ซื้อเสียงล่วงหน้า-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ฟังความหลายๆ ด้านแล้ว ส่อเค้าว่า งานเข้าพรรคเพื่อไทย

เพราะตั้งธง “แลนด์สไลด์” เป็นเป้าหมายสูงสุดที่ต้องทำให้ได้ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการ นโยบายแจกเงินหัวละหมื่นบาท จึงน่าจะกลายเป็นก้างปลาที่ตำคอพรรคเพื่อไทย

เอาจริงๆ เลยนะ…

คนในเพื่อไทยส่วนใหญ่เองก็งงๆ อยู่ว่า นโยบาย เงินดิจิทัลเพื่อไทย, กระเป๋าเงินดิจิทัล, ดิจิทัลวอลเลต แล้วแต่จะเรียก มันคืออะไรกันแน่

บางคนเข้าใจว่าเป็น Bitcoin บ้างก็ว่าคือ เหรียญ (คูปอง) บางคนก็บอกว่าเงินบาทนี่แหละ แค่โยกไปอยู่ในมือถือ

ส่วนคนนอก ยังงงกันเป็นไก่ตาแตก สรุปแล้วมันคืออะไรกันแน่

นี่คือนโยบายของพรรคเพื่อไทยมูลค่ากว่า ๕ แสนล้านบาท แต่กลับหาความชัดเจนไม่ได้

ทั้งวิธีการและที่มาของเงิน

สาเหตุเป็นเพราะอะไร?

เพราะพรรคเพื่อไทยคิดนโยบายไปตายดาบหน้า

ตั้งชื่อเรื่องไว้ก่อน ตีฆ้องร้องป่าวให้ประชาชนได้รับรู้ว่า “แจกแน่”

เยอะด้วย!

แต่เนื้อใน หาเสียงไป คิดไป

ภาพมันถึงได้เป็นอย่างที่เห็น

แม้ กกต.จะบอกว่ายังไม่เข้าองค์ประกอบสัญญาว่าจะให้ แต่วันข้างหน้าใครจะไปรู้

นโยบาย เงินดิจิทัลเพื่อไทย คือนโยบายที่หยาบทั้งในตัวนโยบายและวิธีการ

เพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือ จูงใจให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยแบบแลนด์สไลด์ โดยไม่ต้องสนสี่สนแปด

มันไม่มีวิธีไหนที่จะกระตุ้นความอยากให้ไปใช้สิทธิ์มากกว่ามีเงิน ๑ หมื่นบาทรออยู่ข้างหน้าอีกแล้ว

การวางเป้าหมายแจกประชาชนทุกคนที่มีอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป ถือว่ายังเหนียมอยู่บ้างเล็กน้อยที่ไม่ระบุเป็น ๑๘ ปีขึ้นไปตามอายุผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง

แต่มันคือการหว่านเงินครอบคลุมจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด

ไม่มีการแบ่งแยกอะไรทั้งนั้น

นี่คือเจตนา ให้ ๑ หมื่นบาทไปถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด

ซื้อล่วงหน้าตรงถึงมือคน ๕๐ ล้าน!

เข้าข่ายซื้อเสียงล่วงหน้าหรือเปล่า ก็ลองไปพิจารณาเอา

มีข้อกังวลจาก “​ธาริ​ษา​ วัฒน​เกส” อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่พรรคเพื่อไทยควรหยุดคิด ปรับเปลี่ยนนโยบายแล้วค่อยนำมาเสนอใหม่

หากดื้อรั้น ผลพวงที่จะเกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยจะรับไม่ไหว

“…ตัวเลข ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาทนี้เทียบเท่ากับ ๑๗ ถึง ๑๘% ของงบประมาณคาดการณ์ของปี ๒๐๒๓ จึงเป็นสัดส่วนไม่น้อย เมื่อหาเงินหรือลดค่าใช้จ่ายรายการอื่นไม่ได้ ก็ต้องกู้มาโปะส่วนที่ขาดดุลมากขึ้นนี้

อัตราส่วนหนี้ต่อจีดีพีในปี ๒๐๒๓ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ ๖๑.๓๖% ถ้าต้องกู้มากขึ้นอีก ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท สัดส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นอีก ๒.๘% รวมเป็น ๖๔.๑๖% …

….เห็นนโยบายไร้ความรับผิดชอบแบบนี้แล้วเศร้าใจค่ะ นอกจากการสร้างหนี้โดยไม่จำเป็นแล้ว ยังเป็นการสร้างนิสัยให้ประชาชนขาดวินัยทางการเงิน คอยแต่จะแบมือรับ แทนที่จะติดอาวุธให้ประชาชนมีทักษะ มีความสามารถในการยกระดับความเป็นอยู่ของตัวเองให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน มากกว่าเงินช่วยเหลือจากนักการเมือง…”

เรื่องเพดานหนี้เกิน ๖๐% พรรคเพื่อไทยเคยนำมาโจมตีรัฐบาลลุงตู่อยู่บ่อยครั้ง ว่าบริหารไม่เป็น ถนัดแต่กู้ สร้างหนี้ให้ลูกหลาน

๓ ปีที่ผ่านมาโลกไม่ได้อยู่ในสภาวะปกติ ซึ่งทุกคนรับรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว และทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลลุงตู่ใช้นั้นได้ผล

ประเทศไทยถึงได้กลับมายืนในจุดก่อนเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ ได้อย่างรวดเร็ว

แต่พรรคเพื่อไทยกลับถอยหลังไปใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจราวกับว่าวันนี้ โควิด-๑๙ ระบาดหนักกว่าเดิม ประชาชนยังตกงาน บริษัทห้างร้านยังทยอยปิดกิจการ

กลืนน้ำลายตัวเอง เตรียมสร้างหนี้ทะลุเพดาน

พรรคเพื่อไทยกำลังจับเอาอนาคตของประเทศเป็นตัวประกัน ในเดิมพันการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยเอง

ทำไม การแจกเงินดิจิทัล ๑ หมื่นบาท ของพรรคเพื่อไทย ทำไปทำมา จึงถูกเรียกว่าคูปอง

ทำไมเงินคนละครึ่ง ซึ่งรูปแบบเป็นเงินที่ให้ผ่านระบบดิจิทัลเหมือนกัน ถูกเรียกว่า E-Money ไม่ถูกตีความว่าเป็นคูปอง ที่แจกหวังผลทางการเมือง

จุดหนึ่งความต่างที่เห็นครับ ก็คือ รูปแบบที่ประชาชนจะได้เงินมา

ประการแรก โครงการคนละครึ่ง ไม่ได้ให้สิทธิ์คนไทยทุกคนที่มีอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป เหมือนเงินดิจิทัล พรรคเพื่อไทย

มีการจำกัดจำนวนผู้ได้สิทธิ์ ในแต่ละเฟส ว่าได้กี่คน

ประการที่สอง คนที่ได้สิทธิ์ จะต้องเข้าไปลงทะเบียน ยืนยันตัวตนก่อน หรือแสดงความจำนงต้องการได้สิทธิ์

นอกจากนี้ คนที่ได้สิทธิ์คนละครึ่ง ต้องไม่อยู่ในกลุ่มรับความช่วยเหลือจากโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ

เป็นการป้องกันการได้สิทธิประโยชน์ซ้ำซ้อน

ฉะนั้นในมุมคนนอกที่มองเข้าไปในพรรคเพื่อไทย ถึงได้ออกมาในทิศทางเดียวกัน นี่คือการทำผิดกฎมายเลือกตั้ง

“แก้วสรร อติโพธิ” ฟันธงว่า นี่คือ สินบนเลือกตั้ง!

“กกต.น่าจะไต่สวนให้ละเอียด ให้ปรากฏออกมาเลยว่า โครงการนี้มันเป็นสินบนเลือกตั้ง หรือเป็นนโยบายที่งี่เง่าโดยสุจริตเท่านั้น”

ก็เพราะมันมีเหตุให้มองเป็นเช่นนั้น

หากนโยบายแบบนี้หลุดรอดไปได้ ก็อาร์เจนตินา ดีๆ นี่เอง

ฉิบหายครับ

ในมุมของ “ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” ก็น่าสนใจ

มองว่า เงินดิจิทัลเพื่อไทยล่อแหลม จะเป็นการทำผิด กฎหมายเงินตรา เพราะมีรูปแบบการใช้สามารถชำระค่าสินค้า และบริการได้ ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย เปรียบเสมือนเงินตราสกุลหนึ่งที่เกิดขึ้นใหม่ ที่ไม่มีกฎหมายรองรับ

ครับ…ก็หลากหลายแง่มุม

น่าจะเป็นครั้งแรกที่พรรคการเมืองประกาศนโยบายหาเสียงออกมาแล้ว แต่สังคมโดยรวมไม่รู้ว่ามันคืออะไร

จะเป็นจิ้งจกก็ไม่ใช่

กิ้งก่าก็ไม่เชิง

แต่ดูๆ ไปมันคล้ายตัวเงินตัวทองซะงั้น

Written By
More from pp
เบโด้ ลุยต่อเนื่องจัด Road Show ที่สกลนคร ชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจชีวภาพ   สานต่อโครงการ“ชุมชนไม้มีค่า-ป่าครอบครัว ตามหลัก BEDO Concept”
สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือเบโด้ (BEDO) ร่วมกับหน่วยงานภาคี ได้แก่ กรมป่าไม้ (ปม.) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช (อส.) องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.)...
Read More
0 replies on “ซื้อเสียงล่วงหน้า-ผักกาดหอม”