“ภูวดล วงษ์โสภณากุล” ผู้สมัครส.ส.สงขลา เขต 6 ประกาศสู้กับกลุ่มทุนและอิทธิพลทางการเมืองในพื้นที่ ลั่นขออาศัยความตั้งใจและการเดินแบบเคาะประตูบ้านเพื่อแนะนำตัว มั่นใจไม่ใช่แค่ปักธงแต่จะปักฐานให้รวมไทยสร้างชาติ ลั่นกระแส “ลุงตู่”ในภาคใต้พุ่ง
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 นายภูวดล วงษ์โสภณากุล ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 6 สะเดา,คลองหอยโข่ง เบอร์ 6 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระแสพรรครวมไทยสร้างชาติ และกระแสลุงตู่ ดีมากดีทุกเขตในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา
แต่หน้าที่ของผู้สมัครส.ส.ก็ต้องเร่งทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งว่า ประชาชนต้องเลือกทั้ง 2 ใบ คือเบอร์ผู้สมัครส.ส.และเบอร์ 22 เบอร์ของพรรค เพราะมีผลผูกพันธ์กับลุงตู่ การเลือกทั้ง 2 ใบเพื่อให้ได้จำนวนส.ส.มากพอจะได้เป็นพรรคแกนนำเสนอชื่อลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีในสภา ตรงนี้ก็ได้พยายามอธิบายส่วนใหญ่ชาวบ้านก็เข้าใจ
นายภูวดล กล่าวด้วยว่า การลงพื้นที่หาเสียงไม่ได้หนักใจ แต่มีกำลังใจในการเดินลงพื้นที่ เพราะประชาชนสนับสนุนทุกวัน ด้วยความที่ตนไม่มีทุนไม่มีอำนาจทางอิทธิพลในพื้นที่เพราะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ แต่ใช้ความตั้งใจเดินเคาะประตูบ้านบอกถึงความตั้งใจในการมาลงสมัครส.ส.
โดยจะขออาสาเป็นตัวแทนของคนทุกกลุ่ม การที่ต้องต่อสู้กับคู่แข่งที่มีพร้อมทั้งเงิน และอำนาจในพื้นที่ มีหัวคะแนนจัดตั้งที่มาก แต่ตนก็มีความตั้งใจที่มากไม่แพ้กัน อาศัยการเดินทำความเข้าใจกับประชาชน ก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี
“ผมมั่นใจว่าสงขลาเขต 6 จะสามารถปักธงของพรรครวมไทยสร้างชาติได้แน่นอน ซึ่งไม่ใช่แค่ปักธงแต่จะเป็นรากฐานที่สำคัญให้กับพรรค จึงอยากให้ทางลุงตู่ และผู้ใหญ่ของพรรคมาลงพื้นที่เพราะชาวบ้านอยากเจอมาก
ทุกวันนี้พรรคคู่แข่งเขาทิ้งพรรคหาคะแนนให้เลือกแต่ผู้สมัคร แต่ของพรรครวมไทยสร้างชาติเราจะไม่แบ่ง เพราะถ้าจำนวนส.ส.ไม่เพียงพอก็ไม่มีใครเสนอชื่อลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้นเลือกผู้สมัครส.ส.เขตแล้วจะต้องเลือกเบอร์พรรคด้วย” นายภูวดลกล่าว
นายภูวดล กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ตนพยายามอธิบายนโยบายของพรรคให้ชาวบ้านเข้าใจ ซึ่งพรรคจะมีแคมเปญเพื่อตอกย้ำนโยบายเหล่านี้ทั้งบัตรสวัสดิการพลัส ที่ขยายวงเงินเป็น 1,000 บาทต่อเดือนและยังได้สิทธิ์กู้ฉุกเฉินเป็น 10,000 บาท บัตรผู้สูงอายุ 1,000 บาท รวมถึงการแก้ไขปัญหาเอกสารสิทธิที่ดินทำกิน
การแก้ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ พรรคต้องมาอธิบายถึงกลไกในการแก้ปัญหายางพาราอย่างตรงไปตรงมา และต้องเลือกตนเพื่อไปอภิปรายในสภาเพื่อต่อสู้กับกลุ่มทุนที่ควบคุมราคา ต้องไปต่อกรกับคนพวกนี้ นอกจากนั้นรัฐบาลต้องส่งเสริมในการใช้ยางพาราแปรรูปมากกว่าไปหวังการส่งออกตรงนี้ต้องอธิบายให้ชัดเจน
“ทุกวันนี้ผมใช้เรื่องบัตรสวัสดิการพลัส 1,000 บาทต่อเดือนอธิบายให้ ประชาชนทราบ 1 ปีได้ 12,000 บาท ซึ่งมากกว่าการเงินซื้อเสียงของบานพรรค เพราะในพื้นที่มีการซื้อเสียงถึง 3,000 บาทต่อหัวแล้ว ซึ่งพี่น้องชาวสงขลาจะต้องช่วยกันต่อต้านการซื้อเสียง ของพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้ซื้อเสียง แต่เป็นสวัสดิการที่ประชาชนจะได้รับ”นายภูวิดล กล่าว
