สันต์ สะตอแมน
ที่คุณบุญเลิศ คชายุทธเดช อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 2540 มอง..“สภาวการณ์เช่นนี้ หัวใจของส.ว.และส.ส.อาจจะช็อกก็เป็นได้” นั้น
บางที อาจจะเป็นฝ่ายกองเชียร์ หรือไม่ก็ส.ส.ฝ่ายว่าที่รัฐบาลเสียเองที่ “หัวใจอาจจะช็อกก็เป็นได้” เพราะสังเกตุอากัปกริยาจากส.ว.และส.ส.
จะพรรคภูมิใจไทยก็ดี พรรคประชาธิปัตย์ก็ดี พรรคชาติไทยพัฒนาก็ดี ดูจะยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่เครียด ไม่วิตกกังวลให้ปรากฏเห็น จนเกิดสภาวะใด ๆ ของร่างกาย
ที่ทำให้การไหลเวียนของเลือดลดน้อยลงจนเกิดความดันโลหิตต่ำ และส่งผลให้การสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ในร่างกายไม่เพียงพอแต่อย่างใด!
ซึ่งต่างกับฝ่ายที่กำลังรวบรวมเสียงส.ส.เพื่อจัดตั้งรัฐบาล แม้จะได้จับมือกัน แต่ดูสีหน้าแววตาแต่ละคนแล้วเห็นชัด มีความทุกข์ใจ กังวล ว้าวุ่นอยู่มาก..
จะมากพอๆ กับคุณบุญเลิศ-กองเชียร์หรือไม่ไม่แน่ใจ แต่ก็อยากให้ถนอม “ความดัน” ตัวเองเอาไว้ อย่าปล่อยให้ใจทุกข์-เครียด (กับเรื่องคนอื่น) มากเกินไป ประเดี๋ยวจะช็อกตาย!
อ้อ..อีกอย่างคุณบุญเลิศก็ได้ชื่อเป็นคนมีภูมิมีความรู้ ก็อยากให้ใช้ความรู้ไปตามหลักวิชาการ บนฐานข้อเท็จจริง ไม่ใช่ทำตัวเป็นผู้สู่รู้-หมอเดา..
“การไม่สนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ ทำให้เสียงโหวตไม่ถึง 376 เสียงกำลังถูกกระแสสังคมออกมาวิพากษ์วิจารณ์จะรุนแรงขึ้นตามลำดับ
การเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองคือ องค์กรนักศึกษา องค์กรประชาธิปไตย องค์กรประชาสังคมออกแถลงการณ์ จัดเสวนาสอบถามความเห็นประชาชน กดดัน ส.ว.ให้เคารพฉันทามติ
นอกจากนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักเคลื่อนไหวคนสำคัญที่คัดค้านกัญชาเสรีก็แสดงท่าทีสนับสนุนนายพิธาให้เป็นนายกฯอย่างเต็มที่
จึงคาดการณ์ได้ว่า การรณรงค์ของฝ่ายประชาธิปไตยจะขยายวง กระจายไปทั่วทั้งประเทศเพื่อเรียกร้องกดดัน ส.ว.และ ส.ส.พรรคขั้วรัฐบาลประยุทธ์ให้หันมาสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ”
คุณบุญเลิศกำลังเห็นดี-เห็นงามกับวิธีการแบบนี้ใช่ไหม ที่เอะอะก็ปลุกระดมคนออกมากดดันอีกฝ่ายให้สนับสนุนในสิ่งที่ฝ่ายตัวเองอยากได้ใคร่มี ทั้งๆ ที่ก็มีช่องทาง (ธรรมชาติ) ของมันอยู่
ก็..เอาดิ ให้ดียุคุณชูวิทย์นั่นแหละให้เป็นผู้ถือธงนำทัพเดินบนถนนรณรงค์เรียกร้องกดดันให้ทุกคน-ทุกฝ่ายสนับสนุนคุณพิธาเป็นนายกฯ..
พร้อมๆ กับเรียกร้องให้กัญชากลับมาเป็นยาเสพติดเสียทีเดียว!
แต่ก็ให้ระวังเสียงเตือนของคุณจตุพร พรหมพันธุ์ไว้ด้วย…“มีโอกาสสูงที่จะเกิดการลงถนนหลังจากนี้ ขอให้ทุกฝ่ายระมัดระวังการเคลื่อนไหวให้มาก
และอย่าปล่อยให้เกิดช่องว่างหรือสร้างเงื่อนไขที่นำไปสู่การรัฐประหารได้ อะไรควรทำไม่ควรทำก็ขอให้ระลึกเอาไว้ทุกฝ่าย”
หรือถ้าจะไม่เสี่ยง ก็เอาอย่างคุณวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถาม..ถึงอย่างไรต้องอาศัยเสียง ส.ว.อีก 60 กว่าเสียงว่า..
“อาศัยในช่วงของการโหวตนายกฯ และอาจจะต้องอาศัยอีกในตอนแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้น ตนถึงได้พูดไปก่อนหน้านี้ว่าเชื่อเถอะว่า..
ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดังใจจง ตนยังยืนยันแบบนี้อยู่ ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันไป
ยังมีเวลาอีกตั้ง 60 วัน กว่าจะประกาศรายชื่อ ส.ส. และกว่าจะถึงเวลาเลือกนายกฯ บวกเข้าไปอีกร่วม 30 วัน รวมแล้ว 3 เดือน ต้องใช้เวลาเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจ..
อย่าลงมือด่าทอตบตีกันตั้งแต่วันแรก”
ตามนี้ ไม่มีใครช็อกแน่!