นายกฯ ร่วมประชาสัมพันธ์งานวันมวยไทย 2566 เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าเสือ “พระบิดาแห่งมวยไทย” ชื่นชมเยาวชนไทยร่วมอนุรักษ์สืบสาน ขอทุกคนช่วยกันพัฒนาต่อยอดเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศ สร้างชื่อเสียงในระดับสากล
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (31 มกราคม 2566) เวลา 09.10 น. ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยผู้แทนสมาคมมวยไทย นักมวยไทยที่มีชื่อเสียง และคณะเยาวชน เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์งานวันมวยไทย ปี พ.ศ. 2566 โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย
นายกรัฐมนตรีชมการแสดงคีตะมวยไทย โดยเยาวชนโรงเรียนบ้านหนองหิน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1 จังหวัดขอนแก่น และการสาธิตการแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทย โดยนักมวยอาชีพจากไทยไฟต์ ได้แก่
1) ป.ต.ท. ว.รุจิรวงศ์ 2) เวโร ว.รุจิรวงศ์ (นักมวยหญิง) 3) กิตติ ส.ท.แมนนครระยอง 4) เต็งหนึ่ง ศิษย์เจ๊สายรุ้ง และ 5) น้องโอ ช.ห้าพยัคฆ์
จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายมาลัยดอกไม้สักการะพระเจ้าเสือ และรับมงคลมวยซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงคุณงามความดีและเป็นของที่ระลึกที่ครูมวยมอบให้แก่ศิษย์ พร้อมชมการสาธิตอุปกรณ์การบวงสรวงและไหว้ครูมวยไทย
“นายกรัฐมนตรีชื่นชมคณะผู้จัดงานพร้อมขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยกันสืบสานศิลปะการต่อสู้และแสดงออกถึงวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนานซึ่งเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ ขอให้ช่วยกันสร้างชื่อเสียงและร่วมกันอนุรักษ์สืบสาน รักษา ต่อยอดตามพระราโชบายของในหลวงรัชกาลที่ 10 พร้อมแสดงความชื่นชมความสามารถของเยาวชนไทยที่ร่วมกันสืบสานศิลปะการต่อสู้ประจำชาติ รวมทั้งการจัดให้มีการเรียนการสอนและฝึกฝนเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพ
ซึ่งมวยไทยนับเป็นศิลปะการต่อสู้และการป้องกันตัวที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า ขอทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันส่งเสริมและสร้างการรับรู้ให้คนไทยเห็นความสำคัญและร่วมกันอนุรักษ์ สืบสาน พัฒนาต่อยอด เป็น soft power อันจะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ยั่งยืน
ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับกีฬามวยไทย และรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มวยไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า ช่วยสร้างรายได้ให้ประเทศและสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล และขอให้การจัดงานเป็นไปด้วยความสำเร็จเรียบร้อยทุกประการ” นายอนุชาฯ กล่าว
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบกำหนดให้วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันมวยไทย ซึ่งตรงกับวันเสด็จขึ้นครองราชสมบัติของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ) พระมหากษัตริย์ไทยที่มีพระปรีชาสามารถด้านมวยไทยเป็นที่ประจักษ์ และได้กำหนดจัดงานวันมวยไทยเพื่อร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าเสือ “พระบิดาแห่งมวยไทย”
สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม อันเป็นศิลปะการป้องกันตัวและการต่อสู้ประจำชาติที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก และเป็น soft power พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล
ซึ่งกำหนดจัดกิจกรรมในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ณ วัดตึก (ตำหนักพระเจ้าเสือ) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น พิธีบวงสรวงสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) พิธีครอบครู พิธีไหว้ครูร่ายรำมวยไทยเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าเสือ โดย ครูมวยไทย-ครูมวยไทยต่างประเทศ นักมวยและนักเรียนมวยไทย พิธีมอบรางวัลผู้ชนะการประกวดคีตะมวยไทย การแสดงคีตะมวยไทย การแสดงศิลปะแม่ไม้-ลูกไม้มวยไทย และการเสวนาหัวข้อ “มวยไทย : ที่มาและความสำคัญกับการขึ้นทะเบียนยูเนสโก เป็นต้น