‘คุณากร’ ถามรัฐบาลเหตุใดภูมิใจบัตรคนจนเพิ่ม ทั้งที่คนจนพุ่ง คนตกงานเพียบ หนี้สาธารณะเกิน 10 ล้านล้านอีก100ปี ก็ใช้หนี้ไม่หมด รวยกระจุก จนกระจาย เหลื่อมล้ำติดอันดับต้นๆของโลก
22 กันยายน 2565-นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ส.ส.สุรินทร์ และรองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่รัฐบาลออกมายืนยันว่าโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อแจกเงิน แต่เป็นโครงการที่มุ่งจัดสรรสวัสดิการให้กับประชาชนนั้น
แต่พบว่าในการลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ ตั้งแต่วันที่ 5 – 21 กันยายน 2565 มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 16,243,908 ราย เพิ่มขึ้นจากที่เปิดใช้บัตรคนจนครั้งแรกในปี 2559 จนถึงผู้ถือบัตรคนจนเดิมอยู่ที่ 13.3 ล้านคน นั่นหมายความว่า ภายในปีเดียวคนจนเพิ่มขึ้นกว่า 3 ล้านคนแล้ว แบบนี้หรือที่รัฐบาลบอกว่าเป็นความสำเร็จของโครงการบัตรคนจน ที่ลดความเหลื่อมล้ำได้
ทั้งนี้ มองว่า การออกมาให้ข้อมูลของรัฐบาล เป็นการให้ข้อมูลที่ไม่เข้าใจบริบทของสังคม และไม่สามารถมีโครงการดีๆเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนได้ การแจกเงินอย่างเดียวไม่เกิดประโยชน์ ไม่สามารถลดความเหลื่อมล้ำได้จริง เพราะบทวิเคราะห์ของธนาคารเกียรตินาคินภัทร ระบุว่า
ความเหลื่อมล้ำ ของไทยมีแนวโน้มปรับขึ้นสูงเรื่อยๆ เศรษฐกิจไทยโตแบบไม่ทั่วถึง เกิดภาวะ ‘รวยกระจุก จนกระจาย’ สินทรัพย์ของคนทั้งประเทศมากกว่า 77% ไปกระจุกตัวอยู่กับกลุ่มนายทุนเจ้าสัว ทำให้ไทยกลายเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งมากที่สุดในโลก
นายคุณากร กล่าวด้วยว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศว่าวันที่ 30 กันยายน 2565 คนจน ในประเทศไทยจะหมดไป หรืออีก 8 วันเท่านั้นที่ประเทศไทยจะไม่มีคนจน แต่เหตุใดรัฐบาลยังคาดการณ์ว่าจะมีคนมาลงทะเบียนบัตรคนจนถึง 20 ล้านคนซึ่งหมายความว่าคนยังจนเพิ่มเรื่อยๆ
ในขณะที่คนไทยกว่า 31% ทำงานในภาคเกษตร แต่กลับเจอราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้การเติบโตของรายได้อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ความเหลื่อมล้ำกว้างขึ้น โครงการที่รัฐบาลอ้างว่า ประสบความสำเร็จ หรืออ้างว่าช่วยคนจน แท้จริงแล้วใครได้ประโยชน์ กลุ่มนายทุนหรือประชาชนกันแน่
รัฐบาลเอาพี่น้องเกษตรกรไทยไว้ตรงไหน ทั้งหมดสะท้อนว่ารัฐบาลบริหารล้มเหลวโดยสิ้นเชิง สิ่งที่รัฐบาลต้องทำไปพร้อมกันคือการแจกโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้
“รัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ บริหารประเทศล้มเหลว กู้เงินมาแจก จนล่าสุดสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะออกมายอมรับว่า ไทยมีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปีงบฯ 65 อยู่ที่ 98.33% ต่อจีดีพี คิดเป็นมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านบาท ผลจากการบริหารที่ไร้ความรับผิดชอบของรัฐบาล ได้สร้างภาระหนี้ให้ลูกหลานใช้หนี้อีก 100 ปีก็ไม่หมด
อะไรคือความสำเร็จ ยิ่งบริหารยิ่งเป็นหนี้ การใช้งบประมาณของรัฐบาลไม่ควรมองแต่มิติการเมืองต้องมองถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับด้วย การกู้เงินมาแจกในช่วงเวลานี้ สังคมจะมองว่าซื้อเสียงล่วงหน้าหรือไม่ หากทำแบบนี้ จะเป็นการสร้างภาระมากกว่าประโยชน์ให้กับประชาชน” นายคุณากร กล่าว