‘ขอโทษ’ ยังไม่พอ – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ไม่รู้ใช้อวัยวะส่วนไหนคิดครับ

ผลถึงได้ออกมา น่ารังเกียจสุดบรรยาย

ได้ยินชื่อ เห็นพฤติกรรมกันมานานพอควรแล้ว สำหรับ “นารา เครปกะเทย” หรือ นายอนิวัติ ประทุมถิ่น เน็ตไอดอล อดีตคนขายเครป

คราวนี้ได้รู้จักมากขึ้น

จากประวัติชอบสร้างเรื่องราวขึ้นมาดิสเครดิตรัฐบาล บางทีก็เลยเถิดก้ำกึ่งไปถึงสถาบัน เมื่อตกเป็นประเด็นร่วมกับลาซาด้า ก็เหมือนผีเน่ากับโลงผุ

จึงไม่แปลกใจอะไรที่

“นารา เครปกะเทย” นำเสนอเนื้อหาส่อไปในทางจาบจ้วงสถาบัน

ส่วน ลาซาด้า ขึ้นชื่อเรื่อง การตรวจสอบร้านค้า ทำให้ถูกร้องเรียนเรื่อง สินค้าปลอม อยู่บ่อยครั้ง

คลิปคอนเทนต์โปรโมตแคมเปญ Lazada 5.5 จึงเป็นการเจือสม อย่างไร้ความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง

ความไม่เหมาะสมนี้รอดหูรอดตา ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบออกมาได้อย่างไร

จากคำชี้แจงของ “นารา เครปกะเทย” ไม่ค่อยแปลกใจอะไรนัก

…ในส่วนของแอพที่ได้จ้างนาราทำงานการโปรโมทโฆษณาหนึ่ง ซึ่งงานที่นาราได้มานั้นคือละครที่นาราจะเสนอออกมา

โดยเนื้อเรื่อง ท่านแม่มาขโมยของนารา และจับตัวไม่ได้สรุป ท่านแม่เป็นคนเอาไป และจุดพีคของที่นาราคิดคือ แม่เดินได้

นี่คือบทละครที่นาราทำมา ไม่มีเจตนาหรือล้อเลียนใครในส่วนของคลิปนะ พูดจริงๆ สาบานให้ตายว่าไม่ได้จะพาดพิงใคร (แต่รูปอะ อยู่ในใจ) และคิดว่าการแสดงแบบนี้นาราก็ไม่ได้ทำคนเดียว ยังมีอีกหลายตัวละครที่เล่าบทนี้

และทางแอพก็ไม่ได้มีส่วนในการบรีฟงานในครั้งนี้ และงานนี้เป็นงานเร่งด่วนนาราถ่ายงานพอดีเลยให้หนูรัตน์ได้ถ่ายด้วย

ถ้าในส่วนของคลิปนาราตั้งใจที่จะล้อเลียนใคร นาราจะเอา mom ดิว มาถ่ายคลิปด้วยแล้ว แต่นี้เจตนาของนารา คือ หนูรัตน์ที่เล่นเป็นแม่และขโมยของแค่นั้น…

เจตนาในการสื่อสารต่อสาธารณะก่อนมีเรื่องนั้นอาจเป็นแบบหนึ่ง แต่หลังเป็นประเด็นขึ้นมา แน่นอนว่า กลายเป็นอีกอย่าง

ยกตัวอย่างกรณี “นารา เครปกะเทย” ไปเกณฑ์ทหาร เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ได้โพสต์ภาพตัวเองใส่เสื้อยืดสีขาวสกรีนรูปหน้าของ “ลุงตู่” พร้อมเขียนข้อความว่า “มาทำตามหน้าที่ เผื่อจะได้เป็นนายก”

จากนั้นไปเปลี่ยนเสื้อมาเป็นชุดสีดำ อ้างว่า “โดนไล่ให้ไปเปลี่ยนเสื้อ ไม่งั้นจะไม่เรียกชื่อให้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร ขอโทษทีค่ะ หนูมีสำรอง”

“เปลี่ยนก็เปลี่ยน หนูไม่ซีเรียส เพราะว่าหนูใส่มาก็ไม่ล้อเลียน หรือทำให้เสียหาย หนูอยากมาแบบเรียบร้อย แต่ไม่ซี เพราะทหารหล่อน่ารัก ก็เจอชุดดำไปเลย”

มีประเด็นให้น่าสงสัยอยู่ไม่น้อย

ไปเกณฑ์ทหาร และมีเสื้อไปเปลี่ยนด้วย

ก็อาจอ้างได้ว่า โดยอาชีพอาจมีเสื้อผ้าติดอยู่ในรถ การเปลี่ยนจึงทำได้ง่ายๆ

แต่ความจริงก็ปรากฏออกมาว่า ไม่มีใครไล่ไปเปลี่ยนเสื้อ

เพราะกองทัพบกไม่ได้กำหนดเครื่องแต่งกายที่เป็นลักษณะข้อบังคับใดๆ

ดังนั้นผู้เข้ารับการตรวจเลือกสามารถแต่งกายตามสะดวกในชุดสุภาพ เข้าร่วมการตรวจเลือกตามวันและเวลานัดหมายได้

ไม่มีใครติดใจเสื้อยืดสีขาวสกรีนรูปหน้าของ “ลุงตู่”

เพราะไม่มีอะไรบ่งบอกว่า ไม่เหมาะสม

มันก็เลยเกิดข้อสงสัยว่า สร้างสถานการณ์เท็จขึ้นมา ใช่หรือไม่?

มาคราวนี้ การที่ “นารา เครปกะเทย” อ้างว่าไม่มีเจตนาหรือล้อเลียนใคร ถ้าตั้งใจที่จะล้อเลียนใคร นาราจะเอา mom ดิว มาถ่ายคลิปด้วยแล้ว มันกลายเป็นประเด็นที่ลึกลงไปอีก

“mom ดิว” หรือ นายกิตติคุณ ธรรมกิติราษฎร์ เป็นคู่หูที่ถูกจับตามองมานาน เกี่ยวกับการแต่งกาย และใช้เสียง ล้อเลียน ที่ส่อว่าหมิ่นสถาบันเบื้องสูงมาระยะหนึ่งแล้ว

ในแวดวงนี้ ต่างก็รู้ดีกันอยู่แล้วว่า บทบาทของแต่ละคนเป็นอย่างไร

โดยเฉพาะกองเชียร์สามนิ้ว ต่างก็ยกเป็นไอดอล

ฉะนั้นการบอกว่า ถ้าตั้งใจล้อเลียน จะเอา หม่อมดิว มาด้วย มันก็เป็นการยอมรับกลายๆ ว่า ที่แท้จริงแล้วมีแนวความคิดที่จะล้อเลียนมาตั้งแต่ต้น

ต่อให้ตัดประเด็นหมิ่นสถาบันฯ ออกไป ก็ยังมีประเด็นละเมิดความเป็นมนุษย์อยู่ดี

เสียดายว่าคราวนี้ นักสิทธิมนุษยชนชั้นหัวกะทิทั้งหลาย ปากหนักไปหน่อย ยังไม่มีใครออกมาพูดถึงการบูลลีผู้พิการ

คลิปคอนเทนต์โปรโมตแคมเปญ มันมีเรื่องให้ทำเยอะแยะครับ ยิ่งเป็นคลิปขายของด้วยแล้ว หยิบอะไรมาทำได้เกือบหมด

แต่ทำไมต้องเป็นผู้พิการ นั่งวีลแชร์ และยังมีท่าทางที่ไม่ปกติทางร่างกายอย่างอื่นด้วย

และทำไมต้องสวมชุดไทย

ต้องการล้อเลียนใคร?

เรื่องแบบนี้เอามาขายได้หรือไม่

คงต้องถามผู้บริหารตั้งแต่ บริษัท อินเตอร์เซคท์ ดีไซน์ แฟคทอรี่ จำกัด ผู้ประสานงานและติดต่อจัดทำคลิปโปรโมตแคมเปญ และ ลาซาด้า ผู้ว่าจ้าง

ได้ดูคลิปของ “นารา เครปกะเทย” ก่อนที่จะนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะหรือไม่

หรือดูแล้วเกิดความรู้สึกอะไรหรือไม่

จากคำชี้แจงของ ลาซาด้า

“…บริษัทลาซาด้าขอใช้โอกาสนี้ในการขออภัยต่อความผิดพลาดที่เกิดจากการผลิตและเผยแพร่เนื้อหาวิดีโอโดยอินฟลูเอนเซอร์ ‘นารา เครปกะเทย’ บนโซเชียลมีเดีย เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา เราเข้าใจดีว่าเนื้อหาดังกล่าวสร้างความกระทบกระเทือนจิตใจต่อสังคมและลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ ทันทีที่เรารับทราบถึงคลิปดังกล่าว เราได้มีคำสั่งให้ถอดคลิปดังกล่าวออกทันที เพราะเนื้อหาและข้อความเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักการทำงานและความเชื่อของลาซาด้าในการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ให้ความเคารพต่อกันและกัน และไม่แบ่งแยก

แม้ว่าทางบริษัท อินเตอร์เซคท์ ดีไซน์ แฟคทอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนที่ดูแลการจัดการด้านอินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงคุณนาราเอง จะได้ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อสาธารณชน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมแล้วก็ตาม แต่เหตุการณ์ที่ผิดพลาดอย่างรุนแรงในครั้งนี้เป็นผลมาจากความไม่รอบคอบของทางลาซาด้าอย่างปฏิเสธไม่ได้ หากเนื้อหาในวิดีโอดังกล่าวได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน วิดีโอนี้จะไม่ได้รับการเผยแพร่อย่างแน่นอน เนื่องจากมีเนื้อหาที่ขัดต่อหลักการที่ลาซาด้ายึดถือ…”

สรุปคือ รู้ว่าผิด ขอโทษ ที่กระเทือนจิตใจต่อสังคม และลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ แต่ไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน

ประเด็นคือ อินเตอร์เซคท์ ดีไซน์ แฟคทอรี่ จำกัด และลาซาด้า มีประวัติของ “นารา เครปกะเทย” อยู่ในมือหรือไม่

เคยติดตามหรือเปล่าว่ามีการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ค่อนข้างล่อแหลมมาอย่างต่อเนื่อง

หรือไม่ได้สนใจ

เพราะนี่คือหนึ่งในกลุ่มคนที่ถูกจับตามองว่าเคลื่อนไหวสุ่มเสี่ยงหมิ่นสถาบันฯ มาอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะ หม่อมดิว ที่มีภาพปรากฏอยู่ในคลิปคอนเทนต์โปรโมตแคมเปญนี้ด้วย

เห็นทีว่าขอโทษเฉยๆ ไม่น่าจะพอครับ


Written By
More from pp
กรมควบคุมโรค แนะประชาชนเตรียมตัวให้พร้อมรับอากาศเย็นช่วงปีใหม่ หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน อาจเสี่ยงเจ็บป่วยได้
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนที่เดินทางไปต่างจังหวัดหรือกลับภูมิลำเนาในช่วงปีใหม่ ควรเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง บางพื้นที่อาจ มีสภาพอากาศที่หนาวเย็น ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพทำร่างกายให้อบอุ่น เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
Read More
0 replies on “‘ขอโทษ’ ยังไม่พอ – ผักกาดหอม”