นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (30 มกราคม 2566) เวลา 16.30 น. ณ ห้องประชุมโอฆะบุรี ชั้น 4 โรงพยาบาลบางมูลนาก ต.หอไกร อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมแนวทางการพัฒนาชุมชนคุณธรรม “ต้นแบบโรงพยาบาลคุณธรรม” แหล่งเรียนรู้ที่มีความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม ภายใต้การสนับสนุนของประชาชนทุกภาคส่วนและภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล
ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีการประกาศใช้แผนแม่บทคุณธรรมส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2559-2564) ทำให้เกิดจิตสำนึกด้านคุณธรรม เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม โดยการขับเคลื่อนจังหวัดคุณธรรม อำเภอคุณธรรม ชุมชนคุณธรรม และองค์กรคุณธรรม โดยถอดบทเรียนมาจากแนวทางของการดำเนินการชุมชนคุณธรรม
อำเภอบางมูลนากแห่งนี้ ก่อให้เกิดพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคมทั้งด้านคุณธรรมและเศรษฐกิจสร้าสรรค์ เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในสังคมและชุมชนต่อไป โดยมีนายประทีป จันทร์สิงห์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางมูลนาก นายวิศิษฎ์ อภิสิทธิ์วิทยา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร นายบรรจง ตั้งจิตรวัฒนากุล ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลบางมูลนาก นายเขต เส็งพานิช รองประธานมูลนิธิแก้วคุ้มครอง นำตรวจเยี่ยมและบรรยายสรุป พร้อมคณะผู้บริหารและบุคลากรโรงพยาบาลบางมูลนาก และผู้ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
นายกรัฐมนตรี รับฟังสรุปรายงานภาพรวมความเป็นมาและแนวทางการพัฒนาชุมชนคุณธรรมบางมูลนาก รวมถึงโรงพยาบาลคุณธรรมบางมูลนาก โดยโรงพยาบาลบางมูลนาก เป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาดใหญ่ขนาด 90 เตียง ให้บริการประชาชนในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางมูลนาก อำเภอดงเจริญ อำเภอโพทะเล และอำเภอบึงนาราง
โดยโรงพยาบาล ได้จัดทำโครงการขับเคลื่อนสู่โรงพยาบาลคุณธรรม ภายใต้การสนับสนุนของศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ซึ่งได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและเจ้าหน้าที่ทั้งโรงพยาบาล ความสัมพันธ์กับผู้ป่วยและญาติดีขึ้น จนกลายเป็น “ต้นแบบโรงพยาบาลคุณธรรม” โดยได้ดำเนินการควบคู่กับอำเภอคุณธรรม ส่งผลให้ปัญหาด้านสุขภาพในพื้นที่ได้รับการแก้ไข จากการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วนของอำเภอบางมูลนาก
ได้แก่ สถาบันการศึกษาอื่น ๆ ศูนย์การศึกษานอกระบบ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำรวจ ผู้นำชุมชน สาธารณสุข และชมรมต่าง ๆ ทั้งนี้ การดำเนินงานโรงพยาบาลคุณธรรม มีจุดเริ่มต้นมาจาก “โครงการโรงเรียนคุณธรรม” ภายใต้โครงการของโรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาคม และได้นำไปสู่การรวมตัวของชุมชนในการรื้อฟื้นย่านการค้าตลาดบางมูลนาก “ตลาดฟื้นอดีต อำเภอบางมูลนาก” ภายใต้ “โครงการบางมูลนากเมืองน่าอยู่”
โดยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาควิชาการ ภาคเอกชน ชุมชนและภาคประชาชนบางมูลนาก เพื่อพัฒนาตลาดฟื้นอดีตบางมูลนาก เป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยว รวมถึงความทรงจำร่วมของชาวบางมูลนาก ตามคำนิยมขององคมนตรี นพ.เกษม วัฒนชัย ที่ว่า “ประวัติศาสตร์คือบทย่อของอดีต ตลาดบางมูลนากเคยรุ่งเรือง ลูกหลานต้องช่วยกันฟื้น”
