14 พฤศจิกายน 2564 ที่โรงพยาบาลสวี ตำบล นาโพธิ์ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมปัญหาอุทกภัย และให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ไปจนถึงจิตอาสา
ซึ่งนายอนุทิน กล่าวว่า มีความกังวลว่าการฉีดวัคซีน จะได้รับผลกระทบเพราะปัญหาน้ำท่วม ขอให้สบายใจว่า เรื่องนี้ เป็นภารกิจเร่งด่วน และปัจจุบัน เราให้บริการในเชิงรุกแล้ว การฉีดไม่ได้กระจุกตัวอยู่ที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ แต่ให้บริการได้แล้วที่ รพ.สต.
ดังนั้น ประชาชนได้รับความสะดวก และความยืดหยุ่นตรงนี้ จะทำให้เราสามารถให้บริการได้ตามต้องการ ส่วนข้อเสนอเรื่องการบรรจุข้าราชการใหม่ ตนได้รับทราบข้อเสนอ และจะพยายามหาทางออกให้ทุกฝ่ายพอใจ รัฐบาลไม่ทอดทิ้งคนทำงาน
ตนก็พร้อมผลักดันช่วยเหลือ และนี่คือโอกาสที่ดีทีสุด เพราะมีผลงานจากการคุมโควิด ตนจะผลักดันสุดแรง รัฐบาล และประชาชนทั้งประเทศ เห็นการทำงานของบุคลากรการแพทย์ มั่นใจว่าทุกฝ่ายพร้อมสนับสนุน แต่ก็มีขั้นตอนทางราชการให้คำนึงถึง
ได้พบเห็นหน้างาน ได้รับทราบปัญหา ได้ฟังเสียงสะท้อน ก็พร้อมช่วยเหลือทุกท่าน และต้องขอ ขอบคุณฝ่ายบริหารในพื้นที่ ที่จัดการ สถานการณ์อย่างดี ส่วนระบบสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน ตนพยายามพัฒนาให้ดีขึ้น
พี่น้อง อสม.ต้อง ขอความร่วมมือ ให้ไปสื่อสารกับประชาชนเชิญชวนมารับวัคซีน เมื่อรับวัคซีนแล้วต้องตระหนักอยู่เสมอว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยหนักและการสูญเสีย ดังนั้นแม้จะได้รับวัคซีน ก็ยังต้องมีวินัยในการใช้ชีวิต ในอนาคตจะมีเข็มบูสเตอร์เข้ามาในพื้นที่ ต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องนักรบชุดเทา ช่วยไปเชิญชวนให้ประชาชน มาฉีดเข็ม 3 ขอบคุณ อสม.ทุกท่าน ที่ช่วยสนับสนุนงานด้านสุขภาพเสมอมา
ในเรื่อง ทรัพยากรวัคซีน ประเทศไทยจัดหาเข้ามาเรื่อยๆ เป้าการฉีดของเราคือ 70% ของประชากร แต่เราสามารถให้บริการได้มากกว่านั้น หากประชาชนต้องการ ล่าสุด เราไม่ได้มองแค่เรื่องการฉีดเฉพาะในประเทศแต่ได้วางแผนไปถึงการสนับสนุน วัคซีนให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ในกรณีที่เรามีวัคซีนมากพอและเรามั่นใจ เราจำเป็นต้องแบ่งปัน วัคซีนให้ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะสร้างความปลอดภัยให้กับคนในชาติเราเองด้วย