บทใหม่ของ ‘๓ ป.’ – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ว่ากันตามกฎหมายพรรคการเมือง

“ลุงตู่” ไม่เคยอยู่พรรคพลังประชารัฐ ไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนี้

และไม่เคยสังกัดพรรคการเมืองใดๆ

การที่ “ลุงป้อม” บอกว่า “ท่านนายกฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคตั้งแต่แรก” มันก็ถูกต้องนะครับ

ฉะนั้น “ลุงตู่” จะไปสังกัดพรรคไหน ไม่ถือว่าเป็นการย้ายพรรค

แต่จะเป็นการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเป็นครั้งแรก หวยก็น่าจะออกที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ค่อนข้างแน่นอน

มีเสียงเรียกร้องจากกองหนุนว่า “ลุงตู่” ต้องชัดเจนได้แล้ว จะไปพรรคไหนก็เอาให้ชัด อย่าปล่อยให้บรรยากาศอึมครึมแบบนี้

ยังหรอกครับ!

ไทม์ไลน์ยังมาไม่ถึง หากฝืนจะเสียมากกว่าได้

เอาเป็นว่าเส้นทาง “ลุงตู่” ก็คล้ายๆ “ป๋าเปรม” เป็นนายกฯ ๘ ปีโดยไม่สังกัดพรรคการเมืองใดเลย

ต่างกันเล็กน้อยตรงที่มาตามกติกาในรัฐธรรมนูญที่ต่างกัน

กรณี “ป๋าเปรม” พรรคร่วมรัฐบาลเทียบเชิญ นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

และนั่งไป ๓ สมัย

ส่วนกรณี “ลุงตู่” รัฐธรรมนูญกำหนดให้พรรคการเมือง ส่งรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อ “ลุงตู่”

หลังเลือกตั้งก็เอาชื่อไปประกวดกันในที่ประชุมรัฐสภา

พรรคร่วมรัฐบาลเลือก “ลุงตู่” เป็นนายกฯ

วันนี้กองเชียร์ใจร้อนแล้ว คงเพราะหลายๆ พรรคการเมืองมีความชัดเจน ไปไกลถึงขนาดประกาศนโยบายพรรค อยากให้ “ลุงตู่” เปิดตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติเร็วๆ

ใจเย็นๆ ครับ

เพราะหากวันนี้ “ลุงตู่” นั่งแถลงข่าวกับ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ว่า สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว ผลที่ตามมาอาจเป็นสิ่งที่หลายคนคาดไม่ถึงแน่นอน

วานนี้ (๑๓ ธันวาคม) ประชุมคณะรัฐมนตรี “ลุงป้อม” นั่งเป็นประธานแทน หากสังเกตดีๆ บรรยากาศของรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐบางส่วน คึกคักทีเดียว

ยืนหน้ากระดานเรียงหนึ่งต้อนรับ “ลุงป้อม” เห็นแล้วน่าอิจฉาจริงๆ ที่มีคนรักมากมายขนาดนั้น

ครับ….เขาประกาศความเป็นพลังประชารัฐ

ฉะนั้น “ลุงตู่” อยู่นิ่งๆ บนภูดูหมูกัดกันไปก่อน ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ

แต่ลอง “ลุงตู่” ประกาศตัวซิครับ

รัฐมนตรีที่จะตาม “ลุงตู่” ไปรวมไทยสร้างชาติ จะรู้สึกว่าอยู่คนละบ้านกับรัฐมนตรีที่ยังอยู่พลังประชารัฐหรือเปล่า

ส.ส.ยิ่งแล้วใหญ่ เดี๋ยวก็แบ่งก๊กตีกันตาย

ยิ่งสภาล่มบ่อยแบบนี้ ใครจะคุมใครได้

ต้องยุบสภาในช่วงเวลาที่ยังไม่พร้อม รับรองหืดขึ้นคอแน่

หรือถ้ายังมองภาพไม่ออก ก็ลองย้อนกลับไปยุครัฐบาลหม่อมน้อง

หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี ในนามพรรคกิจสังคม มี ส.ส.อยู่ในมือแค่ ๑๘ เสียงเท่านั้น

แม้รัฐบาลจะถูลู่ถูกังอยู่ได้ร่วมปี แต่ คึกฤทธิ์ หน้าเขียวเกือบทุกวัน เพราะบริหารยาก พรรคร่วมรัฐบาลบีบตลอดเวลา

แล้วลองนึกภาพ “ลุงตู่” เป็นนายกรัฐมนตรี สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ยังไม่มี ส.ส.อย่างเป็นทางการในมือสักคนเดียว

อำนาจต่อรองทางการเมืองของ “ลุงตู่” ไม่เหลือครับ

ฉะนั้น “ลุงตู่” ยังมีเวลามากพอที่จะสังกัดพรรคการเมือง

หากสภาอยู่ครบวาระ ภายใน ๗ กุมภาพันธ์ ก็ชัดแล้ว

หรือยุบสภาวันไหน “ลุงตู่” ก็ชัดเจนตอนนี้

แต่ขณะนี้ ท่องไว้เลยครับ “ยัง”

มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ “ลุงตู่” ไม่เหมือน “ป๋าเปรม”

ช่วงปลายรัฐบาลป๋าเปรม กำลังจะมีการเลือกตั้ง มาพร้อมกระแสการคัดค้านการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ ๔ จากกลุ่มนักวิชาการ

หลังการเลือกตั้งในคืนวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๓๑ หัวหน้าพรรคการเมืองที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล มีพรรคชาติไทยเป็นแกนนำ ได้เข้าพบ “ป๋าเปรม” ที่บ้านพัก เชิญให้กลับไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อีกครั้ง

แต่ “ป๋าเปรม” บอกว่า ผมพอแล้ว

ส่วน “ลุงตู่” จะไปต่ออีก ๒ ปี กับพรรครวมไทยสร้างชาติ

ก็เป็นก้าวย่างสำคัญ ที่ต้องคิดให้รอบคอบ

การเป็นนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศมาอย่างยาวนาน ย่อมมีเสียงต้านเป็นธรรมดา

หมากของ “๓ ป.” ณ เวลานี้ชัดเจนขึ้นมาเป็นลำดับ

แยกกันอยู่ ร่วมกันตี

“ลุงป้อม” ถึงได้ตอบนักข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลว่า

“…ท่านนายกฯ ไม่ได้อยู่ในพรรคพลังประชารัฐ เป็นเพียงพรรคพลังประชารัฐสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ส่วนท่านจะอยู่หรือไม่อยู่ ก็เป็นเรื่องของท่าน เพราะท่านก็ไม่ได้อยู่อยู่แล้ว ใช่ไหม…”

มุมหนึ่งดูเหมือนไม่มีเยื่อใย

แต่อีกมุมหมากของ “๓ ป.” วางไว้หลายชั้นหลายแผน

พูดง่ายๆ ก็เพื่ออนาคตของ “๓ ป.” เอง

เพื่อให้มีหลักประกันว่า วันหนึ่งเมื่อลงจากอำนาจ จะไม่มีการไล่ตามเช็กบิล

การร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ก็อาจเป็นหนึ่งในแผน กรณีที่พรรคพลังประชารัฐ ได้เก้าอี้ ส.ส.ไม่ถึงเป้าที่วางไว้

และไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้

มีคนบอกว่า ๓ ป.แตกกันแล้วจริงๆ

หากมองย้อนกลับไปช่วง ๘ ปีที่ผ่านมา สิ่งที่ ๓ ป.ทำคือ ความรับผิดชอบร่วมกัน

ยากที่จะผลักให้ ป.ใด ป.หนึ่งรับผิดชอบ

ฉะนั้นต้องกระเตงกันไป

แต่ใช่ว่าจะต้องอยู่ขั้วการเมืองเดียวกันตลอด

ครับ…การเมืองหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า ความเป็น ๓ ป.ก็มีโอกาสที่จะซับซ้อนมากกว่าเดิม โดยเฉพาะการแลนด์สไลด์ ของพรรคเพื่อไทย

หากเกิดขึ้นจริง ก็มีโอกาสสูงที่จะได้เห็น ๓ ป.บางคนอยู่ในรัฐบาล อีกคนเป็นฝ่ายค้าน

การเมืองไม่ใช่เรื่องตามสั่งครับ เพราะมีเงื่อนไข และองค์ประกอบที่นอกเหนือการควบคุมมากมาย โดยเฉพาะการเลือกตั้ง

มันอยู่ที่ฝ่ายไหนทำได้ตามเป้ามากกว่ากัน

แต่ตอนนี้ศึกยังไม่เริ่มอย่าเพิ่งนับศพทหาร

ไอ้ที่บอกว่าแลนด์สไลด์ถึงเวลา อาจได้ยืนมองหน้าตาปริบๆ ไม่มาตามนัด

รอให้ฝุ่นหายตลบ

ให้ ส.ส.ย้ายพรรคให้เสร็จ ควบรวมพรรคหนีตายกันให้เสร็จก่อน

เมื่อนั้นจะรู้ขุมกำลังที่แท้จริง

Written By
More from pp
คาร์กิลล์ มอบไข่ไก่ 1 ล้านฟอง ส่งต่อความห่วงใยชาวโคราชในภาวะโควิด-19
นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานรับมอบไข่ไก่ จำนวน 1 ล้านฟองจาก สุเกียรติ กิตติธรรมโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจคาร์กิลล์ ประเทศไทย และ นายอภิชัย ศรีสว่าง ผู้จัดการทั่วไป...
Read More
0 replies on “บทใหม่ของ ‘๓ ป.’ – ผักกาดหอม”