คลิกฟังบทความ…?
เปลว สีเงิน
ผิดจากที่ผมบอกมั้ยล่ะ?
ว่าเลือกตั้งครั้งนี้……
“ขบวนการนอกชาติ” มันแทรกซึมเข้ามาเดิน “แผนใต้ดิน” ร่วมกับ “องค์กรทางสังคม” และด้านสื่อแห่งหนึ่งในไทย
ทำทุกวิถีทาง
เพื่อไม่ให้ “พลเอกประยุทธ์” กลับเข้าไปมีอำนาจบริหารประเทศอีก
พร้อมกันนั้น เดินเกมให้พรรค “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” ชนะเลือกตั้ง เข้าไปเป็น “รัฐบาลร่างทรง” ให้เขา
เพื่อพวกเขา……
คือ “จักรวรรดิอำนาจตะวันตก” จะได้เข้ามาควบคุมกลไกประเทศ ผ่าน “รัฐบาลร่างทรง”!
ตราบใดที่ “ตะวันตก” ใช้ไทยเป็นฐานทางการทหารไม่ได้
ตราบนั้น สหรัฐฯ “หัวโจกตะวันตก”
จะไม่มีทางฝ่าด่านจีนเข้ามามีอิทธิพลเหนือ “อินโด-แปซิฟิก” ได้!
ในภูมิภาคนี้ “ไทย” เป็น “พื้นที่เดิมพัน” ในเกมชิงอำนาจโลกสู่ศตวรรษที่ ๒๑ ระหว่างขั้วตะวันตก “ยุโรป-สหรัฐฯ”
กับขั้วตะวันออก คือจีนผนวกรัสเซีย แต่ตอนนี้ แนวร่วมตะวันออกขยายไปถึง “ซาอุฯ-อิหร่าน-อินเดีย-บราซิล แอฟริกาใต้ และฯลฯ”
สวนทางกับขั้วอำนาจตะวันตก ซึ่งนับวันแนวร่วมจะถอยห่าง ท่ามกลางความเลวร้ายทางเศรษฐกิจ, สังคม และการเงิน
ในขณะที่โลกซีกตะวันออก กำลังเรืองรุ่ง ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเงินและเศรษฐทรัพย์ ก็แข็งแกร่ง
ไทยเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ ที่เป็นประเทศควบ ๒ มหาสมุทร
คือ อ่าวไทย อยู่ทางด้านมหาสมุทรดินเดีย ด้านอันดามัน สู่ทะเลจีนใต้-แปซิฟิก
มี “ช่องแคบมะละกา” ให้ลอดถึงกันระหว่าง ๒ มหาสมุทร
ด้วยภูมิศาสตร์สร้างสรรค์
จึงเป็นตัวกำหนดให้ไทยเป็นชัยภูมิทางยุทธศาสตร์ในเกม “อำนาจครองโลก” ของชาติมหาอำนาจ
พูดเพียงให้เห็นภาพ เพื่อจะบอกว่า……..
ขณะนี้ มีขบวนการแทรกตัวเข้ามาเป็น “ลิ่ม” ถ่างในรอยแยกการเมืองว่าด้วยการเลือกตั้งระหว่างพรรคที่สถาปนาตัวเป็นฝ่ายประชาธิไตยกินชาติ กับพรรคที่ถูกผลักให้เป็นฝ่ายเผด็จการสร้างชาติแล้ว
พวกเราชาวไทย “ตื่นกันหรือยัง”?
ถ้ายัง ก็หลับต่อเหอะ ถ้าตื่นแล้ว ก็ล้างหน้า-ล้างตา ไปซื้อ Amazon Black หรือ Amazon Latte ที่ออกใหม่เป็นขวดๆ ดื่มซะ หูตาจะได้สว่าง
เมื่ออังคารที่ผ่านมา…….
มีหญิงฝรั่งรูปร่างเพรียวลมคนหนึ่งชื่อ “ดร.แอกเนส คาลามาร์ด” เลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล องค์กรเอกชนตั้งกันเอง มาปรากฎตัวที่ไทย
เธอให้สัมภาษณ์ชนิดไม่เกรงใจเจ้าบ้าน
ทำยังกะว่าไทยเป็นขี้ข้าตะวันตก อยากชี้หน้าด่ากราด ก็สำแดงเดช
เธอรู้จักคนไทยน้อยไปซะแล้ว แอมเนสตี้บริวารในไทย เตือนเจ๊แกหน่อยนะว่า ทีหลังอย่าปากพล่อยแบบนี้กับไทยอีก
เห็นนางคนนี้แล้ว นึกถึง “คริสตี้ เคนนีย์” อดีตทูตสหรัฐประจำไทย สมัยแดงทักษิณจะเปลี่ยนประเทศเป็น “แดงทั้งแผ่นดิน ทักษิณสถาปนา”
มาพิมพ์เดียวกัน ยังกะถ่ายทอด DNA !
ขึ้นต้น “ดร.แอกเนส คาลามาร์ด” ก็เอาเลย….
“การมาเยือนประเทศไทยของดิฉัน เกิดขึ้นช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤษภา.ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับรัฐบาลชุดใหม่ที่จะพัฒนาสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย
ดิฉันประทับใจที่มีผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองหลัก ๆ หลายพรรค ได้เข้าร่วมเวที “วาระสิทธิมนุษยชนกับการเลือกตั้ง”
โดยร่วมดีเบตในหัวข้อ “วาทะผู้นำ-วาระสิทธิมุษยชน” ซึ่งจัดขึ้นโดยแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และองค์กรภาคประชาสังคม เมื่อ ๒๐ เมษา.ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นก้าวย่างที่สำคัญ….”
อ้อ…เจ๊มาเพื่อการนี้ละซีนะ?
เรื่องเลือกตั้ง เป็นเรื่องสิทธิและหน้าที่ของคนไทยโดยเฉพาะ
ดังนั้น มันไม่ใช่กงการอะไรของเจ๊ ขอโทษ..ที่ต้องใช้คำว่าเจ๊ไม่ควร “เสือก” เข้ามาสอดแส่แบบนี้
นอกจากหยาบมรรยาทแล้ว ยังสุ่มเสี่ยง อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ถ้อยแถลงต่อมา นางยังถือสิทธิ์ที่เธอไม่มีในประเทศไทย สามหาวอีกว่า……
“สิ่งสำคัญในการเดินทางมาครั้งนี้ คือการได้พบกับเด็กและเยาวชนที่มีส่วนร่วมในการชุมนุมประท้วง
พวกเขาเชื่อมั่นในประเทศไทยและต้องการสร้างประเทศที่แข็งแรงและเป็นธรรม
แต่เมื่อถามความเห็นเกี่ยวกับอนาคตของตนเองในประเทศนี้ พวกเขากลับตอบ “มองไม่เห็นอนาคตของตนเอง”
ทำให้เรากังวลอย่างมากและคิดว่า ควรเป็นข้อกังวลที่สำคัญของผู้นำในประเทศไทยเช่นกัน
เด็กและเยาวชนจำนวนมากรู้สึกเช่นนี้ เพราะพวกเขาถูกปราบปราม ทั้งยังมีความไม่เท่าเทียม การทุจริต และความอยุติธรรม พวกเขาจึงมองไม่เห็นอนาคตของตนเองที่นี่
ดังนั้น สถานการณ์เช่นนี้ จะต้องถูกเปลี่ยนแปลง
เด็กและเยาวชนหลายร้อยคน รวมทั้งนักกิจกรรมทางการเมือง และนักปกป้องสิทธิมนุษยชน
ถูกดำเนินคดีอาญาในประเทศไทย เพียงเพราะการใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมประท้วงโดยสงบ เสรีภาพของหลายคนถูกพรากไป
และอาจมีประวัติอาชญากรติดตัว รวมถึงเด็กวัย ๑๕ ปี ซึ่งถูกควบคุมตัวในสถานพินิจเด็กและเยาวชนเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว…..”
ครับ…ยังอีกเยอะที่เธอสามหาว แต่เอาเแค่เห็นหัว ไม่ต้องเห็นหาง เท่านี้ก็พอ
คือพอเข้าใจเจตนาเข้ามาแทรกแทรงของต่างชาติขบวนการหากินกับสิทธิมนุษยชนนางนี้
ฟังประเด็นที่เธอพูด ผมอยากให้พิธา-ธนาธร เชิญให้นางคนนี้แปลงสัญชาติแล้วสมัครเป็น “นายกฯ ในบัญชีเลือกตั้ง” ของพรรคก้าวไกลจังเลย
ประเด็นในวาทกรรมเธอ มันเป็น “แพทเทิร์นวาทกรรมประดิษฐ์” ที่พวกสามนิ้วชังชาติท่องไปพูดอย่างที่ได้ยินกัน
ใครที่เป็นแฟนติ๊กต๊อก……..
คงได้ฟังที่ช่อ-พรรณิการ์ ฉอดๆ โต้ตอบชาวบ้าน มันเป็นวาทกรรมชุดเดียวกันเปี๊ยบ ไม่เชื่อไปเปิดติ๊กต๊อกดูอีกทีก็ได้
นางดร.แอมเนสตี้คนนี้ เป็นชาวฝรั่งเศส
ไสหัวกลับไปเรียกร้องสิทธิมนุษชนให้บ้านตัวเองก่อน..ไป๊ ที่นั่น ชุมนุมกันโดยสงบเรอะ…
ที่เผาเมือง เผาร้านค้า เผากระทั่งโบสถ์ นั่นสงบเรอะ?
