๒ จอมชักแห่งยุทธภพ – เปลว สีเงิน

คลิกฟังบทความ…?

เปลว สีเงิน

ท่านนายกฯ นี่ขยันจริงๆ
วานซืน ไปบ้านโป่ง ราชบุรี เมื่อวาน ประชุมครม.แหม็บๆ
วันนี้ (๑๕ มี.๖๖) ไปนราธิวาสอีกแล้ว!
เห็นข่าวว่าไปเปิด “แพขนานยนต์” ที่ด่านศุลกากรอำเภอตากใบ ยังไงละก็ ซื้อ “ปลากุเลาเค็ม” ตากใบติดมือมาฝากซักตัวนะครับ

ก็ติดใจน่ะ ……
จากที่ “คุณนิพนธ์ บุญญามณี” เคยเอามาให้ชิมหลายปีก่อน ผมเลยเหมือนแมวละเมอหากลิ่นเกี้ยมฮื้อ!

ครม.เมื่อวาน คงเป็นนัดสุดท้ายของรัฐบาลนี้ ที่จะครบวาระ ๔ ปี ในวันที่ ๒๔ มีนา.จากนั้น แต่ละคน แต่ละพรรคก็แยกย้ายกันไปเลือกตั้ง

แต่คณะรัฐมนตรี “แม้ครบวาระ” ก็ต้องเป็น “รัฐมนตรีรักษาการ” ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่มาแตะมือ

แต่รัฐบาลคงไม่อยู่จนถึงวันสุดท้าย
น่าจะยุบสภาก่อนซักวัน-สองวัน ดังนั้น ก่อนจะมีพระราชกฤษฎีกา “ยุบสภา” ออกมา
รัฐมนตรีคนไหนจะ “ย้ายพรรค” ก็ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีซะช่วงนี้
ไม่งั้น ยุ่งตายห่ะ!

สมมติเป็นรัฐมนตรีพลังประชารัฐ จะย้ายไปเพื่อไทย แต่ไม่ลาออก เป็นรัฐมนตรีรักษาการไปเรื่อยๆ ก็ไม่ต่างจรเข้ผสมพันธุ์ตะกวด
ออกลูกมา ตั้งชื่อเรียกไม่ถูกกันเลยทีนี้!

ฉะนั้น ภายใน ๒-๓ วันนี้ ก็เอากันให้ถูกฝา-ถูกฝั่งซะ
ที่ถูกจ้องจับตามากที่สุด เห็นจะไม่มีใครเกิน ๒ คนนี้

คือ “นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม กับ “นายสมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม
ปัจจุบัน สังกัดพลังประชารัฐ แต่ชาติกำเนิดมาจากเพื่อไทยทั้งคู่

อื้ออึงรกหูมาตลอดว่า ๒ มิตรนี้ ย้ายแน่

ย้ายไปไหน
ย้ายจากครรภ์มารดา (พลังประชารัฐ) สู่เชิงตะกอน (เพื่อไทย) งั้นหรือ?
เห็นนักข่าวเฝ้าเซ้าซี้ถามจนผมรำคาญแทน ๒ ท่านรมต.

รัฐมนตรีสมศักดิ์นั้น เห็นเขายกย่องกันเหลือเกินว่า “เซียนเหนือเมฆ” ทางการเมือง
จะพูด-จะจาอะไรแต่ละคำ ต้องแหงนหน้า หยั่งฟ้า-หยั่งดิน พลางอมยิ้ม ซ่อนหยัน ก่อนเอื้อนเอ่ยวาจาเนิบนาบเชิงปรัชญา ประมาณว่า
“ตั้งแต่เป็นนักการเมืองมา ผมไม่เคยเป็นฝ่ายค้านเลย”!

โอ…ช่างลุ่มลึกในลีลากระไรปานนั้น ข้าน้อย นับถือ…นับถือ และขอคารวะ ๓ จอก!

