“พรรคเพื่อไทยต้องได้อำนาจจากพี่น้องประชาชน ให้ได้ ส.ส.310 ที่นั่งขึ้นไป เพื่อกำจัดระบอบประยุทธ์ให้สิ้นซาก จัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย วันนี้จึงไม่มีคำว่ารักพี่เสียดายน้อง ไม่มีแบ่งคะแนน มีแต่คำว่าต้องกาเพื่อไทยสองใบ เพื่อแลนด์สไลด์เท่านั้น”
ส่วนหนึ่งจากคำกล่าวปาฐกถา ในงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 โดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวปาฐกถาประกาศชูธงปักชัยแลนด์สไลด์ สู่เพื่อไทย ทั้งแผ่นดิน
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ประเทศไทย ณ วันนี้ถือเป็นจุดต่ำสุด อยู่ในภาวะวิกฤต ไร้ทิศทาง ประชาชนไร้อนาคต มืดมน หมดหวัง มีแต่ความทุกข์ยาก ความยากจน เป็นหนี้ ทุกข์ เศร้า ทั้งหมดคือภาพสะท้อนของประเทศไทย ดังนั้น ต้องมีจุดเปลี่ยนจากวิกฤติเหล่านี้ ซึ่งตนมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ พร้อมประกาศ 2 หมุดหมายสำคัญของพรรคเพื่อไทย ได้แก่
หมุดหมายแรก จากที่เคยประกาศยุทธศาสตร์และเป้าหมายชนะเลือกตั้งถล่มทลายแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน พรรคเพื่อไทยต้องได้ ส.ส. มากกว่า 250 ที่นั่งขึ้นไป เพื่อวางแนวทางชนะ ส.ว. 250 คน แต่ถึงเวลานี้ เราไม่กังวลกับหน้าที่และอำนาจของ ส.ว.อีกต่อไป เพราะเรามั่นใจว่าผ่านจุด 250 เสียงขึ้นมาแล้ว
หมุดหมายที่สอง พรรคเพื่อไทยต้องได้อำนาจจากพี่น้องประชาชน ได้ ส.ส.310 ที่นั่งขึ้นไป เพื่อกำจัดระบอบประยุทธ์ให้สิ้นซาก จัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย วันนี้จึงไม่มีคำว่ารักพี่เสียดายน้อง ไม่มีแบ่งคะแนน มีแต่คำว่าต้องกาเพื่อไทยสองใบ เพื่อแลนด์สไลด์เท่านั้น ต้องเลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค
ผลสำรวจของคะแนนความนิยมของพรรคเพื่อไทยในภาคเหนือ อีสาน กลาง กทม. สีแดงเต็มพื้นที่ และมั่นใจว่าจะมีสีแดงในเพื่อไทยใต้แน่นอน ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยพร้อมกู้วิกฤตให้ประเทศ ฟื้นคืนประเทศจากซากปรักหักพังด้วยนโยบายที่คิดใหญ่ ด้วยบุคลากรที่ทำเป็น เพื่อคนไทยทุกคน
สำหรับนโยบายของพรรคเพื่อไทย เป็นที่ยอมรับกันว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่มีจุดแข็งที่สุดในการดำเนินการตามนโยบาย จนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศบอกว่าเป็นประชาธิปไตยที่กินได้ และในการเลือกตั้งครั้งนี้ นโยบายจะเป็นเรื่องสำคัญ นโยบายที่สำเร็จในอดีต จะถูกนำมาต่อยอดด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลนีเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ด้วยการลดรายจ่าย สร้างรายได้ และคนไทยต้องได้รับโอกาส เราจะขยายโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนให้ได้รับสิทธิดูแลอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง
พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคเดียวที่เน้นนโยบายเป็นแกนกลาง โดยนโยบายที่ประกาศไปแล้ว เช่น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน ภายใน 4 ปี ซึ่งจะทำให้เกิดการขยับฐานเงินเดือนขึ้น นโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ สร้างรายได้ 200,000 บาทต่อครอบครัวต่อปี สร้างแรงงานทักษะสูง 20 ล้านตำแหน่ง มีรายได้จากการท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาท พี่น้องเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3 เท่าภายใน4 ปี การเรียนรู้แบบ Life long learning เรียนรู้เพื่อมีรายได้ตลอดชีวิต การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างน้อยร้อยละ 5 ต่อปี ทั้งหมดคือแนวคิดของพรรคเพื่อไทยที่คำนึงถึงการสร้างงาน สร้างรายได้ ให้พี่น้องประชาชนยืนได้ด้วยขาของตัวเอง
ในส่วนของบุคลากรพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคที่มีองค์ประกอบอย่างกลมกล่อม ทั้งบุคลากรที่มีประสบการณ์ คนรุ่นใหม่ที่มีพลัง มีศักยภาพเต็มเปี่ยม เราทำงานจับมือกัน พร้อมเข้าหาประชาชน นำนโยบายเข้าสู่ประชาชน
“ขอขอบคุณกำลังใจจากทุกภาคส่วน มาร่วมต่อสู้สู่เส้นชัยของพี่น้องประชาชน อีก 2 เดือนเท่านั้น เราจะเดินเข้าสู่ทำเนียบในนามรัฐบาลเพื่อไทย ถึงเวลาแล้วที่เราจะขอโอกาสจากพี่น้องประชาชน ร่วมทำงานกับพรรคเพื่อไทย ผนึกกำลังกันเปลี่ยนแปลงประเทศ ยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ ต้องเพื่อไทยเท่านั้น ต้องชนะขาด ไม่มีคะแนนทิ้งน้ำ ไม่มีแบ่งใจ ต้องเลือกเพื่อไทยทั้งสองใบ” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว