26 กุมภาพันธ์ 2566 นายแพทย์ รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11 โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ โพสต์เฟซบุ๊กตั้งคำถาม ประเด็นที่ภาครัฐสนับสนุน นโยบายกัญชา เพื่อการแพทย์ แต่กลับต่อต้านการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ว่า
เรื่องนี้ ทำความเข้าใจได้ไม่ยากเลย หน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข คือ การหาทางเลือกด้านสุขภาพให้กับประชาชนอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่า อะไรดี ก็ต้องสนับสนุน ส่วนที่เป็นโทษก็ต้องควบคุม เราเห็นกรณีตัวอย่างจากพืชฝิ่น ที่นำมาผลิตเป็นยา ช่วยลดอาการเจ็บปวด กัญชาเองก็เช่นกัน ในส่วนที่ดีต้องนำมาใช้ประโยชน์ ในส่วนที่เป็นโทษ ได้ออกประกาศของกระทรวงสาธารณสุขควบคุมไว้หลายฉบับ แต่ติดอยู่ที่การบังคับใช้โดยเจ้าหน้าที่นั้น ไม่เข้มแข็ง
ประโยชน์ของกัญชา ในทางการแพทย์ มีหลักฐานเชิงประจักษ์ การใช้ ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์แล้วได้ประโยชน์ เช่น ลดภาวะคลื่นไส้ อาเจียนจากยาเคมีบำบัด โรคลมชักที่รักษายากและโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษา ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ภาวะปวดประสาทจากระบบประสาทส่วนกลางที่ดื้อต่อยารักษา ส่วนผู้ป่วย ที่ใช้ เพื่อควบคุมอาการ อาทิ ผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคอง ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ โรควิตกกังวลไปทั่ว โรคปลอกประสาทอักเสบอื่นๆ เรามีผู้ป่วย ด้วยโรค หรืออาการเหล่านี้เป็นจำนวนมาก ที่จะได้ประโยชน์จากนโยบายกัญชาทางการแพทย์
“ขอย้ำว่า กว่านโยบายจะมาเป็นการปฏิบัติ ต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณาอย่างเข้มข้น มีผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ จากทุกภาคส่วน มาช่วยกันประเมิน การที่นโยบายออกไปได้ แสดงว่า มีการพิสูจน์เชิงประจักษ์แล้ว ว่ามีประโยชน์กับคนไทย มีความคุ้มค่า และต้องกำกับควบคุม ครับ
ส่วนบุหรี่ไฟฟ้า ที่พบเห็นมีเพียงด้านเดียวคือที่เป็นโทษภัย สำหรับสารนิโคตินที่มีอยู่ในบุหรี่ไฟฟ้าในปริมาณที่สูง หรือแม้แต่ในบุหรี่มวนทั่วไปนั้น ในทางการแพทย์ชี้ชัดว่า ส่งผลเสียโดยตรงต่อสมองและระบบประสาท และเมื่อเกิดการเสพติดสารนิโคตินแล้ว ร่างกายจะต้องการสารนิโคตินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าต้องเพิ่มปริมาณหยดน้ำยานิโคตินเพิ่มขึ้นตามความต้องการที่สมองสั่งการ จนเกิดผลเสียต่อระบบอวัยวะในร่างกายหลายระบบ
เช่น ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น อัตราการเต้นหัวใจเพิ่มขึ้น หายใจถี่ขึ้น ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลงเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญยังทำให้เซลล์ในร่างกายเจริญผิดปกติ จนกลายเป็นโรคมะเร็งในที่สุด รวมถึงผู้สูบได้รับนิโคตินเข้าสู่ร่างกายเพิ่มมากขึ้นไปด้วย และไอละอองสีขาวเหล่านี้แม้มีกลิ่นหอม แต่นั่นคือบุหรี่มือสอง และมือสามที่ทำลายสุขภาพผู้ที่ไม่สูบ และบุคคลรอบข้างได้เช่นกัน
“กรุณาอย่าเทียบกัญชา กับบุหรี่ไฟฟ้า สำหรับกัญชา เหมือนเหรียญ 2 ด้าน ขอให้เราใช้ในด้านดีๆ แล้วช่วยกันควบคุมการใช้ในด้านไม่ดี จะช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยนับล้านคน การควบคุมก็ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด กวดขัน กลับกัน บุหรี่ไฟฟ้า เรายังไม่เห็นมุมที่ดีต่อสุขภาพเลย ทั้งยัง ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย เสียค่าใช้จ่ายนับหมื่นล้านบาท กระทรวงสาธารณสุข ไม่มีทางสนับสนุน ในสิ่งที่มีแต่ทำลายสุขภาพ”