ส่วนนายสุริยะ ผู้ที่เคยประกาศกลางจอโทรทัศน์ว่า “ผมจะไม่ขอรับตำแหน่งรัฐมนตรี” ก็ตอบนักข่าวที่เซ้าซี้ถามเช่นกัน ว่า “ผมอยู่พลังประชารัฐ ไม่ย้ายไปไหน”

สรุปตามลีลา ๒ มิตร วันนี้-ชั่วโมงนี้ ยังอยู่พลังประชารัฐ แต่พรุ่งนี้-ชั่วโมงหน้า ไม่รู้…อยู่ที่ไหน ไม่แน่

นี่มัน “เซียนเซ็น” กลับชาติมาเกิดชัดๆ นี่นา!

แต่นักข่าวแกะทิศทางตามรอยตีน ๒ เซียน พบร่องรอยเหยียบหิมะชัดว่า เซียนสุริยะ เซียนสมศักดิ์
ส่วน “วิญญาน” ไปเพื่อไทยแล้ว

ส่วน “กาย” ยังอยู่ในตำแหน่งเสนาบดี เพื่อดูทิศทางให้แน่ใจ ว่าระหว่าง “อยู่กับไป” ข้างไหนจะได้เป็นฝ่ายรัฐบาลชัวร์ๆ?

เมื่อแน่ใจแล้ว ส่วน “กายกับส่วนวิญญาน” ค่อย “ชักเข้า-ชักออก” ตามทิศทาง ไปบรรจบเป็นร่างเซียนอยู่พรรคนั้น!

พูดกันตรงๆ…..
ผมสงสัย ทำไมนักข่าวถึงให้ราคา “สมศักดิ์-สุริยะ” มากถึงขั้นตามถามเช้า-ถามเย็นขนาดนั้นก็ไม่รู้?

หรือ ๒ คนนี้ จะเป็น “โอปปาติกะ” ที่คนใด-คนหนึ่งจะเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ ๓๐ จากการเลือกตั้ง เดือนพฤษภา.ถึงตั้งหน้า-ตั้งตา รุกเร้า-เซ้าซี้ จนน่ารำคาญ

หรือการเมือง ถ้าขาด ๒ คนนี้ จะตั้งรัฐบาลไม่ได้ ประเทศไทยจะไม่เจริญ?

ผมไม่เข้าใจจริงๆ ใครรู้ ช่วยบอกเอาบุญทีเถอะ!
ยังนึกชอบ “บิ๊กป้อม” ด้วยซ้ำ
ที่นักข่าวเซ้าซี้ถาม ๒ ส.จะอยู่-จะไป ท่านตอบว่า
“ใครจะไปก็ไปเลย”!

ยังดีนะ ที่บิ๊กป้อมไม่บอก “จะแถมวัว-แถมควายให้ด้วย”

นอกจากมีเงินซื้อมุ้งกางแล้ว ๒ ส.นี้มีอะไร อยากให้คุณชูวิทย์ช่วยสืบเสาะมาเฉลยให้หน่อย

สส.เขตก็ไม่ (กล้า) ลง อาศัย “อานิสงส์มุ้ง” แลกปาร์ตี้ลิสต์อันดับต้นๆ แถมเก้าอี้รัฐมนตรี

ตอนนี้ มุ้งเปล่า หรือเหลือติดมุ้งกี่หัว หรือแอบไปกางมุ้งรอท่าไว้ที่บ้านอื่นล่วงหน้าแล้ว?
เทียบลีลากับราคาแล้ว น่าเอียน-เวียนหัว!

ผมอยากบอกว่า ท่านจะเหาะไปสถิตวิมานไหน ในความเป็นเทพผู้ไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน ก็เชิญรีบๆ เหาะไปสถิตวิมานนั้น เถิด

ไม่ผิดหรอก ที่คืน “เชื้อชาติ-สัญชาติ” เพื่อไทย เพราะคราวนี้แหละ จะได้เป็น “ฝ่ายค้าน” ประเดิมอยากซะที

จะว่าไป ๒ เซียนนี่ก็สมราคา
เพราะมองขาดว่า อยู่พลังประชารัฐ ถ้าปาร์ตี้ลิสต์หลุดอันดับ ๑-๕ ถือว่า “เสี่ยงสูง” ที่จะต้องกลับไปนอนเกาสะดืออยู่บ้าน

