ใต้กระโปรงประชาธิปไตย – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

เยาวราชนี่…..
เรียกว่าฮิต “ออลเดย์-ออลไนท์” ไม่แค่ตรุษจีน หากแต่ทุกเทศกาล และตลอดกาล
คุยได้เลย….
ไม่มี “ไชน่า ทาวน์” ในประเทศไหน “ดัง” เท่าเยาวราช “ไชน่า ทาวน์” ของเมืองไทย
เคล็ดลับ “ความดัง” ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว จนร่ำลือเป็นไฟลามโลก หลายคนบอกว่า เพราะ “สตรีทฟู้ด”
ผมว่า นั่นแค่ความหลากหลาย

สตรีทฟู้ดนั้น ประเทศไหนก็มี ที่มาเลย์ สิงคโปร์ เวียดนาม ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น และฯลฯ ก็มีเหมือนๆ กัน
เรียกว่า “เรามี-เขาก็มี”

และพูดกันตรงๆ ที่ประเทศอื่นเขาเป็นระบบ-ระเบียบ ดูสะอาดกว่าของเราด้วยซ้ำ
แต่มีอย่างหนึ่งที่ “เรามี” แต่เขา “ไม่มี”
นั่นคือ “เสน่ห์ความเป็นไทย” ที่เรียกว่า “น้ำใสใจจริง”

พ่อค้า-แม่ขายไทยไม่ได้มองลูกค้าเป็นเหยื่อที่จ้องเชือด
หากแต่มีทัศนคติต่อลูกค่าในฐานะ “คนซื้อ-คนขาย” มีน้ำจิต-น้ำใจ ไม่เอารัดเอาเปรียบต่อกัน (มากนัก)

ยิ่งกับคนต่างชาติ พ่อค้า-แม่ขาย จะทำหน้าที่ “เจ้าบ้าน” ที่ดี ดูแลเป็นพิเศษ
เรื่องภาษา “ไม่เป็นปัญหา

คนไทยใช้ “ภาษาสากล” สื่อสารได้เก่งและดีที่สุดในโลก
คือ “ภาษากาย” แค่เติมยิ้ม กุลี-กุจอ หยิบนั่น-ยื่นนี่ให้ ต่างชาติก็เข้าใจและพอใจ
แถม “ติดอก-ติดใจ” คนไทยนอกจากใจดีแล้ว ยังซื่อสัตย์และนิสัยดีด้วย!

ก็มีบ้าง ที่เห็นเป็นต่างชาติ ก็ค้าขายแบบ “เชือดเขา”
แต่มีน้อย เมื่อเทียบกับหลายๆ ชาติ ของไทยแทบไม่เป็นเปอร์เซ็นต์เลย!

บางท่านอาจบอก ผมยอคนไทยด้วยกันจนเวอร์
ขอย้ำ “เรื่องจริง” ไม่ยอ และไม่เวอร์

ถ้าเราไม่เคยออกไปสัมผัสโลกภายนอกเลย คือไม่เคยไปเที่ยว “บ้านอื่น-เมืองอื่น” อยู่แต่เมืองไทย “บ้านตัวเอง”
เห็น สัมผัส กับความเป็น “บ้านตัวเอง” จนชินชา เบื่อ เซ็ง

โน่นก็ไม่ดี นี่ก็เลว….
เมืองไทยไม่มีอะไรดีซักอย่าง ล้าหลัง ไม่เป็นประชาติ๊บไตย สู้ประเทศอื่นไม่ได้ อย่างยุโรป-อเมริกา เห็นในหนัง ในเฟซ หรูหรา แหม…มันอลังการ

ไม่อยู่แล้วเมืองไทย
ไปอยู่ประเทศอื่น ที่พัฒนาแล้ว เป็นประชาติ๊บไตยดีกว่า

ไปควานกากตั๋วเครื่องบินจากถังขยะที่ไหนก็ไม่รู้ ถ่ายรูปมาโพสต์เฟซอวด …ลาแล้วกะลาแลนด์!
มีทั้งพวกรุ่นใหม่ดัดจริต ทั้งพวกดารากระแดะ ทั้งพวกพ่อรวยแต่ลูกป่วยทางจิต อวดเท่ “ย้ายประเทศ”

ตอนไป ก็โพสต์อวดหรา
แต่พักเดียวแหละ เหมือนหมาหนาวฝน หลบๆ ซ่อนๆ ซมซานกลับมา จากที่ว่า “ไทย-กะลาแลนด์”
ทีนี้ตาสว่าง เห็นไทยคือ “แดนสวรรค์” ขึ้นมาทันที!

