‘ทักษิณ’ คิด ‘อุ๊งอิ๊ง’ ทำ-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ตามไม่ทันจริงๆ

เดี๋ยวนี้นักการเมืองย้ายพรรคกันแบบความไวแสงแล้วหรือเนี่ย

เห็นทีต้องอัปเดตกันทุกเสี้ยววินาทีซะแล้ว

ความเดิมจากตอนก่อนโน้นนนน….

ภายใต้กติกาเลือกตั้งใหม่ บัตร ๒ ใบ เลือกคนใบ พรรคใบ และหาร ๑๐๐ เอื้อต่อพรรคการเมืองขนาดใหญ่ มากกว่าพรรคการเมืองขนาดเล็ก

โดยเฉพาะพรรคเกิดใหม่ ไม่เจ๋งจริงโอกาสเกิดยาก

จึงเกิดปรากฏการณ์ “รวมพรรค” ให้เห็นเป็นระยะ

อย่าง ชาติพัฒนา กับ กล้า

เป็นชาติพัฒนากล้า

พรรครวมพลัง ก็เริ่มโยกย้ายไป รวมไทยสร้างชาติ

ที่ดีลกันแข็งขันเป็นเดือนๆ ดูจะเป็นพรรคไทยสร้างไทยกับพรรคสร้างอนาคตไทย

หวิดๆ จะสำเร็จ

แต่สุดท้ายเหลว

มีคนบอกว่า ที่ล้มเหลวเพราะ ตกลงเรื่องชื่อพรรคกันไม่ได้…ก็ว่ากันไป

เลียนแบบ พรรคชาติพัฒนากล้า ซิจะไปยากอะไร

ก็อย่างว่าครับ นักการเมืองระดับแม่เหล็ก พอจะให้เข้าแถวเรียงหนึ่ง ทุกคนอยากยืนหัวแถวกันทั้งนั้น เพราะคิดว่าตัวเองต้องเป็นเบอร์หนึ่ง

นี่ก็เป็นเหตุผลให้ดีลการเมืองหลายๆ ดีลต้องล้มไป

ถือเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์การเมืองจริงๆ ที่ พรรคสร้างอนาคตไทย ปิดดีล หอบผ้าหอบผ่อนกลับพรรคพลังประชารัฐ

กลับไปเติมเต็มทีมเศรษฐกิจ

การที่ ๔ กุมารกลับพลังประชารัฐ ทำให้เกิดคำถามขึ้นมากมาย

เพราะตอนงอนตุ๊บป่องออกจากพลังประชารัฐ ก็เพราะ “ธรรมนัส พรหมเผ่า” ยึดอำนาจ

ขณะที่ “ธรรมนัส พรหมเผ่า” ก็กำลังตัดผมแต่งตัว หาวิธีเข้าบ้านเก่าเหมือนกัน

มันก็งงซิครับ

หรือเพราะสถานการณ์เปลี่ยน มีข้อมูลใหม่ ความหลังครั้งก่อนจึงต้องพักไว้ก่อน

ดีลนี้จบคนแรกที่จะกลายเป็นลูกเมียรองปลายแถวไปทันทีคือ “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์”

ไม่ต้องไปพูดถึง แคนดิเดตนายกฯ แล้ว เพราะพลังประชารัฐประเคนให้ “ลุงป้อม” คนเดียว

หัวหน้าทีมเศรษฐกิจยังไม่ได้เลย

“มิ่งขวัญ” จะยอมเป็นลูกมือ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” หรือเปล่า

ถ้ายอมก็ไปต่อได้

แต่ถ้าไม่ยอมอาจต้องหาบ้านเลขที่ใหม่

โดยหน้าเสื่อแล้ว มาคนเดียว กับมาเป็นทีม ไม่ต้องไปวิเคราะห์ให้มากความ หัวเดียวกระเทียมลีบตกกระป๋องชัวร์

สุดท้ายก็อยู่ที่ “ลุงป้อม” ว่าจะใช้งาน “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” แบบไหน

