16 กุมภาพันธ์ 2566-น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในประเด็นข้อมูลของกลุ่มธุรกิจสีเทา ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวแล้วทุกเรื่อง หากพบว่ามีหลักฐานการกระทำความผิดจริง พร้อมดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด
แต่ทั้งนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์มีความบริสุทธิ์ใจในการแก้ไขปัญหา พร้อมรับฟังข้อมูล หลักฐานจากทุกฝ่ายเพื่อเดินหน้าสู้กระบวนการในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงหากมีมูลก็เดินหน้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป ดังนั้น ฝ่ายค้านจึงไม่ควรนำข้อมูลการกระทำผิดทุกเรื่องมาเชื่อมโยงกับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าทราบเรื่องตามจินตนาการเกินเลย
น.ส.ทิพานัน กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์มุ่งมั่นในการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดแบบครบวงจร ซึ่งที่ผ่านมาได้กำชับให้บูรณาการทุกภาคส่วนในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เน้นไปที่ตัวการใหญ่คือนายทุนด้วยการขยายผลยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์คดียาเสพติดและฟอกเงิน โดยในปี 2565
ที่ผ่านมาสามารถยึดทรัพย์ได้ 10,820ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังเร่งขับเคลื่อนให้ทุกฝ่ายบูรณาการเชิงรุก ในการบำบัดและเยียวยาผู้ติดยาเสพติด เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้ก่อความรุนแรง ส่งผลกระต่อความปลอดภัยของชุมชนและสังคมด้วย
“พล.อ.ประยุทธ์ได้ติดตามและให้ความสำคัญ ในทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปราย หากมีเรื่องใดที่นำไปสู่การการแก้ไขปัญหาเพื่อยกระดับการทำงานของรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมรับฟังและนำไปแก้ไขปัญหาของประเทสอย่างจริงใจ โดยเฉพาะในภาวะวิกฤติจนสามารถฟันฝ่ามาได้และกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูที่แนวโน้มมีแต่การเจริญเติบโตของประเทศที่เพิ่มขึ้นและวางรากฐานไว้อย่างมั่นคงยั่งยืน” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว