สันต์ สะตอแมน
“เห็นข่าวแล้วนึกถึงอดีต..
โดนรุ่นพี่นักแสดงขอร้องให้ไปทานข้าวกับรัฐมนตรี ไปถึง แยกแม่นั่งรอข้างล่าง พอเจอ ขอดูเล็บแล้วลูบมือลูบไม้ ไม่น่าเชื่อ ผ่านมา 30 ปี ยังใช้ลูกไม้เดิมๆ”
เออนะ..ผ่านมา 30 ปีแล้ว อดีตนางเอกดัง “ลูกศร” คุณธนาภรณ์ รัตนเสน ที่แต่งงานมีลูกเต้าตั้ง 4 คน มีความสุขสบาย ก็ยังอุตส่าห์คิดหวนรำลึกถึงอดีต (ขม) ขึ้นมาอีก
นึกถึงอยู่คนเดียวที่บ้านไม่พอ ยังได้โพสต์ผ่านไอจีให้คนอื่นที่ไม่เคยรู้ ได้รู้ คล้ายกับจะสื่อว่า นางเอกดังหน้าตาสะสวยอย่างเธอนั้น..
ก็เคยโดน-เคยถูกลวนลามโดยบุคคลระดับ “รัฐมนตรี” มาแล้วเหมือนกัน แต่เพื่อตัดปัญหาที่ต้องตอบคำถามต่อ คุณลูกศรจึงรีบออกตัวท้ายว่า..
“อย่าถามว่ารัฐมนตรีคนนั้นคือใคร ?? เพราะเสียชีวิตไปแล้วค่ะ”!
ดูสิ..ขนาดเสียชีวิตไปแล้ว คุณลูกศรก็ยังจะทำให้คนสงสัย.. “ใครหว่ารัฐมนตรีคนนั้น”? ที่สำคัญ ครอบครัวที่มีสามี-มีพ่ออดีตเคยเป็นรัฐมนตรีที่เสียชีวิตไป..
ย่อมจะคิดและถามตัวเอง.. “ผัวกูรึเปล่าเนี่ย” ลูกเต้าก็พลอยอยากรู้.. “พ่อเรารึเปล่าแม่” ให้เป็นที่ระแวง-ไม่สบายใจขึ้นมาซะเปล่าๆ!
นี่..ถ้าดารา-นางเอกเกิดนึกถึงอดีตที่เคยถูกลวนลามกันขึ้นมาพร้อมๆ กัน ผมว่าข่าวฉาวของคุณปริญญ์คงจะเฉาลงทันตา เพราะจะว่าไปแล้ว นักแสดงสาว กับนักการเมือง-รัฐมนตรี..
จะอดีตหรือปัจจุบันก็เห็นจะไม่ต่าง ขึ้นอยู่กับว่าบริหารจัดการกันอย่างไรให้ลงตัว หาก “พอใจกัน” ทั้งสองฝ่าย ก็..เงียบกริบ!
พูดไปเดี๋ยวจะไม่เป็นธรรม คนในวงการสื่อก็ย่อยเสียเมื่อไหร่ เรื่องนัดทานข้าวกับนักแสดงสาว-นางเอกสวย มีให้เข้าหู-ให้ซุบซิบกันมาตลอด
และบอกให้..ยังมีชีวิต ยังมีอิทธิพล ยังมีบารมีกันอยู่ด้วยนะ (บางคนแค่จนลงหน่อย555) อ้อ..ถึงถามผมก็ไม่บอกชื่อ-แซ่ครับ!
ส่วนรายนี้ นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ “ติ๊งต่าง” ผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ที่โพสต์ข้อความ.. “แรมโบ้ประกาศไขก๊อกกรณีคลิปเสียง แล้วไงต่อ”
น่าจะไม่ใช่การถาม เพราะเจ้าตัวได้ละเลงต่อว่า.. “แล้วเรื่องจะเงียบรึ ปชช.ได้ยินกันทั้งประเทศ พวกเราไม่เชื่อว่าแรมโบ้พูดเล่น มีแค่นายกเพียงคนเดียวกระมังที่เชื่อ
ดังนั้น .. นายกฯต้องตั้งกรรมการสอบ ว่าเรื่องคลิปเสียงนั้นมีที่ไป ที่มาอย่างไร .. กรรมการที่จะมาทำหน้าที่สอบ ก็ต้องไม่ใช่คนของนายกฯ ต้องเป็นคนนอก.”
อืมม..ก็เป็นข้อเสนอที่น่ารับฟังนะ แต่คุณแรมโบ้ก็ได้ประกาศลาออกหมดทุกตำแหน่ง-หน้าที่ไปแล้ว
จะเหลือก็ทางกฎหมายที่มีการฟ้องร้อง ซึ่งนั่นก็อยู่ที่หลักฐาน-พยาน และจากการลาออกนี้ ด้านดีก็คือ คุณแรมโบ้ได้สร้างบรรทัดฐานให้กับการเมืองไทยเอาไว้ในอนาคต!
ว่าแต่ “ติ๊งต่าง” เป็น “แม่ยก” พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่รึ ทำไมถึงปล่อยให้พรรคโดนตำหนิ-โดนด่าเละล่ะ?
ทำไมไม่คิดจะพูดจะเสนอให้หัวหน้า-กรรมการบริหาร ทำหน้าที่สอบเรื่องฉาวในพรรคเสียแต่แรก และไม่เสนอไม่ว่า แต่ที่ “ติ๊งต่าง” บอก..
“กรณีข่าวของคุณปริญญ์ ไม่ควรโยงมาถึงพรรค มาด่าว่าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะคุณปริญญ์ได้ลาออกจากทุกตำแหน่งของพรรคไปแล้ว
จะมากล่าวหาว่าพรรคได้อย่างไร เพราะเป็นการกระทำส่วนตัวของคุณปริญญ์ พรรคไม่ได้ไปเกี่ยวข้องต่อการกระทำของคุณปริญญ์เลยสักนิด”
แบบนี้..เขาเรียกว่า “พูดเอาแต่ได้” ทีเรื่องของคุณปริญญ์โยนให้เป็นเรื่องส่วนตัว แต่กับการกระทำ (พูดเล่น) ของคุณแรมโบ้ กลับจีบปากจีบคอจี้ให้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้
ทั้งๆ ที่จะว่าไปก็เป็นเรื่องส่วนตัวที่ชัดเจน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนายกฯ หรือถ้าจะพยายามให้เกี่ยวติ๊งต่างก็ต้องหาพยาน-หลักฐานมายัน
ยืนยันเหมือนกับที่ทนายษิทราได้พยายามค้นหาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งคุณปริญญ์จะถูก-จะผิดที่สุดศาลจะเป็นผู้ตัดสิน เช่นกันคุณแรมโบ้จะพูดเล่น-พูดจริง..
ใจร่มๆ เดี๋ยวรู้กัน!