เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2566 นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารและหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ตลาดวงศกรและตลาดวัดเกาะ เขตสายไหม กรุงเทพ ร่วมกับ น.อ.บัญชาพล อรัณยะนาค ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 11 หมายเลข 7 เพื่อพบปะประชาชน
นายสกลธีกล่าวว่า เขตสายไหมเป็นเขตที่มีพื้นที่ใหญ่มาก มีประชาการอาศัยอยู่มากที่สุดอันดับต้นๆ ของกรุงเทพ เพราะเป็นพื้นที่ที่รองรับการขยายตัวของเมืองมาจากโซนชั้นใน มีหมู่บ้านใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอด ทำให้มีปัญหารถติดหนักมาก โดยเฉพาะในเวลาเร่งด่วน
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะดีขึ้นบ้างเพราะบนถนนพหลโยธินมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายให้บริการแล้ว แต่คนก็ยังใช้รถส่วนตัวกันเยอะเพราะไม่มีรถสาธารณะที่เยอะพอจะรับคนจากหมู่บ้านต่างๆ จากสุขาภิบาล 5 เข้าระบบขนส่งสาธารณะหลักได้ จึงจำเป็นต้องมีขนส่งสาธารณะระบบรอง (Feeder) ส่งคนขึ้นรถไฟฟ้า รวมถึงตัดถนนใหม่เพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนรถยนต์ที่เข้ามาวิ่งในพื้นที่
“และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากทำตั้งแต่สมัยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. คือการปรับระบบไฟสัญญาณจราจรให้ใช้ AI มาช่วยคุมระบบไฟจราจร ให้การปล่อยรถแต่ละแยกสัมพันธ์กับปริมาณรถบนเส้นทาง ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็รับเป็นนโยบายที่พร้อมจะทำทันทีที่เป็นรัฐบาล”
ด้าน น.อ.บัญชาพล อรัณยะนาค ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 11 หมายเลข 7 กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ ตนพบว่าด้านหลังซอยสายไหมฝั่งเลขคี่มีคลองหกวาขวางอยู่ แม้ตอนนี้จะมีสะพานข้ามคลองอยู่ที่ซอย 39 ไปยังถนนคูคต แต่ยังไม่เพียงพอ หากตนได้รับโอกาสให้เป็น ส.ส. ตนจะผลักดันให้สร้างสะพานข้ามคลองเพิ่มอีก 4 แห่ง ให้เป็นทางระบายรถออกจากถนนสายไหมได้อีก 1 ทาง และจะออกไปใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าคูคตด้วย พร้อมกันนี้จะต้องมีการปรับถนนเลียบคลองหกวาตั้งแต่คลองสองถึงคลองออเงิน ให้สูงขึ้นและมีความกว้างมากขึ้นไปด้วย