ผักกาดหอม
หรือว่าจะเป็นจริง???
ก็การเมืองว่าด้วยเรื่องท่าทีที่แปลกๆ ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพลังประชารัฐ มันไปในทิศทางเดียวกับข่าวลือนี่ซิครับ
ทำให้ต้องมานั่งเกาคางคิด ไอ้ที่สะพัดกันค่อนโลก คือเรื่องจริงทั้งหมดเลยอย่างนั้นหรือ
จะตอกย้ำไปถึงไหนกัน
ข่าวจาก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ รายงานว่า
……….หลังจากที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากอภิปรายได้มีการขยายผลไปถึงการยื่นตรวจสอบรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายกับองค์กรอิสระอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม นอกจากการยื่นตรวจสอบผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว สิ่งที่พรรคร่วมฝ่ายค้านมีดำริว่าจะดำเนินการตรวจสอบเช่นกันคือ การรวบรวมรายชื่อ ส.ส.และ ส.ว.จำนวน ๑ ใน ๕ ของจำนวนทั้งหมด ยื่นให้นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เสนอต่อประธานศาลฎีกา พิจารณาตั้งคณะผู้ไต่สวนอิสระ สอบถามข้อเท็จจริงกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๓๖ ในกรณีไม่ชี้มูลความผิดใน ๒ กรณีคือ ประเด็นนาฬิกาเพื่อนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และการไม่ชี้มูลความผิดระดับผู้สั่งการ กรณีสั่งซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200
ซึ่งเดิมทีจะยื่นกันในช่วงปลายปี ๒๕๖๕ แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด
ก้าวไกล รับสภาพ ยื่นไม่ทันสมัยประชุมนี้
ล่าสุด นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ที่อภิปรายไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับกรณีการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศราว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ลงนามร่วมกันในการเสนอให้ประธานรัฐสภาตั้งคณะผู้ไต่สวนอิสระแล้ว เหลือแต่เพียง ส.ส.ในสัดส่วนพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ที่ยังไม่ได้ลงนาม และได้ส่งเรื่องนี้ไปให้ทางพรรคเพื่อไทยนานแล้ว
แต่ยังไม่ได้รับคำตอบกลับมา
ทั้งนี้ เนื่องจากในวันที่ ๒๘ ก.พ.๒๕๖๖ จะปิดสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แล้ว ซึ่งเป็นการประชุมสมัยสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงเดือน พ.ค.๒๕๖๖ จึงคาดว่าเรื่องนี้น่าจะตกไป อาจจะต้องให้สมาชิก ส.ส.หลังการเลือกตั้งทั่วไปพิจารณาว่า จะนำญัตตินี้ขึ้นมาเสนอใหม่หรือไม่ เพราะตอนนี้คงดำเนินการอะไรไม่ทันแล้ว
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงในพรรคเพื่อไทย กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้นิ่งนอนใจกับประเด็นดังกล่าว และในการประชุมพรรคแต่ละครั้ง ก็นำประเด็นนี้ขึ้นมาพิจารณากันหลายรอบแล้ว และทุกครั้งสมาชิกพรรค
โดยเฉพาะผู้ที่เป็น ส.ส. มีความเห็นร่วมกันว่า จะไม่ลงนามในการเสนอให้ประธานรัฐสภาตั้งคณะผู้ไต่สวนอิสระ
เนื่องจาก ส.ส.หลายคนมองว่า มีสมาชิกพรรคและเครือญาติที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นทั้งระดับ อบต.และ อบจ. มีประเด็นถูกร้องเรียนไปที่ ป.ป.ช.เป็นจำนวนมาก ซึ่งการยื่นถอดถอนคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งหมด เกรงว่าจะมีปัญหาตามมาในอนาคต
ประกอบกับเข้าสู่ช่วงใกล้จะเลือกตั้งแล้ว จึงไม่อยากสร้างปัญหาหรือกับดักที่อาจจะตามมาในอนาคตอีกต่อไป
เมื่อถามว่า หากกลับเข้ามาเป็น ส.ส.อีก จะหยิบเรื่องนี้ขึ้นมานำเสนอใหม่หรือไม่ แหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคเพื่อไทยปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้………….
