สันต์ สะตอแมน
เปิดถ้วยให้แทงแล้ว
นี่..คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แกนนำพรรคพลังประชารัฐทิ้งท้ายข้อความที่โพสต์เฟซบุ๊กว่าอย่างนี้ ส่วนจะหมายถึงเรื่องอะไรก็อยากให้ลองอ่านดู..
“ภาคใต้ ถึงเวลาที่ต้องเลือกส.ส.ที่มีโอกาสเป็นรัฐบาลแล้วครับ
ผมอยากจะบอกว่า 30 ปีที่ผ่านมา ส.ส.ภาคใต้ เราเป็นฝ่ายค้านเสีย 20 ปี เป็นรัฐบาลเพียง 10 ปี อาจเป็นเช่นนี้กระมังที่ทำให้เราด้อยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพราะเราเป็นฝ่ายค้านมายาวนาน
แต่จะโทษส.ส.ภาคใต้ในอดีตก็ไม่ได้ เพราะ 20-30 ปี ที่ผ่านมา เราต้องต่อสู้กับรัฐบาลที่ฉ้อฉล และกล่าวได้ว่า “เรา” คนภาคใต้นี่แหละ ที่รักษาชาติบ้านเมืองมาตลอด เราอดทนเป็นฝ่ายค้าน
แต่เราต้องแลกกับการด้อยพัฒนาและความยากจน ครั้งหน้า ไม่รู้ผมคิดผิดหรือคิดถูก เราเลือกส.ส.ที่มีโอกาสเป็นรัฐบาลเถอะครับ อย่าเลือกเพราะความสะใจ แต่เลือกเพื่ออนาคตของลูกหลาน
ใครจะชอบ หรือ ไม่ชอบ ก็แล้วแต่ ผมคิดว่า “พรรคพลังประชารัฐ” มีโอกาสเป็นรัฐบาลมากกว่าพรรคอื่นครับ
นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาท/เดือน, ผู้สูงอายุ 60 ปี มีรายได้ 3,000 บาท/เดือน, 70 ปี 4,000 บาท/เดือน, 80 ปี 5,000 บาท/เดือน
ผู้สูงอายุก็อยู่ได้โดยไม่ลำบาก ลูกหลานก็ไม่ต้องกังวลมากนัก ผมว่า ก็เป็นนโยบายที่ดี จะชอบ หรือ ไม่ชอบ ก็ไม่เป็นไร แต่ผมเปิดถ้วยให้ท่านแทงแล้ว”
ครับ..ก็ตามนี้แหละ ซึ่งต้องขอขอบคุณคุณนิพิฏฐ์ที่ได้ (เสี่ยง) “เปิดถ้วย”ให้คนปักษ์ใต้ได้เห็นจะจะตา แต่เจ้าตัวคงลืมหรือไม่ได้เอะใจสิว่า..
ในถ้วย นอกจากมี “พลังประชารัฐ” แล้ว คนใต้เขายังจะเห็นรวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ปะปนรวมอยู่ด้วย!
ซึ่งแต่ละพรรคล้วนต่างมีโอกาสเป็นรัฐบาลพอๆกัน ฉะนั้นที่คุณนิพิฏฐ์บอก “ภาคใต้ ถึงเวลาที่ต้องเลือกส.ส.ที่มีโอกาสเป็นรัฐบาลแล้วครับ”..
จึงเป็นการ “เปิดถ้วย” ที่พลังประชารัฐแทบไม่ได้ประโยชน์โพดผลอะไรมากนัก หรือถ้าพูดแบบชาวบ้าน น่าจะเป็นการ “ชี้โพรงให้กระรอก” เสียมากกว่า!
ส่วนนี่ ไม่ได้ชี้โพรง แต่เป็นการชี้แจง..นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผย..
กรณีศาลอาญาอนุญาตฝากขัง นายอนิวัติ ประทุมกลิ่น อายุ 23 ปี หรือ “นารา เครปกะเทย” ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือ โดยหลอกลวง,
นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนฯ หลังหลอกร่วมลงทุนขายกล่องสุ่ม และถูกส่งตัวคุมขังที่เรือนจำฯ ว่า..
วานนี้ 22 มี.ค. เจ้าหน้าที่เรือนจำรับตัว นารา ก็ทำประวัติผู้ต้องขัง พิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจสุขภาพร่างกายและจิตใจ ตรวจโควิด-19 ตามมาตรฐานเรือนจำ ก่อนเข้าคุมขังแดนกักโรคประมาณ 5 วัน
และส่งต่อแดนกันชนอีก 5 วัน จากนั้น คณะกรรมการของเรือนจำฯ จะพิจารณาว่า นารา ต้องไปอยู่ในแดนไหน เพราะเจ้าตัวเป็นสาวสองต้องปฏิบัติต่อบุคคลข้ามเพศอย่างเท่าเทียม
มีพื้นที่ปลอดภัยในกลุ่มเฉพาะของผู้ต้องขัง ส่วนการนอนในเรือนจำคืนแรกนั้นหลับปกติ ตนก็ได้แนะนำหลักการปฏิบัติตัวอย่างไรในเรือนจำด้วย แต่ นารา ยังกังวลเรื่องการตัดผมอย่างเดียว
ซึ่งขณะนี้ต้องรอผ่านอยู่ในช่วงแดนกักโรค และแดนกันชนไปก่อน ประมาณ 10 วัน จากนั้นจะพิจารณาให้ตัดผมตามระเบียบของเรือนจำ หากไม่ได้ประกันตัว
อย่างไรก็ตาม เรื่องการร้องขอเจ้าตัวต้องการพูดคุยกับเพื่อนกลุ่มเพศเดียวกันเพื่อช่วยคลายกังวลในการใช้ชีวิตในเรือนจำ”
ก็..นำมาบอกเล่า เผื่อคนที่เป็นห่วงเป็นใยจะได้รู้ ส่วนผู้ที่ไม่คิดจะรับรู้เรื่องของนาย (นาง) คนนี้ก็ให้ผ่านตาไป สำหรับผมก็เพียงแต่ถอนหายใจ..
เฮ้อ..ติดคุกจนได้!