17 เมษายน 2566 – “ซงฟา” ฉลองครบรอบ 5 ปีในประเทศไทย เปิดตำรับความอร่อยกับบักกุ๊ดเต๋แบบฉบับสิงคโปร์แท้ๆ ซี่โครงหมูเกรดพรีเมียมในน้ำซุปสูตรต้นตำรับหอมกรุ่นอบอวลไปด้วยกลิ่นพริกไทยซาราวักพันธุ์คัดพิเศษส่งตรงจากสวน รวมถึงกระเทียมคุณภาพชั้นเยี่ยม นำมาเคี่ยวนานหลายชั่วโมงจนได้ซุปรสชาติโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวต้นตำรับซงฟาเท่านั้น
พร้อมการันตีด้วยรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองต์ 6 ปีซ้อน โดยในปีนี้ซงฟายังได้ เปิดตัว 11 เมนูซีรีส์ใหม่สำหรับลูกค้าคนไทย เมนูสุดพรีเมียมเสิร์ฟร้อนในหม้อดิน อย่างสันในหมูผัดพริกไทยดำหม้อดิน, ไก่ผัดพริกไทยดำหม้อดิน, ข้าวต้มสันในหมู, ไก่ทอดกรอบคั่วพริกกระเทียมสูตรเด็ด
ส่วนเมนูของหวานนำโดย บูบูชาชาเสิร์ฟแบบเย็น และลอดช่องกัวลามะละกาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เหมาะสำหรับคลายร้อนในช่วงซัมเมอร์นี้ ยังไม่หมดสำหรับเมนูคลายร้อน กับน้ำบาร์เลย์สูตรโฮมเมดที่เตรียมสดใหม่ทุกวัน อีกทั้งยังจัดเต็มชุดอาหารราคาพิเศษ ฉลอง 5 ปี ในราคาสุดพิเศษ 555 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 เมษายน 2566 นี้เท่านั้น
นางสาวอรัญญาณี แดนมัดตาม ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท บีที ซงฟา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ซงฟา (SONG FA) ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ซงฟา (SONG FA) เป็นร้านบักกุ๊ดเต๋ชื่อดังต้นตำรับสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก การันตีด้วยรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองต์ 6 ปีซ้อน ทำให้นักชิมจากหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยต้องแวะเข้าไปลิ้มลองเมื่อได้ไปเยือนสิงคโปร์
แต่ปัจจุบันซงฟาได้เข้ามาตีตลาดคนรักบักกุ๊ดเต๋ในไทยเข้าสู่ปีที่ 5 เมนูซิกเนเจอร์เมนูที่ทุกท่านต้องลองอย่าง “บักกุ๊ดเต๋” น้ำซุปทุกชามจะมีกลิ่นหอมและมีรสชาติโดดเด่น ลงตัว ตามเอกลักษณ์ของซงฟา เพราะน้ำซุปผ่านการเคี่ยวนานหลายชั่วโมง ปรุงรสด้วยเครื่องเทศที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน และกระเทียมคุณภาพชั้นเยี่ยม พร้อมด้วยพริกไทยซาราวัก ที่เป็นวัตถุดิบเกรดพรีเมียมที่ผ่านกระบวนการเก็บเกี่ยวเมื่อแก่เต็มที่
จากชาวสวนเก็บและคัดสรรด้วยมือในฟาร์มขนาดเล็ก เต็มเปี่ยมไปด้วยความเอาใจใส่ เพื่อให้บักกุ๊ดเต๋ทุกชามอัดแน่นไปด้วยคุณภาพ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีที่ซงฟาเท่านั้น ซึ่งการจิบน้ำซุปร้อนๆ จะทำให้ร่างกายสดชื่น และทางซงฟาก็ได้มีการเติมน้ำซุปให้ตลอดการรับประทานที่ร้านสำหรับลูกค้าที่สั่งเมนูบักกุ๊ดเต๋อีกด้วย
นางสาวอรัญญาณี กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 5 ปีในประเทศไทย ซงฟาได้ออกเมนูใหม่มาถึง 11 เมนู เพื่อให้เป็นทางเลือกที่ถูกปากลูกค้าชาวไทย และสร้างความตื่นเต้นเร้าใจเมื่อมารับประทานอาหารที่ซงฟาได้มากขึ้น
