครงการต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้

อย่างเช่น โครงการโคล้านครอบครัว ซึ่งสอดคล้องกับการเดินทางมาศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนแนวคิดกับทางมิซูโฮะฟาร์มในวันนี้

โดยโครงการโคล้านครอบครัวที่รัฐบาลส่งเสริม เป็นการสนับสนุนภาคการเกษตรที่ต้องการให้ประชาชนหันมาเลี้ยงโคต้นน้ำเป็นอาชีพ ซึ่งค้นพบว่าการเลี้ยงโคสามารถสร้างรายได้ให้ประชาชนอย่างยั่งยืน รัฐบาลสนับสนุนเงินทุนตั้งต้นและให้คำปรึกษา

การดูงานในวันนี้ทำให้ได้เห็นแนวทางการพัฒนาพันธุ์โคจากโคต้นน้ำสู่โคกลางน้ำจนถึงการเลี้ยงโคปลายน้ำที่มุ่งเน้นการส่งออกและสร้างมูลค่า อีกทั้งยังได้ความรู้ในการเตรียมการสู่การนำผลผลิตจากโคออกจำหน่าย เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้อย่างยั่งยืน

ซึ่งสิ่งนี้ ตนได้สั่งการและกำชับให้ สทบ. รวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปพัฒนาเพิ่มศักยภาพการดำเนินงาน พร้อมติดตามความคืบหน้าของโครงการเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

สำหรับ มิซูโฮะฟาร์ม เป็นฟาร์มโคที่มีกระจายอยู่ทุกพื้นที่ในประเทศญี่ปุ่นถึง 14 แห่ง โดยแบ่งเป็นฟาร์มโคนม 12 แห่ง ฟาร์มโคเนื้อ 2 แห่ง มีจำนวนโคทั้งสิ้น ประมาณ 31,000 ตัว แบ่งเป็นโคนม 17,000 ตัว และโคเนื้อ 14,000 ตัว

สำหรับฟาร์มที่คณะได้มาศึกษาดูงานในครั้งนี้ ตั้งอยู่ที่เมืองฮิตาชิโอมิยะ จังหวัดอิบาระกิ โดยมีโคเฉพาะฟาร์มนี้จำนวน 6,600 ตัว แบ่งเป็นโคนม 1,800 ตัว และโคเนื้อ 4,800 ตัว ทำการเลี้ยงและเพาะพันธุ์โคบนพื้นที่ 40 เฮกตาร์ หรือประมาณ 250 ไร่

นับได้ว่าเป็นฟาร์มเดียวในประเทศญี่ปุ่นที่มีจำนวนโคมากที่สุดสำหรับพื้นที่ขนาดนี้เมื่อเปรียบเทียบกับเมืองฮอกไกโด ฟาร์มแห่งนี้ยังใกล้กรุงโตเกียวมากกว่าจึงสะดวกต่อการกระจายสินค้าและส่งออก

นอกจากนี้ มิซูโฮะฟาร์ม ยังมีจุดเด่นด้านสายพันธุ์โค ทั้งโคนมและโคเนื้อ โดยโคนมที่นี่สามารถผลิตน้ำนมได้มากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ส่วนโคเนื้อแม้ไม่ใช่อันดับ 1 ของประเทศแต่ก็จัดอยู่ในระดับต้น ๆ โดยมีการเพาะพันธุ์และเลี้ยงโคสายพันธุ์โฮลสไตน์ผสมกับสายพันธุ์วากิว จนกระทั่งเกิดสายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่อว่า สายพันธุ์ F1

ซึ่งพบว่าได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะได้เนื้อที่มีไขมันแทรกในเนื้อจำนวนมาก ราคาถูกกว่าสายพันธุ์วากิว 3-4 เท่า เหมาะสำหรับชาวต่างชาติหรือนักท่องเที่ยว แต่อาจไม่เหมาะกับผู้บริโภคเนื้อในพื้นที่ เพราะมีไขมันมากเกินไป

สำหรับมาตรฐานการเลี้ยงโค ฟาร์มแห่งนี้มุ่งเน้นขยายพันธุ์เพื่อให้โคคลอดลูกและเลี้ยงแม่พันธุ์โคและลูกโคในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นถือว่าทำได้ยาก จากการดำเนินการดังกล่าวสร้างรายได้ให้ฟาร์มถึงประมาณ 5 พันล้านเยน จากธุรกิจทั้งการขายเนื้อ นม และผลผลิตจากโค

Written By
More from pp
“ลุงตู่” นำทีมอรหันต์ รทสช. แถลงเปิดนโยบาย “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” การันตีเป็นบุคลากรคุณภาพ โชว์ 16 นโยบาย พร้อมทำทันที 10 นโยบาย
เมื่อเวลา 13.44 น. วันที่ 26 เมษายน 2566 ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี...
Read More
0 replies on “รมต.อนุชา นำคณะดูงานฟาร์มโคญี่ปุ่น เตรียมนำองค์ความรู้เสริมทัพงานกองทุนหมู่บ้านฯ ดันโคต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ พันธุ์ไทย สู่การส่งออก สร้างรายได้ให้ท้องถิ่น”