แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติขึ้นเวทีปราศรัยย้ำนโยบาย “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ”

25 กุมภาพันธ์ 2566- “พีระพันธุ์” ประกาศลั่น ช่วงเวลาที่นายกฯประยุทธ์อยู่มา 8 ปีโคราชมีความเจริญเหมือนกับเมืองหลวงของประเทศไทย

จากนั้น นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ปราศรัยว่า ตนเป็นหนึ่งคนที่ตามมาอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ที่อยู่ด้วยเพราะช่วงโควิดชาวโคราชได้เงินเยียวยากว่า 1 ล้านบาทลงมาให้พี่น้องชาวโคราช เป็นความห่วงใยจากลุงตู่ หากมีลูกหลานทำงานในเขตอุตสาหกรรมตะวันออกจะได้เงินชรภาพคืน 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงินจากประกันสังคมเป็นเงินที่ลูกหลายทำเอาไว้ กฎหมายตัวนี้อยู่ในสภาฯแล้ว สำหรับผู้ที่อยู่ใน มาตรา 33

ส่วนคนไทยที่เป็นแรงงานนอกระบบ เช่น ค้าขาย หาบเร่ เวลาไม่มีเงิน ไม่สามารถพึ่งพาสถาบันการเงินได้ ตอนนี้ลุงตู่ให้ทำเรื่องกองทุนแรงงานนอกระบบกำลังดูว่าจะได้เม็ดเงินเท่าไหร่ ต่อไปแรงงานนอกระบบไม่ต้องไปกู้หัวปิงปองอีกต่อไปนี่คือสิ่งที่ลุงตู่ทำเพื่อความเท่าเทียม คนรวยกู้ได้ แต่คนจนกู้ไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์จะทำให้เกิดความเท่าเทียม

นอกจากนี้บัตรลุงตู่ ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนรักลุงตู่ เป็นความเสมอต้นเสมอปลาย ขณะที่บางพรรคจะยกมือไหว้ตอนที่เลือกจากนั้นไม่เคยกลับมาเลย แต่บัตรลุงตู่จะยังคงทำต่อไป

ขณะที่ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ปราศรัยว่า ชาวโคราชได้ถามว่านายกตู่ได้ทำอะไรไว้ ความจริงทำไว้หลายอย่าง เช่น เรื่องการท่องเที่ยวที่ได้พัฒนาไปหลายอย่างเพื่อให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศและจังหวัดต่างๆเพื่อให้รายได้กระจายออกไปในทุกพื้นที่ ให้เหมือนกับการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศ

เช่น วันนี้ตนได้ไปสักการะพระพุทธรูปองค์ขาวที่อยู่ในโคราชเห็นว่าหากมีการพัฒนาที่มากขึ้นนักท่องเที่ยวจะเข้ามาและสร้างรายได้ให้กับชาวโคราชอีกมาก เป็นพระพุทธรูปตั้งแต่สมัยสุโขทัย ที่ตนพูดเรื่องประวัติศาสตร์เพราะว่าอยากให้ทุกคนนึกถึงบุญคุณของพระบูรพามหากษัตริย์ที่รักษาประเทศและแผ่นดินไว้ให้กับลูกหลานและขอให้เลือกคนดีขึ้นมาปกครองประเทศ ที่ตนมาทำงานกับลุงตู่ก็เห็นว่าลุงตู่เป็นคนดีถ้าหากอยากได้รัฐบาลที่ดีก็ขอให้เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ คนโกงชาติจะไม่มีวันเจริญ จึงขอให้เลือกคนดีขึ้นมาปกครองประเทศตามที่ใช้หลวงรัชกาลที่ 9 มีพระราชดำรัสไว้

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เดินขึ้นเวทีปราศรัยท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับอย่างกึกก้อง โดยนายพีระพันธุ์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้มีโอกาสมากราบย่าโมรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งไม่เคยคิดว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้รับการตอบรับมากมายขนาดนี้

ตนและพลเอกประยุทธ์ตั้งใจมาพบกับพี่น้องชาวอีสานเพื่อเป็นประตูสู่อีสาน เมื่อเดือนที่แล้วก็ได้ไปที่จังหวัดชุมพรซึ่งเป็นประตูสู่ภาคใต้แต่ไม่ว่าจะไปที่ไหนพวกเราทุกคนก็คือคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าจะอยู่ภาคไหนหัวใจคือคนไทยตนชอบใจคำที่ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า หัวใจของท่านเท่ากำปั้นแต่ใหญ่เพียงพอที่จะรักคนทั้งชาติและนี่คือหัวใจของพล.อ.ประยุทธ์และหัวใจของรวมไทยสร้างชาติที่รักประชาชนเพื่อมาแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติและนำชาติไปสู่ความเจริญก้าวหน้าเพื่อลูกหลาน

ทั้งนี้ ในช่วงแรกที่ตนเริ่มตั้งพรรคมามีความตั้งใจว่า จะทำให้พรรคเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ ตั้งใจจะทำงานให้กับประชาชนทุกคน จะเป็นพรรคที่ประชาชนพึ่งได้แก้ปัญหาให้ทุกเรื่อง วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติจากจุดเล็กๆไม่กี่เดือนวันนี้ต้องยอมรับว่าหลายสิ่งที่เคยสบประมาทว่า พรรคของเราจะได้ถึง 25 เก้าอี้แต่ล่าสุดกกต.ประกาศว่าพรรครวมไทยสร้างชาติมีความพร้อมสามารถส่งผู้สมัครส.ส.ได้ครบ 77 จังหวัด 400 เขตเป็นพรรคแรกที่สามารถทำได้ สำหรับในภาคอีสาน 132 ที่นั่งทั้งหมดมาอยู่ที่นี่แล้ว ขอยืนยันว่าพรรคกรวมไทยสร้างชาติมีความพร้อมที่จะมาทำงานให้กับทุกคน ยังทำอยู่และจะทำต่อไป

อย่างไรก็ตาม ตนเคยมาที่โคราชเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วถ้าเปรียบเทียบกับวันนี้ที่มาอีกครั้งเหมือนต่างประเทศมีความเจริญ ช่วงเวลาที่นายกฯประยุทธ์อยู่ 8 ปีมีความเจริญเหมือนกับเมืองหลวงเมืองหนึ่งของประเทศไทยและเราจะทำต่อไป ขอย้ำพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนจะต้องมีที่ทำกิน จะต้องมีกองทุนของประชาชนมีเงินฉุกเฉินสำหรับดูแลประชาชน ส่วนเรื่องบัตรสวัสดิการของรัฐก็จะต่อยอดทำต่อไปทั้งหมดนี้พรรครวมไทยสร้างชาติจะมาทำให้กับประชาชน รวมถึงเรื่องการศึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติจะขยายโอกาสด้านการศึกษาให้กับลูกหลานของประชาชนต่อไป

Written By
More from pp
รองฯ ประวิตร ลงพื้นที่พิษณุโลกติดตามโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งซ้ำซาก ขอให้ช่วยกันดูแลทรัพย์สินส่วนรวม ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า
15 ก.ค.63 เวลา 09.30 น. ณ โครงการเติมน้ำใต้ดิน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกุลา ตำบลหนองกุลา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พลเอก...
Read More
0 replies on “แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติขึ้นเวทีปราศรัยย้ำนโยบาย “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ””