มีลมหายใจเป็นของตนเอง-สันต์ สะตอแมน

www.plewseengern.com

สันต์ สะตอแมน

เรื่องมึงกูไม่รู้..เรื่องกูมึงรู้เหม็ด

นี่..ไม่รู้ใครได้ผ่านหู-ผ่านตามาบ้างหรือยัง ส่วนผมเปิดฟังมาหลายรอบ-หลายเที่ยวจนทำท่าจะร้องตามนักร้องเจ้าของเสียง คือ “บ่าวยาว นาโยง” ตลกร่างโย่งของวงดนตรี “ศรีวิชัย” ได้แล้วเชียว!

เนื้อเพลงอาจจะฟังดูหยาบไปหน่อยสำหรับคนภาคอื่น-ถิ่นอื่น แต่กับคนปักษ์ใต้ส่วนใหญ่จะคุ้นชินหู และผมเชื่อน่าจะได้รับความบันเทิง-ความสนุกกับเนื้อหา-ลีลา-น้ำเสียงของบ่าวยาวอยู่มาก..

ไม่งั้น คงไม่ฮิตดังสนั่นยูทูปอยู่ในเวลานี้หรอก!

และที่หยิบมาคุยวันนี้ ก็ด้วยได้ติดตามข่าวอดีตนางเอกละครจักร์ๆ วงศ์ๆ “แยม” ธมลพรรณ์ ภานุชิตพุทธิวงศ์ กับสามีนักธุรกิจ นายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ หรือ “อั้ม”..

ที่ถูกกองปราบรวบตัวส่งเข้าคุก ข้อหารวมกันฟอกเงิน และโดนยึดทรัพย์ไปกว่า 700 ล้านนั่นแหละ!

ซึ่งนายอั้มสามีอดีตดาราแยมนั้น ดันเป็นน้องชายแท้ๆของ “หมอโอ๋” ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงจิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น รพ.รามาธิบดี..

เจ้าของเพจดัง “เลี้ยงลูกนอกบ้าน” ที่เคยโพสต์ “สอนลูกให้โตไปไม่โกง” และมียอดผู้ติดตาม 7-8 แสนคน!

ความจริง..น้องชายถูกจับก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพี่สาว แต่ด้วยหมอโอ๋ได้โพสต์หลังน้องชายถูกจับ ประมาณว่าครอบครัวไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน และน้องชายก็มีเงินจากทำธุรกิจมือถือ และคริปโต

เป็นบ้านที่มีฐานะพอสมควร.. ไม่ได้ลำบากเรื่องการเงิน

และ..ไม่ทันข้ามวัน ชาวเน็ตก็พากันรุมถล่ม ทั้งถากถาง เย้ยหยัน เหยียด บ้างก็ว่าสอนแต่ลูกไม่สอนน้องตัวเองบ้างหรือ บ้างว่าสอนน้องยังไงให้โกง บ้างสงสัยหมอจะลืมสอนน้อง

บ้างก็ให้ไปเปิดเพจเฟซบุ๊ก “เลี้ยงน้องในคุก” บ้างก็ว่า เรื่องลูกคนอื่นรู้ไปหมด แต่เรื่องน้องชายตัวเองกลับไม่รู้..ทำอะไร?

ตรงนี้แหละ ที่ทำให้ผมนึกถึงเพลงนี้ขึ้นมา เพราะมันเข้ากับลักษณะที่บ่าวยาว นาโยง ร้อง.. “เรื่องกู มึงรู้ฉาด ลูกอีนักปราชญ์แสนรู้ รู้แต่เรื่องของกู แต่กูไม่รู้เรื่องของมึง”

อ้อ..ถึงตอนนี้กู เอ๊ย ผมก็ได้รู้ล่ะว่า เหตุหมอโอ๋โดนถล่มยับต่อเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งก็ด้วยการ “เอาคืน” จากกลุ่มคนที่รัก-ชอบในตัว “ลูกหนัง” ลูกสาวของตั๊ว-ศรัณยู วงศ์กระจ่าง อดีตพระเอกผู้ล่วงลับ

หมอโอ๋ได้เคยพูด-เขียนอะไรเกี่ยวกับ “ลูกหนัง” และทำไมถึงถูกเอาคืน ลองไปค้นหาดูเอาเองล่ะกัน แล้วจะรู้..กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา!

ครับ..แต่ที่ผมและท่านผู้อ่านยังไม่รู้เสียที ก็เรื่องการตัดสินใจของนายกฯ ลุงตู่ เพราะถึงนาทีนี้ ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากปาก จะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่..

แค่ถูกสื่อถามกรณีมีข่าวนัดไปกินข้าวกับ 40 ส.ส. พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังทำเสียงดุ.. “ไปเอาข่าวมาจากไหน”?

แต่เอาล่ะ..เมื่อยังไม่ถึงเวลาที่จะพูด-จะบอกก็ไม่เป็นไร “กองหนุน” ก็คงจะพอเข้าใจได้ถึงเหตุผล และยังพออุ่นอยู่บ้างที่เห็นข่าวคุณไตรรงค์ สุวรรณคีรี จะไปสมัครเป็นสมาชิกรทสช.ในวันสองวันนี้

อย่างน้อย ในฐานะ-ตำแหน่ง “ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี” คุณไตรรงค์คงจะอยู่ “แน่งๆ ไม่แหลงไหร” อีกต่อไปไม่ได้ เมื่อย่างเท้าเข้าพรรคแล้ว ก็ต้องมีบ้างแหละสักคำสองคำที่ต้องแหลงออกมา

ก็..รอฟังดูว่าคุณไตรรงค์จะแหลงไหร นอกจากที่เคยได้แหลง (โพสต์) ก่อนหน้า.. “ผมจึงอยากขอโอกาสมีลมหายใจเป็นของตนเองสักครั้งหนึ่งในบั้นปลายชีวิตทางการเมืองของผม”

น่าติดตามด้วยระทึกนะ!

0 replies on “มีลมหายใจเป็นของตนเอง-สันต์ สะตอแมน”