เปลว สีเงิน
“เมืองไทย” ตั้งองค์การต่อต้านคอรัปชั่นกันมากมาย
แต่ “ไม่ได้เรื่อง” ซักราย
สู้ “ชูวิทย์” คนเดียวก็ยังไม่ได้
ถึงสไตล์บู๊ล้างผลาญ แต่ว่าได้งานกับบ้าน-กับเมือง!
วันก่อนเห็นบอก นอกจาก “จีนเทา” แล้วยังมี “ไทยเทา” ซึ่งตอนนี้ พากันลี้ภัยชั่วคราว ไปสุมหัวกันอยู่ที่ลอนดอนโน่น
“เท็จ-จริง” ผมไม่รู้
แต่เมื่อวาน เห็นคลิปวิดีโอจากเพจ “ท็อป นิวส์” เป็นภาพ “นอท กองสลากพลัส” ท่าทางกรึ่มจนแก่ดีกรีจัด ในงานเลี้ยง จับไมค์ตะโกน ว่า
ก่อนจากกันคืนนี้ ฝากไว้คำ….
“เรามันนักสู้ เวลาเจอปัญหา เวลาเจอทางตัน ไม่ต้องถามว่าทำยังไง ถามไปเลยว่า…เท่าไหร่?
(เสียงคนในงานโห่ร้องถูกใจ)
เงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่เงินซื้อได้ทุกอย่างครับ (เสียงโห่ร้องถูกใจอีก)”
ผมไม่ทราบเขาไปสุมกันที่ไหน?
แต่ท็อป นิวส์ ให้คำบรรยายภาพว่า……..
“นอท เหิม!!ปาร์ตี้กลางกรุงลอนดอน ตบหน้าข้าราชการไทย อ้าง เวลาเจอปัญหา ให้ถามว่าเท่าไหร่ เงินซื้อได้ทุกอย่างในไทย”
ฟังแล้ว “ขนลุก”!
โบราณว่า ความจริง “ไม่ตาย” แต่คนพูดความจริง ตายไปนักต่อนักแล้ว
แต่นอทไม่หรอก เพราะนอทไม่ได้พูดความจริง เพียงเอา “เรื่องจริง” มาตะโกนเท่านั้น
ราหูทับมฤตยูนี่ มีแต่เรื่อง “บังอบาย” ถูกแฉ
ก็ระวังกันนะครับ คนใหญ่-คนโตน่ะ คนไหน…เคยทำเลวไว้ลับๆ จะถูกลากออกมาแฉ
อย่างตำรวจแทบทุกหน่วยและกรมอุทยานฯ เป็นต้น
ชูวิทย์ ก็แฉ, นอท สลากพลัส ก็แฉ, และตู่-จตุพร ก็แฉ
ต้องขอบคุณพวกเขา….
ถือว่าคนเหล่านั้น มีคุณูปการเอื้อต่อการกวาดล้าง-เก็บขยะให้สังคมประเทศ!
ตอนนี้ “ตู่-จตุพร” แฉถี่รายวัน
แฉจน “โทนี่ วู๊ดซัม” หายไปจากจอ ทำเอาหมาเฝ้าหน้าคลับเฮาส์ เหงา..งื๊ดๆๆๆ!
“ตู่-จตุพร” นี่ ….
จากปี ๕๒-๕๓ ที่ทักษิณแทบจะทูนหัวให้เป็นลูกชายคนโต ชื่อ “พานแว่นฟ้าฝังเพชรแท้”
แต่ไม่รู้ “คดในข้อ-งอในกระดูก” กันอีท่าไหน “พานแว่นฟ้าฝังเพชรแท้” ถึงออกมา “ฝังกลบพ่อทักษิณ” ที่เคยหวานชื่น จนขื่นเกินข่มขณะนี้
ไส้ทักษิณมีกี่ขดๆ จตุพรลากออกมาหมด
จนพ่อค้าตือฮวนร้อง..เฮ้อ เพราะมีแต่ไส้เน่า ถึงเอาไปต้มเลี้ยงหมา หมาก็ไม่แดก!
ที่ผมติดใจ “ตู่-จตุพร” แฉวันแรกมีอยู่เรื่อง เกี่ยวกับตัวคนคือ คนที่คุณจตุพรพูดถึงนั้น อยากรู้จัง ว่ามันคือใคร?
ที่คุณจตุพร บอกว่า….
“………..การต่อสู้ของประชาชนเมื่อปี ๒๕๕๓ ไม่ได้อะไรที่คุ้มค่าตามเจตนารมณ์เลย
รัฐบาลในยุคนั้น (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ยังไม่กล้าลงนามกับศาลอาญาระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
หรือที่เรียกว่า ICC (International Criminal Court)
แค่กลัว พลเอกประยุทธ์ จะยึดอำนาจ
แต่สุดท้าย ก็เอาตัวไม่รอด….
ถูกพลเอกประยุทธ์ยึดอำนาจจนได้ อีกทั้ง ไม่สร้างขบวนการต่อสู้ของประชาชน
แล้วยังไปแบ่งแยกและทำลายขบวนการของประชาชนในแต่ละที่อีกด้วย
มีคนมาถามผมว่า ทำไมคนเสื้อแดงกลายเป็นคนเสื้อส้มจำนวนมาก ผมเล่าแบบขำๆ และเจ็บใจตัวเอง ว่า
สมัยก่อนพรรคอนาคตใหม่ (ก้าวไกลปัจจุบัน) ตึกติดกับพรรคเพื่อไทย
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มาเก็บเสื้อแดงที่ถังขยะหน้าเพื่อไทย ไปล้างทำความสะอาด
เอาไปใส่ แล้วเอาเสื้อส้มมาให้ใส่…..