เพราะอะไร?
เพราะได้เห็น-ได้สัมผัส ได้รับรู้ความจริงเชิงเปรียบเทียบด้วยตัวเองว่า ประชาติ๊บไตยบ้านเขา กับเผด็จการบ้านเรา
แท้จริงแล้ว…..
อย่างเขา คือ “ประชาติ๊บไตยป่าเถื่อน”

ไทยเรานี่แแหละ คือ “ประชาธิปไตยคุณธรรม”!
เพราะการไปอยู่ ไปรู้ ไปเห็น ได้สัมผัสวิถีชีวิตประเทศนั้นๆ ด้วยตัวเอง การได้สัมผัสโลกกว้างเป็นตัวอย่างเปรียบเทียบนั้น
มันทำให้ “โลกทัศน์เปิดกว้าง”

เมื่อโลกทัศน์กว้าง คือโลกทัศน์เปิด ก็จะพบความจริงว่า คำว่า สิทธิเสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ ประชาธิปไตยบ้าบอนั้น
มันแค่ “นิยายตะวันตกหลอกเด็ก”

แค่เอาชีสเค้กบูดๆ ชิ้นเดียวยัดปาก แล้วอ่านให้ฟัง พวกเด็กงั่งก็เคลิ้ม เชื่อว่า ไอ้ความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันมีอยู่จริง!

พวกที่ด่าบ้านตัวเองว่ากะลาแลนด์ แล้วย้ายประเทศไปเจอนรกที่เป็นจริงนั้น อย่าเทียบว่าเป็น “นกน้อยในกรงทอง” เลย
ต้องเทียบว่า สภาพต่ำชั้นกว่า “หมาฝรั่งขี้เรื้อน” ของบ้านเขาซะอีก!

เลิกพูด เลิกคิด เลิกเพ้อฝัน ไปเถอะ ไอ้เรื่องสิทธิมนุษชน “เสรีภาพ-ภารดรภาพ-เสมอภาค” ตวักตะบวยอะไรนั่นน่ะ

มันไม่มีอยู่ในง่ามตูดเทพีสันติภาพ หรือบนยอดหอไอเฟล หรอก ปู่ไปโง่มาแล้ว ไอ้หลานๆ ทั้งหลายเอ้ย อย่าโง่หลงไปค้นหาอย่างที่ปู่เคยไปค้นหามาแล้วเลย

บอกให้เอาบุญตรุษจีน!
ไม่มีประเทศไหนในโลกจะ “วิเศษ-สุดยอด” เท่าประเทศไทยหรอก ในต่างประเทศน่ะ ซื้อยาแก้ปวดกินเองซักเม็ดก็ยังไม่ได้

เรื่องอาหารการกินเหมือนกัน
ที่จะมีให้ซื้อกิน ๒๔ ชั่วโมงเหมือนเมืองไทยน่ะ ฝันไปเถอะ

ถ้าทนหิวไม่ไหว ก็ต้องคว้านท้อง ควักไส้ตัวเองนั่นแหละทำเป็นไส้กรอก!
เวลานี้ ใครที่ติดตามข่าวสารโลก จะทราบว่า “โลกาวินาศ” เกิดขึ้นแล้ว

ไม่ใช่ที่บ้านเรา แต่เป็นที่ยุโรปและสหรัฐฯ!
ใช้ “ยูเครน” ทำสงครามตัวแทน “สหรัฐ-ยุโรป” โดยดันตูด “นาโต” ออกหน้า
เรียกว่า ๑๐๐ รุม ๑

ปรากฎว่า ๑ ชิลๆ แต่ ๑๐๐ ที่รวมหัวคว่ำบาตรรัสเซีย กลับฉิบหายวายป่วง ทั้งเศรษฐกิจ ทั้งการเงิน การคลัง การพลังงาน

เงินเฟ้อ สินค้าแพง ขาดแคลน คนตกงาน วิกฤตทั้งอาหารการกิน ประชาชนออกมาชุมนุม เดินขบวนประท้วง
สหภาพนัดหยุดงาน ทั้งฝรั่งเศส อังกฤษ โปรตุเกส สเปน ไม่เว้นหลายๆ รัฐในสหรัฐฯ

รูปการณ์ มันจะหนักหนากว่าโควิดระบาด ผมไม่สันทัดการโลก แต่ประเมินแล้ว นับจากนี้ไปอีกไม่เกิน ๓-๕ ปี
โรค “เศรษฐกิจโลก” พังทะลาย….
มันจะระบาด ลุกลามไปทั้งโลก ใครตั้งรับทัน อาจรอด แต่ถ้าไม่เตรียมตัวรับมือแต่เดี๋ยวนี้ เห็นทีจะรอดจากผลประทบยาก!