ยิ่งใกล้เลือกตั้งก็ยิ่งเห็นว่าพรรคไหนรอด พรรคไหนร่อแร่

ประมาท “ลุงป้อม” ไม่ได้เลยทีเดียว

แล้วทำไม ๔ กุมาร จึงกลับพลังประชารัฐ ทำไมไม่ไปรวมไทยสร้างชาติ

เพราะ ๔ กุมาร กับ “ลุงตู่” ยังคงให้ความเคารพซึ่งกันและกัน

การเมืองก็คือการเมืองครับ

ไปพลังประชารัฐไม่ใช่ทางรอด แต่เป็นทางเติบโตทางการเมือง

ว่ากันแบบไม่โลกสวย การเลือกตั้งนี้ รวมไทยสร้างชาติ เจอศึกหนักหลายด้าน แต่ที่หนักที่สุดคือความไม่พร้อมของตัวเอง

หากต้องการ ส.ส. ๕๐ ที่นั่งขึ้นไป “ลุงตู่” และแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังต้องทำงานหนักกว่านี้อีกหลายเท่าตัว

โอกาสเปิดอยู่เสมอครับ

แต่ที่ร่อยหรอลงไปทุกทีคือ เพื่อไทย

ดูเหมือนว่า แลนด์สไลด์จะค่อยๆ เบาลง เพราะกรรมเก่าที่สร้างไว้

ยังไม่เข็ดกับการเอา “ทักษิณ” กลับบ้าน

วันก่อน “จตุพร พรหมพันธุ์” แฉเรื่องดีลลับ เพื่อไทย พลังประชารัฐ ยื่นไส้เดือนยื่นกิ้งกือ พา “ทักษิณ” กลับบ้าน

“ทักษิณ” เลยสนองออกมาพูดด้วยตัวเอง

“…อุ๊งอิ๊งจะเป็นคนประกาศเองว่าผมกลับเมื่อไหร่ จะไม่มีการออกกฎหมายให้ผม ไม่มีการเกี๊ยะเซียะกับพลังประชารัฐเพื่อออกกฎหมายแน่นอน ผมสร้างตัวเองด้วยตัวเองมาโดยตลอด เรื่องที่จะให้ผมไปง้อคนคงยาก ผมช่วยเหลือตัวเองได้ และยังไงผมก็ต้องกลับ ไม่ไหว เพราะผมโดนกลั่นแกล้งตลอดเวลาที่ผ่านมา…”

บอกตรงๆ ครับ เป็นห่วง “อุ๊งอิ๊ง”

ในขณะที่ลูกสาว บอกว่า “เราจะเดินสายอุ้มท้องหาเสียงต่อไปเพื่อเป้าหมายแลนส์สไลด์ นี่คือสิ่งที่คือเป้าหมายที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจทำ” คนเป็นพ่อตั้งหน้าตั้งตารังแกลูก

จะหนักกว่า “ยิ่งลักษณ์” มาก!

ยุค “ยิ่งลักษณ์” พยายามพาพี่ชายกลับบ้านด้วยช่องทางรัฐสภา

คือมีกระบวนการรองรับ

แต่มาถึงยุค “อุ๊งอิ๊ง” ไม่อ้างอิงอะไรทั้งนั้น กฎหมายก็ไม่มี

ขอให้เป็นตามที่คิดไว้เถอะครับ…

ถึงเวลา “อุ๊งอิ๊ง” จะเป็นคนประกาศว่า พ่อจะกลับมาสู้คดีในไทย

แบบนี้ไม่มีปัญหา ตำรวจไปรอรับที่สนามบินส่งเรือนจำ เป็นอันเสร็จพิธี

ขึ้นศาลทีก็เบิกตัวมาสู้คดีที

สุดท้ายแล้วศาลตัดสินอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น

ไม่ผิดก็ออกไปเลี้ยงหลานได้

ผิดก็ติดคุก

จบแบบนี้สวย

แต่หาก “ทักษิณ” ยังฝันถึงการใช้วิธีพิเศษ ก็เตือนไว้ล่วงหน้า “อุ๊งอิ๊ง” จะเป็นนายกฯ ได้ไม่กี่วัน รัฐบาลพังพาบ

ตกลงนี่เรากำลังพูดถึงเรื่องของประเทศชาติ

หรือครอบครัวชินวัตร

“ทักษิณ” กำลังทำเรื่องการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องของ “พ่อ” สั่ง “ลูก” ทำตาม

ตั้งเป้าแลนด์สไลด์เพื่อแลกกับสิ่งนี้หรือ?

0 replies on “‘ทักษิณ’ คิด ‘อุ๊งอิ๊ง’ ทำ-ผักกาดหอม”