เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ที่รัฐสภา กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 วันแรก ว่า
ประเด็นที่สงสัยกันมาก คือ เรื่องของการที่ตน ในฐานะที่ตนเป็นประธานสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ไม่ได้ลงนามในงบส่งเสริมสุขภาพ ในส่วนที่นอกเหนือจากสิทธิ์บัตรทอง และกระทบกับงานให้บริการ ทั้งที่ความจริง เรื่องนี้ มันมีขั้นตอนของมัน และเอาเข้าจริง ก็ยังไม่ได้เกิดผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน สิทธิ์ต่างยังอยู่ครบ
เมื่อถามถึงกังวลเรื่องการอภิปราย นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อมีข้อสงสัย ก็ต้องชี้แจง แต่ข้อมูลบางอย่างจากฝ่ายค้านอาจจะเป็นข้อมูลเก่า และเป็นข้อมูลที่ใช้คำว่า “เชื่อได้ว่า หรือ เข้าใจว่า” มันเป็น “เวิร์บ ทู เดา” ทั้งหมดเลย มันไม่ใช่ “เวิร์บ ทู บี”
อย่างเรื่องการย้าย ผอ.โรงพยาบาล ตรงนั้น ตนก็ไปก้าวก่ายไม่ได้ ก็ยังคิดว่า เชื่อว่า กันอยู่ และมีการยื่นให้ดำเนินคดีกับตนเองผิดมาตรา 185 แทรกแซงก้าวก่ายงานของข้าราชการประจำทั้งที่อำนาจนี้เป็นของผู้ตรวจฯ การอภิปราย ถ้าเห็นว่า ไม่ดี ต้องเอาหลักฐานมาพูด ต้องมีข้อเสนอแนะ ต้องสร้างสรรค์ ไม่ใช่มาโวยวายกันในสภา
“ในส่วนของการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้นายแพทย์สุภัทร ที่ถามกัน ผมไม่แทรกแซง แต่ก็ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย”
เมื่อถามว่า ใกล้ยุบสภาแล้ว มีเรื่องที่ยังค้างคาหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า พรรคภูมิใจไทย ส่งการบ้านครบแล้ว กัญชา ก็ปลดล็อกแล้ว ตามที่หาเสียง ส่วนร่างกฎหมาย เพื่อดูแลการใช้ ก็เสนอไปแล้ว ผ่านวาระ 1 แต่ต่อมามีการคัดค้าน แต่เราไม่ยอมแพ้ ถ้ากลับมา เราดันต่อแน่นอน เพราะเราคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน