สันต์ สะตอแมน
คนบันเทิงยุคนี้..
มีคนปรารภให้ฟังว่า เขา-เธอมักหัวร้อน ดุดัน ออกลูกนักเลงกันบ่อย ซึ่งใจหนึ่งอยากจะเถียงแทนอยู่ แต่มาคิดอีกที คนพูดก็ไม่ได้มองผิดไปสักเท่าไร เพราะที่เห็นก็เป็นจริงเช่นนั้น
ศิลปิน ดารา นักร้องสมัยนี้คงคิด-คงมองต่างไปจากรุ่นพ่อ-รุ่นแม่หรือรุ่นพี่ ที่สมัยก่อนคนบันเทิง-ดาราจะต้องอ่อนน้อม สุภาพทั้งกริยา-วาจา ยึดหลัก..
อาชีพนักแสดงเต้นกิน-รำกิน คือผู้ให้ความสุข-ความบันเทิงกับประชาชน เลี่ยงได้จะพยายามเลี่ยงการเป็นศัตรูหรือขัดแย้งกับคนดู-ผู้สนับสนุนเด็ดขาด!
ผิดกับยุคนี้ ไม่ใช่เรื่องของตัวเองก็ยังไปแส่ ไปแกว่งปากให้เกิดเป็นประเด็น นั่นเพราะแค่ไม่ถูกใจ ไม่ถูกอารมณ์ บางคนถึงขั้นเที่ยวท้าชก-ท้าตีกับคนที่ทำให้ตัวเองขัดใจก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
อย่าง 3-4 วันที่ผ่านมา จากกรณีคุณศรีสุวรรณ จรรยา โพสต์..“สงสัย เอก-ป๊อก-ช่อ ไปร่วมวงสนทนาการตั้งรัฐบาลในนามพรรคอะไร?
ในเมื่อตนไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมืองใด และหมดสถานะผู้ช่วยหาเสียงแล้ว..เรื่องนี้ต้องถึง กกต. อาจเข้าข่ายไปครอบงำ ชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมือง..
เป็นเหตุให้ กกต.สามารถเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองทั้ง 6 พรรคที่ร่วมหารือกันตั้งรัฐบาลได้ ตาม ม.92(3) ของกฎหมายข้างต้น”
แล้วดาราหนุ่ม “แทค ภรัณยู” ก็ได้เข้าไปคอมเมนต์..“พี่ศรี ว่างมาเรียนเชิญ มาถ่ายรายการผมสักยกไหม เดียวจัด ให้อย่างงามเลย พูดเคยเฉยๆๆ ข้างหลังเป็น เวทีมวย สนใจทักมานะพี่ศรี”
และได้โพสต์อีกว่า.. “กูอยาก นั่งถ่ายรายการ กับ พี่ศรี จริงๆ อยากจะลองสักยก มาเป็นไง ชีวิตเป็นแบบไหน โตมายังไง ตะบี้ตะบัน ฟ้องไปทั่ว ค”
และ “มาพี่ อยากสุดมานี้ ทักไปละนะ แชร์ไปทุกคนอยากคุยด้วย”
ก็..ต้องชื่นชม เท่มากพ่อคุณ เพียงแต่ออกลูก “นักเลงนอกจอ” ไปนิดนะ และที่ถาม “ชีวิตเป็นแบบไหน โตมายังไง” นั้น ก็ดูจะก้าวร้าวไปหน่อยเช่นกัน!
ความจริงคุณแทคก็เป็นนักแสดงที่ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมจนเป็นที่ประจักษ์ เคยได้เข้ารับรางวัลประกาศเกียรติคุณ จากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศอ.ปส.)
สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ในโครงการ “รวมพลังไทย ขจัดภัยยาเสพติด ร่วมเทิดไท้องค์ราชัน” เป็นอาทิ
ซึ่งก็น่าจะเข้าใจ-เห็นใจต่อผู้ที่พยายามอุทิศตัว-ทำประโยชน์ต่อสังคมอย่างคุณศรีสุวรรณ ที่ก็มีผลงานประจักษ์มาไม่น้อย แทนที่จะใช้อารมณ์ไปข่ม ไประรานจิตใจแบบนั้น
คุณแทคเป็นดารา ถ้าจะเอาหูไปนา-เอาตาไปไร่กับเรื่องไกลตัว ไกลอาชีพก็คงจะไม่มีใครไปตำหนิอะไรได้ หรือหากทนขัดตา-ขัดใจไม่ไหว (จริงๆ)..
ด้วยความเป็นดาราที่ได้รับการยกย่องเป็นดาวบนราวฟ้า ก็ควรที่จะใช้คำพูด มธุรสวาจาที่สุภาพ ยิ่งกับผู้มีคุณวุฒิ-วัยวุฒิสูงกว่า สัมมาคาราวะยิ่งควรมี!
อย่าเลย.. “นักเลงนอกจอ” น่ะ คุณแทคต้องย้อนหาความรู้จากรุ่นพ่อ-รุ่นพี่ ดาราระดับพระเอก-ดาวร้ายในอดีต ส่วนใหญ่ “นักเลง (ตัวจริง) นอกจอ” กันทั้งนั้น
แต่เมื่อเข้าไปประกอบอาชีพเป็นดารา-นักแสดง เป็นคนของประชาชนที่คอยสร้างความสุขความบันเทิง เขาจึงได้ถอดเขี้ยวเล็บเก็บใส่ลิ้นชัก..
ไม่มีดาวร้าย-พระเอกท่านไหนที่จะเที่ยวแกว่งปาก ท้าตี-ท้าชกกับผู้อื่นเพียงแค่ไม่ถูกใจ-ถูกอารมณ์อย่างกับดารายุคนี้!
พี่ศรีน่ะ ปล่อยให้แกตะบี้ตะบันฟ้อง-ร้องเรียนของแกไปเถอะ ได้เรื่องบ้าง-ไม่ได้เรื่องบ้าง คุณแทคก็ไม่เห็นจะต้องไปเดือดร้อนอะไร?
จะอ้าง “ทนไม่ได้” ก็ต้องดูว่าเวลานี้ใช่มีแต่คุณแทค-คนบันเทิง (บางคน) เสียที่ไหน ในสังคมก็มีอีกมากที่ “ทนไม่ได้” แต่ทุกคนก็พยายามอดทน-อดกลั้น..
นั่งดูพฤติกรรมของเด็ก (เลว) ที่สร้างความรำคาญใจ ขัดตา ตาปริบๆ ไม่เว้นแต่ละวัน!
แล้วทีเด็กประเภทนี้ ทำไมคุณแทค ไม่โพสต์..“กูอยาก นั่งถ่ายรายการจริงๆ อยากจะลองสักยก มาเป็นไง ชีวิตเป็นแบบไหน โตมายังไง” บ้างล่ะ?
หรือนักเลงกลัวรถทัวร์..หือ?