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีรับทราบและติดตามถึงการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ตลาดฟื้นอดีตบางมูลนาก ซึ่งมูลนิธิแก้วคุ้มครอง เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนของสังคมชุมชนบางมูลนาก มาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนา และขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการมีส่วนร่วมของอำเภอบางมูลนาก โดยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในการพัฒนาตลาดเก่า ให้เป็น “ตลาดฟื้นอดีต อ.บางมูลนาก” ทำให้เกิดความภาคภูมิใจและมีจิตสำนึก ในการที่จะรักและดูแลบ้านเกิด ได้เป็นอย่างดี
โดยวัตถุประสงค์มูลนิธิแก้วคุ้มครอง คือให้การศึกษาและส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชุมชนตลอดวาระ 3 ปีที่ผ่านมา กรรมการได้เล็งเห็นพื้นที่ตลาดเก่าริมน้ำที่เคยคึกคักในด้านการค้ามากกว่า 70 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้ได้มีการทรุดโทรมและเงียบเหงาจึงมีแนวคิดปรับปรุงและพัฒนาโดยมีการอนุรักษ์อาคารกับสถานที่โดยรอบนำมาเป็นพิพิธภัณฑ์ชาวบางมูลนาก ผลการปรับปรุงและพัฒนาตลาดเก่าริมน้ำขณะนี้ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกจังหวัดร่วมกับตลาดตะพานหิน ชุมชนเก่าวังกรด และศาลเจ้าแม่ทับทิมอำเภอท่าฬ่อ
ซึ่งในอนาคตสามารถพัฒนาเชื่อมโยงทั้ง 4 สถานที่นี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยสิ่งที่ต้องดำเนินงานต่อ คือการนำผลิตภัณฑ์ชุมชนมาปรับปรุงเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเช่น ข้าว มะม่วง มะยงชิด ส้มโอ และอื่น ๆ โดยต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐในหลายมิติ ซึ่งหากทำสำเร็จจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การมาลงพื้นที่จังหวัดพิจิตรในวันนี้ ได้เห็นถึงความน่ารักและเป็นมิตรของคนจังหวัดพิจิตร พร้อมชื่นชมความก้าวหน้าต่าง ๆ ที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดโครงการต้นแบบโรงพยาบาลคุณธรรมแหล่งเรียนรู้ที่มีความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงรับสั่งกับคณะองคมนตรีให้กลับไปช่วยกันพัฒนาบ้านเกิดโดยเฉพาะเรื่องการศึกษาซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ
นายกรัฐมนตรีย้ำว่าเราเป็นคนไทยต้องมีความรัก ความสามัคคี จริยธรรม และอัตลักษณ์ที่ดีเป็นสิ่งจับต้องไม่ได้แต่ต้องมาจากใจ สิ่งสำคัญคือการพัฒนาของคนในคนพื้นที่ที่ต้องร่วมกันพัฒนา และขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ ทำให้เกิดความภาคภูมิใจและมีจิตสำนึก ในการที่จะรักและดูแลบ้านเกิด ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดการบูรณาการในสังคมและชุมชนเกิดการขับเคลื่อนงานต่าง ๆ อย่างเข้มแข็ง รวมถึงขอให้ทุกคนเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย อย่าลืมความเป็นไทยที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้ให้แก่คนรุ่นหลาน และทุกคนต้องรักชุมชนของตนเองรักบ้านเกิด แม้วันนี้โลกได้เปลี่ยนแปลงไปแต่ละยุคสมัยก็ตาม
ขณะที่รัฐบาลก็ได้มีการดำเนินการในด้านต่าง ๆ ต่อเนื่องเพื่อดูแลประชาชนทุกกล่ม รวมถึงการแก้ไขปัญหาความยากจนในทุกมิติ เพื่อให้คนไทยอยู่รอด ปลอดภัย และพอเพียงตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะออกเดินทางจากโรงพยาบาลบางมูลนาก ไปตรวจติดตามโครงการพัฒนาบางมูลนากเมืองน่าอยู่ ณ ตลาดฟื้นอดีตบางมูลนาก อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ต่อไป