30 มกราคม 2566-นายชุมสาย ศรียาภัย รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่ศาลเพิกถอนการประกันตัวเยาวชนตะวันและแบมว่า ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนข้อ 11-1 “บุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดอาชญามีสิทธิ์ได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ซึ่งเป็นหลักประกันจนกว่าพิสูจน์ความผิดได้”
และยังมีกติกาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ข้อ 9 “ผู้ถูกจับกุมควบคุมตัวต้องได้รับการปล่อยตัว ในระหว่างรอการพิจารณาคดี” รัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 29″ ในคดีอาญาให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด(ไม่ใช่สันนิษฐานว่าเขามีความผิด) ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่าจำเลยกระทำผิดจะปฏิบัติต่อผู้นั้นเสมือนผู้กระทำความผิดไม่ได้ และ การควบคุมให้ทำได้เพียง เท่าที่จำเป็นเพื่อป้องกันการหลบหนีเท่านั้น” และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 107 “ผู้ต้องหาหรือจำเลยต้องได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว” บทบัญญัติในที่ต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นคำประกาศอันศักดิ์สิทธิ์ของมนุษยชาติ เป็นสิทธิที่ติดตัวมาแต่เกิด มีความเท่าเทียมกันและเป็นสากล สละไม่ได้ ถูกพรากไม่ได้
นายชุมสายกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ กฎหมายที่มีโทษอาญาต้องตีความโดยเคร่งครัดต้องค้นหาเจตนาโดยแท้จริงของผู้ต้องหาหรือจำเลยให้ได้ว่า มีความประสงค์อย่างแท้จริงที่จะกระทำความผิดตามความมุ่งหมายของบทบัญญัตินั้นๆหรือไม่อย่างไรก็ตาม หากเป็นเพียงการเรียกร้องให้แก้ไขปรับปรุง กฎหมาย ให้สอดคล้องกับยุคสมัยและให้เป็นไปในทิศทางที่ควรจะเป็นตามหลักสากล ตามชุดความรู้ ความเข้าใจและประสบการณ์ของเยาวชนคนหนุ่มสาว แค่นี้พวกเขาไม่ควรต้องมีความผิด และได้รับโทษอาญา ส่วนการได้รับสิทธิในการประกันตัวเป็นเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่บัญญัติบังคับไว้อยู่ในที่ต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น ทั้งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งเป็นพันธกรณีที่ประเทศไทยมีไว้กับ มิตรประเทศต่างๆ จึงต้องแยกให้ออกระหว่างสิทธิการได้รับการประกันตัวกับการพิจารณาความผิดตามมาตรา 112 ,116 เอามาปนกันไม่ได้
แบมและตะวันไม่น่าจะมีเจตนากระทำความผิดในมาตราดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวอ้าง เพียงแต่พวกเขาพิจารณาจากเหตุผล และมีชุดความคิดและประสบการณ์ ในยุคสมัยของเขา ดังนั้น ผู้นำหรือผู้มีอำนาจต้องใช้เมตตาธรรม มองพวกเขาอย่างเข้าใจ อธิบายด้วยเหตุผล พวกเด็กๆไม่ใช่คนอื่นไกลเขาคือลูกหลานของไทยที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติบ้านเมืองต่อไปในอนาคต
“หลายประเทศปล่อยนักโทษการเมืองหรือไม่ดำเนินคดีกับ ผู้ที่มีความคิดเห็นทางการเมืองแตกต่างจากผู้มีอำนาจ ประเทศเรา เราก็ควรต้องไปถึงจุดนั้นพรรคเพื่อไทยทราบและตระหนักในปัญหานี้ เรายึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย ความยุติธรรม หลักนิติธรรม ที่เป็นสากล การบังคับใช้กฎหมายตอนนี้ หากเป็นไปตามเจตนารมณ์และความมุ่งหมายโดยแท้ของบทบัญญัติ เราไม่ขัดข้อง แต่ที่ผ่านมาเราเห็นการหยิบยกกฎหมายในมาตราเหล่านี้ มาใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาอำนาจทางการเมือง ปิดปากและหยุดการกระทำของผู้เห็นต่างๆ ถือเป็นการตีความการบังคับใช้กฎหมายอย่างบิดผันกระบวนการยุติธรรม และผู้วินิจฉัยชี้ขาด ตัดสินคดีควรจะ ต้องรับฟังและมีทางออกในเรื่องนี้ อย่างสันติ โดยใช้หลักเมตตาธรรม นำหลักยุติธรรม” นายชุมสายกล่าว