อาทิ สันในหมูผัดพริกไทยดำหม้อดิน, ไก่ผัดพริกไทยดำหม้อดิน, ไก่ผัดซอสน้ำมันงาหม้อดิน, เห็ด 2 ชนิดผัดซอสเผ็ดหม้อดิน และหมูสามชั้นหม้อดินที่ได้ความหอมจากวัตถุดิบเกรดพรีเมียมและรสชาติเครื่องเทศสูตรเฉพาะ เมนูไก่ทอดกรอบคั่วพริกกระเทียม ไก่ทอดเนื้อสัมผัสกรุบกรอบที่มาพร้อมพริกกระเทียมคั่ว เคล้าด้วยพริกหอมทำให้รสชาติ และกลิ่นออกมาพอเหมาะลงตัว
เมนูของหวานยอดนิยมสไตล์โอเรียนทอลอย่างบูบูชาชาเสิร์ฟแบบเย็น ประกอบไปด้วยมันเทศและเผือกคัดเฉพาะเสิร์ฟด้วยน้ำกะทิสดรสชาติหอมหวานเย็นฉ่ำช่วยคลายร้อน และลอดช่องกัวลามะละกาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ลอดช่องเกรดพรีเมียม ในน้ำกะทิที่ให้ความหวานจากน้ำตาลกัวลามะละกาหอมหวานมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
ส่วนเครื่องดื่มที่เป็นรายการยอดนิยมของชาวเอเชีย ซงฟาก็ได้จัดมาให้บริการแล้วด้วยน้ำบาร์เล่ย์สูตรโฮมเมดที่ทำสดใหม่ทุกวัน ให้ความหอมจากข้าวบาร์เล่ย์ เรียกความสดชื่นในหน้าร้อนได้เป็นอย่างดี โดยทุกเมนูซงฟาตั้งใจรังสรรค์เพื่อชาวไทยโดยเฉพาะ และคาดว่าความอร่อยของ “ซงฟา” จะถูกใจคนไทยได้อย่างรวดเร็ว และน่าจะมีการกลับมารับประทานซ้ำได้ในทุกสัปดาห์ไม่ว่าจะเป็นในวันทำงาน วันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันพิเศษสำหรับครอบครัว
นอกจากเมนูใหม่ที่น่าสนใจหลากหลายรายการ ซงฟาในประเทศไทย ยังตอกย้ำเมนูจานเด็ดระดับมิชลินส่งตรงจากสิงคโปร์อีกหลากหลายให้ได้ลิ้มลองได้ในทุกวัน พลาดไม่ได้กับเมนูซิกเนเจอร์อย่างบักกุ๊ดเต๋ ที่สามารถรับประทานคู่กับปาท่องโก๋แบบฉบับต้นตำรับ หรือเมนูตุ๋นที่มีรสชาติดี ที่เชฟใส่ใจในขั้นตอนการปรุงอย่างละเมียดละไม รวมไปถึงเมนูหมูสามชั้นตุ๋น, ขาหมูตุ๋น หรือเต้าหู้ทอดตุ๋นสูตรเฉพาะที่พลาดไม่ได้ ทั้งนี้ทุกเมนูของซงฟา ปรุงด้วยความพิถีพิถันเพื่อให้ทุกจานมีรสชาติเหมือนบินไปทานถึงประเทศสิงคโปร์
พิเศษ!! เอาใจคนรักบักกุ๊ดเต๋สไตล์สิงคโปร์ โค้งสุดท้ายของโปรโมชันพิเศษกับ 3 เมนูซิกเนเจอร์ที่ทุกโต๊ะต้องสั่ง ในราคาเพียง 555 บาท ประกอบด้วย ซุปสันในหมู, ขาหมูตุ๋น และตุ๋น 3 อย่าง พร้อมข้าวสวยร้อนๆ 2 ถ้วย นอกจากนี้ ซงฟายังเอาใจสายดิลิเวอรี ส่งโปรโมชันเด็ดราคาพิเศษ เสิร์ฟ ซุปสันในหมู, ขาหมูตุ๋น พร้อมกับผักดองและถั่วตุ๋น พร้อมข้าวสวย 2 ถ้วย ในราคาเพียง 555 บาท บนทุกดิลิเวอรี แพลตฟอร์ม
โดยสามารถสั่งซื้อเซตเมนูพิเศษฉลองครบรอบ 5 ปี ได้ที่ซงฟาทั้ง 4 สาขา เซ็นทรัลเวิลด์, เมกาบางนา, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และสยามพารากอน ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม -30 เมษายน 2566 นี้เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงติดตามรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊กhttps://www.facebook.com/songfabktthailand/