ฝรั่งเศส ที่พวกเศษฝรั่งไอ้งั่งหลายตัวในเมืองไทยตะโกนสรรเสริญ “เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ” นั่นน่ะ
ตอนนี้ กำลัง “พังพาบ”
ให้นางแอมเนสตี้กลับไปร่วมกับรากเหง้าของเธอเรียกร้องให้มาครงยกเลิกการใช้อำนาจโดยไม่ผ่านสภาประกาศใช้กฎหมายปฏิรูปบำนาญ ขยายอายุวัยเกษียณจาก ๖๒ ปี เป็น ๖๔ ปี ให้สำเร็จก่อน…ไป๊
แล้วค่อยมาเร่ขายสิทธิมนุษยชนกับคนไทย
เพราะประเทศไทย แม้รัฐบาลเผด็จการขนาดไหน ก็ไม่ปรากฏว่า จะออกกฎหมายเองได้ โดยไม่ผ่านสภา
อย่างเก่งแค่ “ลักหลับ”
แต่แค่ลักหลับ หัวหน้าลักหลับต้องลอด “ช่องหมาลอด” หนีเตลิดไปตื่นที่ประเทศอื่น ป่านนี้ยังเป็นนางชะนี โหยๆ อยู่เซอร์เบียโน่น!
และเมื่อวานซืน (๒๖ เมย.)
ผมเห็นข่าว คณะเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศอียู ๑๕ ประเทศ ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, สาธารณรัฐเชค, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ไอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, โปแลนด์, สเปน และสวีเดน
ไปพบรองนายกฯ และรัฐมนตรีสาธารณสุข “นายอนุทิน ชาญวีระกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
นัยว่า “เพื่อสอบถามถึงสถานการณ์ประเทศไทย และสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง ตลอดจนแนวทาง และเจตนารมณ์ของพรรคภูมิใจไทย ที่มีต่อประเทศกลุ่มอียู”
กลุ่มอียูนี่ สงสัยอยู่เมืองไทยนาน จึงชำนาญการแทงหวย รู้จักตัวเต็ง ตัวกัน แทงไว้ครบทุกประตู
พวกนี้ นับว่าตาแหลม ที่เลือกแทงคุณอนุทิน
เพราะผมนั่งทางในแล้ว หวยงวด ๑๔ พฤษภา.
ใครแทงเบอร์ ๒๙ เบอร์ ๓๑ ถูกแดกหมด
ใครแทงเบอร์ ๗ เบอร์ ๒๒ เบอร์ ๓๗ มีหวังถูกรางวัลใหญ่
ประเด็น ๑๕ ทูตกลุ่มประเทศอียูนี้…..
ผมอยากให้พวกเราย้อนดูสถิติเก่าๆ ซักเล็กน้อย แล้วจะเข้าใจการแทรกซ้อนในกลเกมการเมืองระหว่างประเทศได้ดี
ย้อนไปดูตอนปี ๖๒ ปี ๖๓ และปี ๖๔
ที่ ธนาธร, นักวิชาการ, จานมหา’ลัย เป่าขม่อมเด็กให้เป็น “คนรุ่นใหม่” ออกมาชู ๓ นิ้ว ชังชาติ-ล้มสถาบัน
ธนาธรไปรับทราบข้อหาที่โรงพักปทุมวัน
คณะทูต ก็ยกกันไปเป็นวอลเปเปอร์ให้ธนาธร อ้างไปสังเกตการณ์
เพนกวิน-รุ้ง ไปขึ้นศาล คณะทูต ก็ยกขบวนไปนั่งในห้องพิจารณา อ้างมาสังเกตการณ์
หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า “การชุมนุมและเสนอปฏิรูปสถาบัน เป็นการล้มล้างการปกครอง” เมื่อ พย.๖๔
คณะทูตและตัวแทนองค์การระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน ก็ยกกันไปที่ “ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน”
ยถา สัพพี ศาลรัฐธรรมนูญ กันมันปาก อันไม่เคยปรากฏว่าทูตอารยะประเทศไหน เคยกระทำเยี่ยงกลุ่มนี้
ผมถึงบอกไงล่ะ…….
เลือกตั้งที่ไทยครั้งนี้ มันสะเทือนไปถึงสหรัฐ-ยุโรปโน่น!
ฉะนั้น แทงกันให้ดี
แทงแดง-แทงส้ม “ประเทศเป็นทาส”
แทงเหลือง-แทงน้ำเงิน “ชาติเจริญและรุ่งเรือง”!
เปลว สีเงิน
๒๘ เมษายน ๒๕๖๖
ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ https://www.amnesty.or.th/latest/news/1115/