ซึ่งจะสังเกตว่า หลังปี ๒๕๕๔ มา ไม่ได้ใช้ขบวนการเสื้อแดงในการหาเสียงเลย
ไม่ว่าจะไปในฐานะพรรคเพื่อไทยหรือพรรคไทยรักษาชาติที่ถูกยุบก็ตาม
แต่มาครั้งนี้ เพื่อไทยต้องการเสียงแลนด์สไลด์
ก็ปลุกคนเสื้อแดงขึ้นมาใหม่อีก
เหมือนปลุกผี ที่เคยถูกทอดทิ้งขว้างไปแล้ว และคงเพิ่งนึกได้ “เวลาอยาก ก็ต้องการ เมื่อไม่อยาก ก็ทิ้งขวางไป”
การเรียกร้องความยุติธรรมให้คนเสื้อแดงในเหตุการณ์ชุมนุม เมื่อปี ๒๕๕๓ คุณ (ยิ่งลักษณ์) ไม่ได้กระทำเลย
ผมทนเยอะแยะมากมาย ความจริง คดีก่อการร้ายที่ “ศาลอุทธรณ์” ยกฟ้องนั้น
จำเลยที่หนึ่ง คือ ทักษิณ ส่วนผม เป็นจำเลยที่สาม
แต่ “อัยการ” ไม่สั่งฟ้องทักษิณ
ซึ่งต่อมา “อัยการคนนี้” ก็เคยเป็นแคนดิเดตนายกฯ และเป็น รมต.หมายความว่าอย่างไร?…..”
————————–
น่าหยิกมั้ยเนี่ย…จตุพร?
ไหนๆ จะแฉทั้งที ยัง “อมเปลือก” ขยักไว้ให้ต้องขยิกถามอีกว่า
“อัยการคนที่สั่งไม่ฟ้องทักษิณ” แล้วได้เป็น “แคนดิเดตนายกฯ” คนนั้น
มัน คือใคร?
ประชาชนจะได้จดชื่อลงบัญชีหนังหมาไว้ อย่าให้มันได้ไปผุด-ไปเกิด มาเป็นคนอีก!
คุยสัพเพเหระกันอีกซักเรื่องนะ เพราะติดพันมาแต่วาน คือเรื่อง “แบม-ตะวัน” อดข้าวในคุก”
คนส่วนใหญ่มองว่า นี่เป็นแผนตื้นๆ เพื่อหาเสียงของพรรคก้าวไกล ที่ “ธนาธร-ปิยบุตร-พิธา” ไม่ยอมอดข้าวด้วย แต่เรียกร้องให้คนอื่นออกมา
ก็ช่างเขาเถอะ มันเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลน่ะ
“แบม-ตะวัน” ก็เหมือนกัน
“จะตาย-ไม่ตาย” ก็ช่างเขาเถอะ ในเมื่อศาลให้ประกันแต่ไม่ยอมให้มีประกันเอง
อยากอยู่เพื่อสร้างสตอรี่เป็นวีระสตรีตายในคุก
มันก็เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลของเขา ก็ปล่อยให้เขาได้ตายสมใจ คาน้ำเต้าหู้เย็นตาโฟเถอะ
แต่จะตายพราะ “อดข้าว-อดน้ำ” ในคุกหรือไม่ มีคำตอบจาก Street Hero V3 ดังนี้
………………………………..
Street Hero V3
ความจริงเรื่องการอดอาหารในคุก?
ผมได้พูดคุยกับนักโทษที่เคยอยู่ร่วมห้องกับเพนกวินและแก๊งสามนิ้ว ได้ความดังนี้
1.ที่อดคือ ไม่กินอาหารหลวงที่เรือนจำจัดให้ แต่มันสามารถซื้อกินอาหาร ขนม น้ำ ที่มีขายในเรือนจำได้วันละ 500 บาท/คน ไม่รวมของที่ญาติซื้อฝากจากข้างนอกได้ทุกวัน มีทั้งปลาเผา ไก่ ย่าง ส้มตำ ถ้าดูจากน้ำหนักตัวพี่คิดว่ามันจะอดไหม
2.มันพยายามเขียนร้องเรียนหาเรื่องเรือนจำ เพราะถือว่า มีทนายมาหาทุกวัน ทำให้ผู้คุมไม่มีใครอยากยุ่งด้วย
มันจึงกลายเป็นมาเฟียในคุก เพราะมีทั้งเงิน มีทนาย และมีสื่อ เหนือนักโทษคนอื่น
3.มันพยายามทำตัวป่วย มีโรค เพื่อที่จะได้ย้ายจากห้องขังปกติ ไปนอนในสถานพยาบาลในคุก เพราะที่นอน หมอน มุ้ง สะดวกสบายกว่า ไม่ต้องมาแออัดนอนกับนักโทษคนอื่นๆ
4. นักโทษในคุก ก็ไม่มีใครอยากคบมัน เพราะหลายๆ คน รอการอภัยโทษ ดังนั้น พวกคดีเกี่ยวกับสถาบันจึงเป็นที่รังเกียจ
แต่บางคน ต้องแกล้งสนิท เพราะหวังได้กิน ได้ใช้กับของที่มันมีอยู่
เรื่องที่เกิดขึ้นในคุก มันเป็นเรื่องภายใน
ดังนั้น นักโทษ ทนาย และสื่อ จะโกหกอะไรก็ได้ เพราะไม่มีใครรู้ความจริงทั้งหมด ขอให้เสพข่าวอย่างมีสติ
………………………….
“แซ็ง-ฌุสต์” บอก
คนไทยรู้ทัน งั้นกูไปปฎิรูปกะเมียที่ปารีสดีกว่า!
เปลว สีเงิน
๒๕ มกราคม ๒๕๖๖