อ่านเหตุผลของพรรคเพื่อไทยตามรายงานข่าวนี้่เป็นสิบเที่ยวก็ยังไม่เข้าใจ
กลัว ป.ป.ช.เอาคืนอย่างนั้นหรือ?
แล้วกับดักอะไรในช่วงเลือกตั้ง
ช่างซับซ้อนดีจัง
ราวกับว่า ป.ป.ช.จ้องเล่นงานพรรคเพื่อไทยทุกเรื่อง
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงพังครับ
พังทั้งระบบ
แต่มันใช่หรือ
แล้วเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ที่ ป.ป.ช.มีมติตีตกข้อกล่าวหา บรรดานักการเมือง ที่เกี่ยวข้องกับคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตสอง เห็นเพื่อไทยเฮกันลั่นไม่ใช่หรือ
เพราะที่รอดตัวขาใหญ่ทั้งนั้น
ทักษิณ ชินวัตร
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เยาวภา วงศ์สวัสดิ์
รอดหมด!
แต่คนที่ซวยคือ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งบรรดาข้าราชการ และกลุ่มเอกชน จำนวนหนึ่ง เพราะกลุ่มนี้ ป.ป.ช.มีมติชี้มูล
มีอีกหลายกรณีที่เพื่อไทยรอด
การให้ข่าวลักษณะนี้ไม่ต่างประจานตัวเอง
อ้างเหตุ เป็นเพราะสมาชิกพรรคและเครือญาติที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นทั้งระดับ อบต.และ อบจ.มีประเด็นถูกร้องเรียนไปที่ ป.ป.ช.เป็นจำนวนมาก
แสดงว่าพรรคนี้อุดมไปด้วยเรื่องโกงจริงๆ
ทั้งโคตร!
เพื่อไทยไม่ร่วมเซ็นชื่อกับพรรคก้าวไกลก็เท่ากับเผื่อแผ่ไปให้ “ลุงป้อม” ด้วย
ตั้งใจราวกับบังเอิญอะไรทำนองนั้น ดีลลับ เพื่อไทย พลังประชารัฐ จับมือตั้งรัฐบาลดูจริงจังขึ้นมามากโขทีเดียว เอาล่ะ ยุบสภา ค่อนข้างแน่นอนแล้ว
เท่าที่ฟัง “วิษณุ เครืองาม” พูด มันส่งสัญญาณเป็นแบบนั้น
แต่จะเป็นการยุบสภาก่อนสภาครบวาระไม่กี่วัน ฉะนั้นการเลือกตั้งใหม่ ยังสามารถใช้ไทม์ไลน์เดิมที่ กกต.วางไว้ได้
คือวันที่ ๗ พฤษภาคม
วันรับสมัคร ส.ส. ก็เป็นช่วงก่อนสงกรานต์
แต่ไฮไลต์ก่อนเลือกตั้งอยู่ที่ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ไปทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ (๒๑ กุมภาพันธ์)
“พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ส่งโทรศัพท์ต่อสายตรงให้คุยกับ “ลุงตู่”
ผลออกมาว่า
“พนันออนไลน์ ต้องจับให้หมดทั้งเว็บไซต์เล็ก กลาง ใหญ่ เป็นประกาศิตจากข้างใน นั่นคือคำตอบที่ผมได้รับมา”
นั่นคือคำพูด “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์”
ยังมีเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม การเมืองสีเทารุกอุทยาน
“ทั้งหมดนี้ต้องเลิก ถ้าไม่เลิกการเมือง การปฏิรูป พูดได้แต่ปาก แต่บรรดา ส.ส. หรือผู้สมัคร จะต้องมีอุดมการณ์ ฉะนั้น เรื่องดังกล่าวตนจะนำมากราบเรียนนายกฯ และยืนยันว่า ตนจะทลายการคอร์รัปชัน และอย่านำตนไปผูกกับเบื้องหลัง”
ก็ไม่รู้ว่า “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” คุยกับ “ลุงตู่” แบบที่ให้ข่าวมาหรือเปล่า
ถ้าใช่…งานนี้่้เลือกตั้งสนุกแน่
เพราะบางคนมีดาบ ก็อาจชักไม่ออก
แต่ถ้าไม่ใช่ ก็แค่เรื่องของ “ชูวิทย์”
