จากกรณีที่พรรคก้าวไกล ออกแถลงการณ์ คัดค้านการโยกย้าย หมอสุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ และประธานชมรมแพทย์ชนบท ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา โดยสงสัยว่ามีประเด็นทางการเมืองมาเกี่ยวข้องนั้น
ล่าสุด 27 มกราคม 2566 นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (Suphachai Jaismut) แสดงความเห็นในประเด็นข้างต้น ว่า
น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า
และเรื่องที่พึงระวัง
การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการประจำเป็นเรื่องปกติของระบบราชการ คนมีความรู้ความสามารถรับราชการอยู่ที่เดิมพัฒนาหน่วยงานให้บริการดี การโยกย้ายคนเก่งแบบที่ว่าไปช่วยพัฒนาที่อื่นประชาชนก็จะได้ประโยชน์ทัดเทียมกับเขาบ้าง คงจะเป็นไปไม่ได้ที่ข้าราชการท่านนั้นจะคิดว่าเก้าอี้หรือตำแหน่งนี้จะเป็นของตนตลอดชั่วกัลป์ เพราะการโยกย้ายข้าราชการผู้บังคับบัญชาย่อมยึดหลักกฎหมายและระเบียบต่างๆ ดูความเหมาะสมและยึดประโยชน์ประชาชน
ล่าสุด พรรคก้าวไกลออกแถลงการณ์คัดค้านการย้ายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ และประธานชมรมแพทย์ชนบท ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา มีผลตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2566 เป็นต้นไป โดยตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการย้าย ที่มีเรื่องของ “การเมือง” แอบแฝง และลงชื่อหัวหน้าพรรค คุณพิธา ว่ารับทราบกับแถลงการณ์ฉบับนี้
ผมเข้าใจท่าทีนี้ของพรรคก้าวไกล เพราะที่ผ่านมาหมอสุภัทร กับทางพรรคอนาคตใหม่ ไปจนถึงพรรคก้าวไกล ก็มีการเคลื่อนไหวสอดรับกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ขอยกตัวอย่างเช่นข่าวที่ปรากฏมาในวันที่ 22 กุมภาพันธุ์ 2563 ภายหลังมีการตัดสิน ให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ก็เป็นหมอสุภัทร ที่ออกมาชวนมวลชน ให้ลุกขึ้นมาคัดค้านการตัดสินของศาล ท่านโพสต์เฟซบุ๊ก ว่า
“เบื้องต้น ผมอยากเชิญชวนเราคนไทย ประกาศตัวตนความเป็นไทไม่ยอมรับรัฐบาลและเผด็จการรัฐสภา ด้วยการโพสต์ภาพ “ชูสามนิ้ว” เพื่อแสดงออกถึงจุดยืนของเรากันก่อน หากผู้คนกล้าประกาศตัว “ชูสามนิ้ว” กันเป็นล้านคน ย่อมสะเทือนซางของรัฐบาลไม่น้อย แล้วค่อยๆ ปรึกษาหารือเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย ใครทำอะไรได้ก็ทำ ร่วมตรวจสอบเลื่อยขาเก้าอี้เผด็จการจากทุกสารทิศกันต่อไป”
ไม่ผิดเลย หากจะบอกว่าคุณหมอ คือแนวร่วมคนสำคัญของพรรคก้าวไกล ที่มักจะตรวจสอบการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขอยู่บ่อยครั้ง โดยคุณหมอ ลืมที่จะตรวจสอบพฤติกรรมของคนในชมรม ทั้งเรื่องของผู้หลักผู้ใหญ่ในหน่วยงานของคุณหมอเอง ที่มีข่าวล็อกสเป็กการจัดหาชุดตรวจ ATK จนทางองค์การเภสัชกรรมต้องฟ้อง ปปช. แล้วไหนจะยังเรื่องของการที่ผู้ใหญ่ ในชมรมแพทย์ชนบทบางคน เมื่อครั้งเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดภาคใต้ ปรากฏว่าให้โรงพยาบาล ไปรับดูแลเคสผู้ป่วยโควิด 19 ในกรุงเทพ ที่สุดแล้ว ถูกร้องเรียนเรื่องปล่อยปละละเลยผู้ป่วย ที่มาพร้อมกับข้อสงสัยว่า โรงพยาบาลแห่งนั้น ได้ดูแลผู้ป่วยตามจำนวนที่เบิกเงินหลวงหรือไม่ ถึงวันนี้ เรื่องก็ยังคลุมเครืออยู่
เข้าใจว่าหมอสุภัทรเอง มีทัศนคติทางการเมืองเช่นไร บางเรื่อง ท่านก็ตรวจสอบกันเอาเป็นเอาตาย แต่บางเรื่องท่านนิ่งๆ ไป ไม่พูดถึง ทว่าที่มันชัดเจนคือ ตัวท่าน กับพรรคก้าวไกลนั้น นับว่ามีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพราะเคลื่อนไหวแบบสอดประสานกันมาตลอด
เมื่อครั้งพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ หมอสุภัทร ออกมาเป็นแกนนำค้าน
เมื่อหมอสุภัทรถูกย้าย พรรคก้าวไกล ก็ออกมาสกัด แบบนี้เรียกว่า
“น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า”
แต่พึ่งกันไป พึ่งกันมา มันก็มีเรื่องที่ต้องพึงระวัง เพราะสิ่งที่ท่านทำ มันอาจจะผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 185 ที่ระบุว่า
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ใช้สถานะหรือตําแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภากระทําการใดๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่าย หรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในเรื่องดังต่อไปนี้
(1) การปฏิบัติราชการหรือการดําเนินงานในหน้าที่ประจําของข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
(2) กระทําการในลักษณะที่ทําให้ตนมีส่วนร่วมในการใช้จ่ายเงินงบประมาณหรือให้ความเห็นชอบในการจัดทําโครงการใดๆ ของหน่วยงานของรัฐ เว้นแต่เป็นการดําเนินการในกิจการของรัฐสภา
และที่สำคัญคือ
(3) การบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย โอน เลื่อนตําแหน่ง เลื่อนเงินเดือนหรือการให้พ้นจากตําแหน่งของข้าราชการซึ่งมีตําแหน่งหรือเงินเดือนประจําและมิใช่ข้าราชการการเมือง พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
หากกระทำผิด ก็ย่อมมีโทษ ส่วนโทษจะไปถึงไหน ให้ระวังดีๆ นะครับ
#ด้วยความเป็นห่วง