ผักกาดหอม
ชักไม่แน่เสียแล้ว
แคนดิเดตพรรคเพื่อไทย ดูจะยังไม่นิ่ง
มีลับลวงพราง เหมือนจะรอสถานการณ์บางอย่าง
ฟังหูไว้หูครับ “นันทิวัฒน์ สามารถ” เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดีกรีอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ อินไซด์ข้อมูล
มีพลิกครับ!
เฟซบุ๊ก Nantiwat Samart โพสต์ไว้แบบนี้ครับ
….“ผู้นำ:ในภาวะวิกฤต”
หากสนใจสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ จะพบว่า นอกจากสงครามในยุโรปที่ส่อท่าจะขยายตัวเป็นสงครามโลกครั้งที่สาม และสถานการณ์ในเอเชียที่เริ่มเห็นความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้น และเขม็งเกลียว
ภายใต้ภาวะเช่นนี้ การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ในไทย คนไทยจะเลือกผู้นำแบบไหนมาดูแลความมั่นคงของประเทศ การเมืองไม่ใช่เรื่องล้อเล่น หากได้ผู้นำที่ไม่มีประสบการณ์ ฝักใฝ่สงคราม ประเทศและคนไทยอาจถูกลากเข้าร่วมวงความขัดแย้ง
คนไทยจะเลือกผู้นำแบบไหน ลองเอารายชื่อที่พรรคการเมืองต่างๆ มาวางลงและพิจารณาจับคู่ชนว่าใครดี ใครแย่กว่ากัน ใครมีประสบการณ์ด้านความมั่นคงและการเมืองระหว่างประเทศมากกว่ากัน
ใครที่จะนำรัฐนาวาไทยฝ่าคลื่นลมไปได้ฉิว มีข่าวลอยลมมาเข้าหูว่า พรรคใหญ่กำลังจะถอย ไม่เอาลูกสาวแล้ว เพราะมีจุดด้อยถูกโจมตีหลายเรื่อง ดันต่อไปไม่ไหว แต่ขอเปลี่ยนเอาตัวแม่มาแทน
เปลี่ยนใจส่งชื่อซ้อใหญ่ลงมาเล่นเอง เป็นแคนดิเดดนายกฯ แทนลูกสาวที่ไม่พร้อม
ซ้อใหญ่ที่เป็นหัวแจกหัวจ่ายตัวจริงเสียงจริง ว่ากันว่า ค่อยพอฟัดพอเหวี่ยงกับลุงตู่ได้หน่อย ถ้าเป็นจริง งานนี้สนุกแน่
ท่องจำให้ขึ้นใจ เราจะไม่เลือกคนเก่งแต่โกง เราจะไม่เลือกคนดีแต่โม้ เราจะเลือกคนซื่อสัตย์ เราจะเลือกคนที่จงรักภักดีต่อสถาบันฯ….
ข้อมูล “ข่าวกรอง” มีความเป็นไปได้ทีเดียว
แต่ก็น่าจะยังมีเหตุผลอื่นนอกเหนือจากนี้อีก
ในมุมการเมือง “อุ๊งอิ๊ง” ถือว่าใหม่มาก และพิสูจน์มาแล้วว่า นักการเมืองหน้าใหม่ที่เพิ่งจะคลุกการเมืองไม่กี่วัน นอกจากไร้ประสบการณ์แล้ว
บารมีส่วนตัวไม่มี
ดูกรณี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เป็นตัวอย่าง
“ยิ่งลักษณ์” ไร้บารมี
พี่ชายคุมไม่ทั่วถึง
พี่สาวแอบตอด
ส่วนลูกน้องแอบกิน
เจ๊งครับ!
บารมีก็เรื่องหนึ่ง แต่มีเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน
หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเพิ่งจะประกาศไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตอนไปปราศรัยที่จังหวัดอำนาจเจริญว่า
“อาทิตย์หน้าจะท้องครบ ๗ เดือน”
กำหนดคลอดเดือนพฤษภาคม
จากไทม์ไลน์เลือกตั้งของ กกต. ๗ พฤษภาคม เกิดคำถามว่า “อุ๊งอิ๊ง” มีความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่
งานการเมืองไม่ง่ายครับ
เครียด!
โดยเฉพาะเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คูณไปอีกหลายเท่าตัว
ตลอดเดือนพฤษภาคม น่าจะเป็นช่วงที่การเมืองมีความตึงเครียดสูง เพราะเป็นช่วงจัดตั้งรัฐบาล
การต่อรอง การจับขั้ว บรรดาแกนนำพรรคการเมืองแทบไม่ได้หลับได้นอน
“อุ๊งอิ๊ง” ที่ท้องแก่ หรือเพิ่งจะคลอด ในช่วงเวลาดังกล่าว มีวิธีรับมือหรือไม่
ที่จริงไม่แปลกอะไรครับ
ในโลกนี้ผู้นำหญิงตั้งครรภ์และคลอดขณะอยู่ในตำแหน่งก็มีให้เห็นมาแล้ว
“เบนาซีร์ บุตโต” นายกรัฐมนตรีปากีสถานที่ให้กำเนิดลูกสาว ขณะดำรงตำแหน่งเมื่อปี ๒๕๓๓
เมื่อปี ๒๕๖๑ “จาซินดา อาร์เดิร์น” นายกรัฐมนตรีหญิง ของนิวซีแลนด์ ก็ให้กำเนิดลูกสาว ขณะดำรงตำแหน่งเช่นกัน
จากนั้น “จาซินดา อาร์เดิร์น” ลาคลอด ๖ สัปดาห์
ฉะนั้นเมื่อดูไทม์ไลน์แล้ว หาก “อุ๊งอิ๊ง” ได้เป็นนายกรัฐมนตรี คงโกลาหลไม่น้อยทีเดียว
คลอดตรงกับช่วงเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาล
การถวายสัตย์ปฏิญาณตน และแถลงนโยบาย อาจจะตรงกับช่วงที่ต้องลาคลอด
เว้นเสียว่า “อุ๊งอิ๊ง” แข็งแกร่ง เป็นหญิงเหล็ก คลอดแล้วสามารถทำงานการเมืองในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ทันที
ตามกฎหมาย “อุ๊งอิ๊ง” ลาคลอดได้ ๙๐ วัน หรือ ๓ เดือนครับ
ถ้าใช้สิทธิประกันสังคมก็เพิ่มไปอีก ๘ วัน รวม ๙๘ วัน
แต่ “อุ๊งอิ๊ง” คงไม่อยู่ในระบบประกันสังคมกระมัง
เอาเป็นว่า “อุ๊งอิ๊ง” สามารถลาคลอดได้ถึงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม โน้น
ระหว่างนั้นใช้รองนายกฯ รักษาราชการแทนไปก่อน
หากเป็นไปตามนี้ ก็จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทยเลยทีเดียว
ช่วงเริ่มแรกของการตั้งรัฐบาลถือว่าสำคัญมาก คนเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องเบ่งบารมีออกมาให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้
ไม่งั้นคุม ครม.ลำบาก
ใช่ว่า “ทักษิณ” จะช่วยได้ทุกเรื่อง
ฉะนั้นโอกาส “ตัวแม่” จะมาแทน ก็เป็นไปได้อยู่เหมือนกัน
แต่ติดที่ว่า “ตัวแม่” ถนัดงานเบื้องหลังมากกว่า
ร่วม ๒๐ ปีมานี้ “ตัวแม่” ทำตัวโลว์โปรไฟล์มาตลอด
หากออกหน้าจริงถือว่าเป็นข่าวใหญ่
สามารถสร้างตำนานหน้าใหม่ให้ระบอบทักษิณได้ไม่ยาก
แถมยังเป็นผลดีต่อดีลดูไบก่อนหน้านี้อีกด้วย
นิรโทษกรรมแลกเก้าอี้นายกรัฐมนตรีถือว่าคุ้ม
การชู “อุ๊งอิ๊ง” เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป้าหมายจริงอยู่ที่เก้าอี้นายกรัฐมนตรี
หาก “อุ๊งอิ๊ง” ไม่ได้เป็นนายกฯ เพราะดีลการเมือง กองเชียร์ไม่น่าจะรับได้
แต่หากเปลี่ยนมาเป็น “ตัวแม่” ด้วยบุคลิก เงียบแต่ดุ ส.ส.เกรงกลัวทุกคน อาจตอบโจทย์ดีลดูไบทุกข้อ
“ตัวแม่” ไม่ขอเป็นนายกฯ ไม่อยากเป็นเป้าทางการเมือง ตามบุคลิกเดิม
แต่คุมรัฐบาลได้เบ็ดเสร็จ
ดัน “ลุง” เป็นนายกฯ เอาไว้เป็นเป้าล่อแทน
วินวินทั้ง “ลุง” ทั้ง “ซ้อ”
สูตรนี้พอไปได้
แต่ดูๆ แล้วสูตรเตี๋ยวอยู่เหมือนกันนะ “ลุง”