สู้กลับไปเพื่อไทยไม่ได้ อยู่ในอันดับ ๑-๒๐ ถือว่า “เสี่ยงต่ำ” ส่วนเก้าอี้รัฐมนตรี ประเมินตอนนี้ ไม่สู้ประมูลตอนนั้น

แต่ก็นั่นแหละ….
ชลน่าน ประกาศแล้ว แลนด์สไลด์ ๓๑๐ เสียง
การระบุจำนวนเป๊ะๆ แสดงว่า “ทุกเขต-ทุกปาร์ตี้ลิสต์” เขามีตัวพร้อมและมีคนจองเต็มหมดแล้ว
แบบนี้ “สมศักดิ์-สุริยะ” มิเป็นส่วนเกินพรรคเขาไปแล้วหรือ?

หรือแอบดีลกันไว้ล่วงหน้าเป็นปีๆ แล้ว เพื่อไทยเขาจึงกันที่พอให้ ๒ ตูดเบียด?
เนื้อที่ ๒ ตูดเบียด คงตกตารางเมตรละหลายสิบล้าน ราคาพอฟัดกะหมู่บ้านแสนสิริ, เอสซี แอสเสท เลยเชียวนะ

คิดสะระตะ หักกลบลบหนี้แล้ว อยู่พลังประชารัฐ เสี่ยง ๓ ต่อ ต่อแรก จะได้เป็นรัฐบาลมั้ย ต่อที่ ๒ ปาร์ตี้ลิสต์จะได้มากมั้ย
และทั้ง ๒ ต่อ ส่งผลถึงต่อที่ ๓ คือ ตำแหน่งรัฐมนตรีโดยตรง

แต่ถ้าย้ายไปอยู่เพื่อไทย เสี่ยง ๔ ต่อ!?
จะได้เป็นรัฐบาลมั้ย ได้ปาร์ตี้ลิสต์อันดับต้นๆ มั้ย ได้เป็นรัฐมนตรีมั้ย

และต่อที่ ๔ จะได้เป็น “ฝ่ายค้าน” ครั้งแรกของนักเล่นการเมืองมั้ย?

แต่กับเพื่อไทย เหนือกว่าตรงว่า “บางรายการ” มีช่องว่างให้ต่อรองราคาได้ เช่นปาร์ตี้ลิสต์ในอันดับที่ไม่หลุดแน่ เป็นต้น

แต่ถ้าผมเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือพลังประชารัฐ
จะไม่วางสถานะพรรคเป็น “สำนักโคมแดง”
ที่พร้อมเปิดประตูอ้า สำหรับ “คน-ทุกคน” ที่สักแต่ว่ามีเงิน!

เพราะทุกสำนัก แม้กระทั่งสำนักโคมแดง ก็ยังมีศักดิ์-มีศรี
ไม่เชื่อไปถามโป้วอั้งเสาะ

และ “โป้วอั้งเสาะ” ไม่เคยชักดาบพร่ำเพรื่อ
ยามชัก แม้คนตายก็มิเคยเห็นว่าเขาชักออกมาตอนไหน?

แต่ สมศักดิ์-สุริยะ
“ชักเข้า-ชักออก” จนผม ชักรำคาญจริงๆ…โทษที!

เปลว สีเงิน

๑๕ มีนาคม ๒๕๖๖

Written By
More from plew
“แถลงข่าว” แต่ “เข้าเนื้อ” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน ค่อนขอดกันเต็มหน้าโซเชียลว่า ที่ผบ.ตร.แถลงข่าวจับ “ผู้กำกับโจ้” คืนวานซืน นั้น เจตนาแถลง “ตำรวจจับตำรวจโจร” หรือเจตนาจัดฉากให้ตำรวจโจรเล่นบท “พระเอกยี่เก” อ้อนแม่ยก?...
Read More
0 replies on “๒ จอมชักแห่งยุทธภพ – เปลว สีเงิน”