แต่ไทยเราที่โชคร้ายจาก “ไทยชังชาติ” มาร่วม ๑๐ ปี จะโชคดีในโชคร้าย
เพราะไทยเป็นประเทศ “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” เสียอย่างเดียว “ในสภา” มีหมาในคอกเป็นฝูง ถึงลำบากยากแค้นยังไง ก็ไม่ถึงกับอดตาย

แต่ถ้าหยุดตีกันซักพัก บริหา ร”ตั้งรับเชิงรุก” ดีๆ
โอกาสที่ไทยจะเป็นประเทศ “เศรษฐีสงคราม” มีมากทีเดียว!

“ธนาธร-ปิยบุตร” ไปหลบอยู่ทางไหน
ไปร่วมแสวงหาเสรีภาพชุมนุมกับพวกสหภาพที่ฝรั่งเศสหรือเปล่าเนี่ย?

หวังว่า คงไม่ใช่แผนหาเสียงให้ “ก้าวไกล” ของนายพิธา โดยหลอกเด็กให้สร้างนิทานในคุก “อดข้าว-อดน้ำ” เพื่อสร้างจุดขายนะ

มันเสร่อ…ไร้ราคา ยิ่งกว่ากากขยะ รู้มั้ย ที่จะใช้หลอกคนให้ออกมาลงถนน มันไม่ได้แล้วแหละ
ทางที่ดี เพื่อมุกไม่แป๊ก ขอแนะให้

“ธนาธร-ปิยบุตร-พิธา” มุดออกมาจากใต้กระโปรงเด็ก “อดข้าว-อดน้ำ” เอง
ผมว่า บางที่อาจจุดติดกว่านะ!

วันๆ หมกมุ่นแต่โหนเด็กเป็นเครื่องมือ “กัดกร่อนสถาบัน” เปลี่ยนระบบ-ระบอบ อยู่อย่างนี้ ไม่ดีหรอก
ช่วยไปเตือนเด็ก ๒ คนนั่นด้วย

ล่วงเกินสถาบันยังไม่หนำใจรึไง?
“ขอถอนประกันตัวเอง” ให้เป็นเงื่อนไข แล้วแถลงการณ์ บิดเบือนข้อเท็จจริง ละเมิดอำนาจศาล ที่ปรากฎนั่น
เจตนาต้องการให้เกิดกรณี “คุกในคุก” ปั่นประเด็นเพิ่มขึ้นอีกหรืออย่างไร?

เอาละ….
คงไปเที่ยวตรุษจีนกันหมดแล้ว ปล่อยให้ผมคุยคนเดียว ฉะนั้น วันนี้ คุยแค่นี้พอ

ว่าจะคุยเรื่อง “เยาวราช” นอกจากเป็นตลาดเที่ยวตรุษจีนแล้ว ยังเป็น “ตลาดนัดนักเลือกตั้ง” ก็ขอยกยอดไปพรุ่งนี้ดีกว่า

เห็นเขาว่า “ปาดหน้าเค้ก” กันทุกวัน เขาปาดกันจริงหรือไม่ เอาไว้ตามต่อภาค ๒!

เปลว สีเงิน

๒๓ มกราคม ๒๕๖๖

Written By
More from plew
“เมากัญชา” หูตาลาย-เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน ลุงป้อมนี่…. สงสัยมีมนต์ “เรียกเนื้อ-เรียกปลา” ของพระสังข์ทองแฮะ! ตั้งแต่ยกมือไหว้ ขอร้องลูกพรรค “อย่าขาดประชุมสภา” วันก่อนเท่านั้นแหละ ปรากฏว่า “พรึ่บ”
Read More
0 replies on “ใต้กระโปรงประชาธิปไตย – เปลว สีเงิน”